ธรรมะสมสมัย

หลวงพ่อไสว ชมไกร



หลักธรรมที่นำไปสู่ความสมหวังในรัก

พุทธบริษัทสาธุชนผู้สนใจในธรรม สัปดาห์ที่ผ่านมามีโอกาสได้แสดง หลักธรรมที่นำไปสู่ความสมหวังความในรัก ในครอบครัว ในการครองเรือน โดยนำฆราวาสธรรมขึ้นแสดงฉลองบุญขึ้นบ้านใหม่ ของคุณเอกรัตน์ มณีโชติ คุณสายสมร บุญแท้ แถว ๆ เมือง Lake Forest เลยเมือง Irvine ไปหน่อย พิธีมงคลขึ้นบ้านใหม่ หรือเนื่องในโอกาสใด ๆ หากอาตมาไปก็ต้องมีแสดงธรรมทุก ๆ ที่ การสวดพระปริตรมงคลก็มีบ้างให้พอเหมาะ บางท่านถามว่า จะนิมนต์พระไปสวดมนต์ทำบุญที่ร้าน หรือที่บ้านต้องนิมนต์กี่รูป ตอบเป็นกลาง ๆ ว่า คติชนวิทยานิยมนิมนต์งานมงคล ตั้งแต่ 2-3 รูป 5 รูป 7 รูป 9 รูป เป็นหลัก หรือมากกว่าก็ไม่มีถือว่าผิด ไม่มีข้อเสียหายใด ๆ ด้วยถือคติว่า :-

สมณานญฺจ ทสฺสนํ เอตมฺมงฺคลมุตฺตมํ : การได้เห็นสมณะ เป็นมงคลอย่างยิ่ง

สมณะ คือ ผู้รู้ผู้สงบ หมายถึง บรรพชิตที่ได้บำเพ็ญสมณธรรม ฝึกฝนอบรมตนเอง ให้ถึงพร้อมด้วยศีล สมาธิ ปัญญา จนกระทั่งมีกาย วาจา ใจ ใสสะอาดบริสุทธิ์ สงบจากบาปอกุศลทั้งปวง ดำรงตนอยู่บนเส้นทางของพระนิพพาน ผู้ที่ได้พบเห็นสมณะถือว่าได้พบเห็นสิ่งที่เป็นสิริมงคล เพราะเห็นแล้วย่อมบังเกิดความเลื่อมใส อยากทำบุญกับท่านผู้เป็นเนื้อนาบุญอันเลิศ บุญกุศลย่อมส่งผลให้ประสบความสุขความเจริญในชีวิต แม้ละโลกไปแล้วก็เป็นเหตุให้ได้ไปสวรรค์และนิพพาน สาธุ ๆ

ส่วนงานทำบุญขึ้นบ้านใหม่ เมื่อวันเสาร์ที่ 17 มิถุนายน ที่ผ่านมา มีกัลยาณมิตร นำอาหารคาวหวานมาร่วมทำบุญ และร่วมแสดงความยินดีหลายท่าน เป็นต้นว่า Mr. George SadaGiani, Suparph Gibson, Miss Lila Schalbe, คุณนันทศิริ บุญญลักษณ์ และครอบครัว, คุณธนินทร์ - คุณธันยนันทร์ - ด.ญ.พิชาภัทร์ ฐิติเมธีอภิสุข, อีก 2 ท่านเขียนชื่อให้มาแกะลายมือไม่ออก ส่วนท่านที่มาร่วมบุญด้วยแล้วมิได้แจ้งชื่อก็ขออนุโทนาบุญมา ณ โอกาสนี้ด้วย


