ธรรมะสมสมัย

หลวงพ่อไสว ชมไกร



มีสติเจริญอยู่กับภาวนา

ท่านสาธุชนทั้งหลาย วันนี้ทำความเข้าใจเรื่องภาวนา ภาวนา เป็นการบริกรรมในทุกอิริยาบถในทุกขณะอย่างต่อเนื่อง อย่างเรื่องภาวนาปธาน คือ เพียรทำกุศลธรรมที่ยังไม่เกิด ให้เกิดมีในตนในทุกสถาน ภาวนาเป็นสื่อสะพานก้าวสู่การเจริญ ปัสสัทธิธรรม คือใหมีความสงบกายสบายใจ เพื่อให้มีความตั้งมั่นในสมาธิ อีกทั้งมีความวางเฉยในอุเบกขาธรรม จักขุสัมผัสใดๆ เกิดขึ้นก็ให้ระวังจิต เท่านี้ก็ทำงานได้ตลอดวันอย่างสมบูรณ์หน้าที่ทุกขณะนั้นๆ เท่านั้นเอง

การตั้งจิตสัมผัสอารมณ์ภาวนาบริกรรมอยู่กับชีวิตของทุกคนในทุก ๆ วัน ขอเพียงตั้งใจระลึกในใจเสมอว่า "เราจะมีสติเจริญอยู่กับภาวนา" เมื่อสติของเราเจริญอยู่กับภาวนา ธรรมทั้งหลายก็จะอยู่กับใจ เราทุกคนจะสามารถนับลมหายใจเข้าออกได้เสมอทุกสถานะการณ์ เรียกว่ามีชีวิตติดธรรม โดยการมีภาวนาเป็นปัจจัย

ชีวิตเรามักจะมีเรื่องทำให้วุ่นวายอยู่ต่าง ๆ นานา เดี๋ยวเรื่องนั้นเดี๋ยวเรื่องนี้ ครั้นจะมุ่งหน้าไปทันทีทันใดก็ไม่ได้ ครั้นจะถอยหลังกลับไปก็ลำบาก เหมือนรถที่กำลังติดอยู่บนท้องถนน ซึ่งคนใช้รถใช้ถนนทราบดีเกี่ยวกับอุปสรรคบนท้องถนน ทำให้คนขับรถหงุดหงิดบ่นนั่นบ่นนี่ไปตามเรื่อง

จึงบอกว่าชีวิตต้องติดธรรม ท่องไว้ในใจเสมอว่า ใจเย็น ๆ ไม่เป็นไร เป็นธรรมดาในการเดินทาง ทุกอย่างแก้ไขได้ "ชีวิตก็เปรียบเหมือนการเดินทาง" เสียเวลานิดหน่อยดีกว่าเสียชีวิต เพราะชีวิตยังอยู่ก็ยังมีโอกาสปรับปรุงให้ดีได้


ให้ทานก่อนกิน

ส่วนที่หนึ่ง นั้นนำไปใส่บาตรถวายเป็นบุญเป็นทาน ส่งเสริมสืบกาลอายุพระพุทธศาสนา ส่งเสริมจริยาพระเจ้าพระสงฆ์ รูปที่ประสงค์ภิกขาจาร มารับอาหารเที่ยวบิณฑบาตประกาศธรรม

ส่วนที่สอง เลี้ยงหาดูแลครอบครัวสมภูมิผู้นำ ทำให้ทุกชีวิตให้อิ่มท้องไม่ข้องขัด ไม่ให้เกิดอัตคัตและขัดสน พ่อแม่ปู่ตาย่ายายพี่น้องลูกหลานทุกผู้คน มีความสุขกาย เจริญวัย มีความสุขใจ เจริญจิต

ส่วนที่สาม ให้ทานแด่กัลยามิตรด้วยจิตไมตรี ยินดีเสียสละด้วยความเอื้อเฟื้อเพื่อสร้างสรรค์ต่อส่วนรวม เพิ่มเติมคุณงามความดีให้เกิดคุณค่าแท้แน่วแน่ควรคู่สู่สังคม

การที่ให้ทานก่อนกินมีความลึกซึ้งซ่อนแฝงมาแต่เก่าก่อน เกิดคุณธรรมประจำใจ ได้ระลึกรู้คุณค่าน่าเชิดชูท่านผู้เป็นปราชญ์เมธี ผู้ปลูกสร้างส่งเสริมความกตัญญูกตเวทิตาธรรม


รักษาศีลก่อนยาตรา

คำพระท่านว่า ศีล คือปกติ ศีล คือความหนักแน่น ศีล คือความองอาจไม่ครั่นคร้าม ศีล คือความแกล้วกล้าอาจหาญ ศีล คือแม่บทแห่งกัลยาณธรรมทั้งปวง

"อาทิ สีลํ ปติฏฺฐา จ กลฺยาณานญฺจ มาตุกํ

ปมุขํ สพฺพธมฺมานํ ตสฺมา สีลํ วิโสธเย" (ขุทท เถร)

ศีลเป็นเบื้องต้น เป็นที่ตั้งอาศัย เป็นมารดาของกัลยาณธรรมทั้งหลาย เป็นประมุขของธรรมทั่วไป ฉะนั้น ควรชำระศีลให้บริสุทธิ์

คนดีมีศีลสัตย์จะเดินทางไปในที่ใด ๆ ย่อมปลอดภัยไม่มีความเดือดเนื้อร้อนใจ หลวงพ่อไปธุดงค์ในป่าใหญ่ ป่าลึก ที่ที่ไม่มีผู้คนอยู่อาศัย มีแต่ป่าไพรอันสงัด อำนาจแห่งศีลนี่แหละทำให้แกล้วกล้าในที่ทั้งปวง เสือ ช้าง ผีป่า ก็ไม่ทำอันตราย ปลอดภัยอย่างห้าวหาญ ไม่กลัวป่าเพราะธรรมและเทวดาคุ้มครอง

ดังนั้นก่อนออกเดินทางไปในที่ใด ๆ ให้ท่านทั้งหลายตั้งจิตอธิษฐานว่าจะเป็นผู้มีศีลหรือมีความเป็นปกติ ไม่คิดเบียดเบียนหรือคิดทำร้ายใคร เป็นต้น

เมื่อมีความเป็นปกติอย่างนี้ ก็จะไม่มีโทษแก่ใคร ๆ ย่อมมีแต่ความเจริญดังที่ปรากฎใน ลักขณชาดก ขุททกนิกาย ความว่า

"ความเจริญย่อมมีแก่ชนทั้งหลายผู้มีศีล ประพฤติในปฏิสันถาร" และในสีลวีมังสชาดก ขุททกนิกาย ว่า

"ศีลเป็นความงาม ศีลเป็นเยี่ยมในโลกบุคคลผู้มีศีล ย่อมเป็นที่รักของญาติทั้งหลาย และรุ่งเรืองในหมู่มิตร เมื่อตายไปแล้ว ย่อมเข้าถึงสุคติ"

ดังนั้นควรฝึกเป็นคนมีศีลไว้เพราะ "คนมีศีลเหมือนดินมีน้ำ คนขาดศีลเหมือนดินขาดน้ำ"


สวดมนต์แผ่เมตตาก่อนนอน

สมัยหลวงพ่อเป็นพระหนุ่ม ๆ เคยได้ไปร่วมงานอบรมครูสอนศีลธรรมของกรมการศาสนา ในสมัยนั้น เขามีเปิดเพลงขององค์กรเปรียญธรรมสมาคมในงาน มีใจความว่า

๐ ก่อนท่านนอนหลับไปในคืนนี้ ขอจงตั้งดวงฤดีไว้ให้มั่น คิดถึงกุศลผลแห่งดีที่ผูกพัน จิตตั้งมั่นแน่วแน่แล้วแผ่ไป

๐ แผ่เมตตาทั่วไปให้คนอื่น ทั้งรักชื่น - เกลียดชัง แต่ครั้งไหน ? ขอให้เขาได้ดีมีสุขใจ อย่าหวั่นไหวแม้อมิตรที่คิดชัง

๐ แล้วใจเราจะสบายคลายเร่าร้อน เพราะจิตผ่อนความเครียดแต่หนหลัง "อนีฆา สุขี อัตตานัง" ห่างทุกขังด้วยเพราะจิต "คิดดี" เอยฯ

การสวดมนต์แผ่เมตตาก่อนนอน จะทำให้จิตใจสงบ รู้ปลง รู้วาง รู้ว่าง รู้เย็น เป็นเรื่องควรแก่จิตใจ ทบทวนว่าวันนี้เราได้ทำคุณงามความดีอะไรไว้บ้าง

พระผู้มีพระภาคตรัสตอบว่า "ความเจริญย่อมมีแก่คนมีสติทุกเมื่อ คนมีสติย่อมได้ความสุข ความดีย่อมมีแก่คนมีสติเป็นนิตย์ แต่คนมีสติยังไม่หลุดพ้นจากเวร" บาลีว่า

สติมโต สทา สาธุ สติมา สุขเมธติ สติมโต สุเว เสยฺโย เวรา น ปริมุจฺจติ ฯ

พระพุทธเจ้าทรงตรัสต่อไปอีกว่า "ผู้ใดมีใจยินดีในความไม่เบียดเบียนตลอดวันและคืนทั้งหมด และเป็นผู้มีส่วนแห่งเมตตาในสรรพสัตว์ ผู้นั้นย่อมไม่มีเวรกับใครๆ”

ขอท่านทั้งหลาย จงมีสติเจริญอยู่กับธรรม อยู่กับการภาวนาเป็นนิจ ฉบับหน้าพบกันใหม่ รูปขอจำเริญพร