ผู้ครองเรือนควรทราบหลักฆราวาสธรรม

การดำเนินชีวิตทางโลกอย่างผู้ประสบความสำเร็จ "ต้องมีฆราวาสธรรม" ประกอบด้วย 2 คำ "ฆราวาส" แปลว่า ผู้ครองเรือน และ "ธรรม" แปลว่า ความถูกต้อง ความดีงาม ฆราวาสธรรม ประกอบด้วยธรรมะ 4 ประการ คือ สัจจะ ทมะ ขันติ และจาคะ ธรรม 4 ประการนี้ มีความสำคัญมาก หากท่าน "อยากจะประสบความสำเร็จต้องกล้าที่จะเปลี่ยนแปลงตัวเอง" หรือหากบุคคลต้องการที่จะประสบความสำเร็จทั้งในชีวิต การงาน ตำแหน่ง ฐานะ และความรักความอบอุ่นมั่นคงในครอบครัว ผู้นั้นต้องสร้าง สัจจะ ทมะ ขันติ และจาคะให้เกิดขึ้นกับตน ยิ่งถ้าสร้างและพัฒนาตัวเองจนเป็นคุณสมบัติขั้นพื้นฐานได้นั้น ก็จะทำให้สามารถสร้างเกียรติยศ สร้างปัญญา สร้างทรัพย์สมบัติ และสร้างหมู่ญาติมิตรให้เกิดขึ้นได้สำเร็จด้วยกำลังความเพียรของตนอย่างยิ่งยวด


ข้อปฏิบัติของหลักฆราวาสธรรม 4 ประการ ได้แก่

1. สัจจะ : แปลว่า ความจริงแท้

หลักความซื่อสัตย์ ความจริงใจต่อคนที่เรารัก เป็นหลักความมั่นคงของครอบครัว การคบหาสมาคมระหว่างบุคคลในสังคมไม่ว่าจะอยู่ในฐานะใด จำต้องมีสัจจะข้อนี้อยู่ด้วยเสมอ การแสดงออกซึ่งความซื่อสัตย์และความจริงใจต่อบุคคลที่เรารู้จัก ความซื่อสัตย์จริงใจ จักคงความสัมพันธ์ต่อกันชั่วนิจนิรันดร์

อานิสงส์ของการมีสัจจะ เป็นคนมีความรับผิดชอบ เป็นคนหนักแน่นมั่นคง ชีวิตและหน้าที่การงานมีความเจริญก้าวหน้า มีคนเคารพยกย่อง มีคนเชื่อถือและเกรงใจ มีคนรักใคร่นิยม มีเกียรติยศชื่อเสียง พบเจอกับรักแท้ เป็นต้น

โทษของการขาดสัจจะ ไม่มีความรับผิดชอบ เป็นคนเหลาะแหละ ไร้ความสามารถในการทำงาน ชีวิตพบแต่ความตกต่ำ ไร้คนรักจริง มีแต่คนดูถูก ไร้คนเชื่อถือ ไร้ความเจริญรุ่งเรืองในหน้าที่การงาน มียศเสื่อมยศ มีลาภเสื่อมลาภ เป็นต้น


2. ทมะ : แปลว่า การข่มใจ

รู้ข่มจิตรักษาใจ มีความหมายไปในทาง การรู้จักบังคับควบคุมอารมณ์ รู้ข่มจิตรักษาใจ พัฒนาเป็นองค์ความรู้ได้อย่างเป็นระบบ คนไหนมี EQ สูงก็จะควบคุมอารมณ์ของตนเองได้ดี หากใครมี EQ ต่ำก็จะมีปัญหาด้านการควบคุมอารมณ์ของตนเอง การอยู่ร่วมกันในสังคม หรืออยู่กับคนที่เรารักนั้น เราต้องปรับตัวเข้าหาเขา และเขาต้องปรับตัวเข้าหาเรา ถ้าฝ่ายใดฝ่ายหนึ่งแข็งขืน ไม่ยอมเข้าใจ และปรับตัวเข้าหากัน ก็จะทำให้ชีวิตรักหรือชีวิตคู่ไม่สมหวังดั่งตั้งใจ


ทมะ เปรียบได้กับ E.Q.

E.Q. ที่มีชื่อเต็มว่า Emotional Quotient หรือที่เรียกกันว่า ความสามารถที่จะเข้าใจ วิเคราะห์และใช้ความรู้สึกเกี่ยวกับอารมณ์ของตนเอง และผู้อื่นได้ คนที่มี EQ ที่ดีเป็นอย่างไร สังเกตได้ดังนี้

ลักษณะของผู้ที่มี EQ ที่ดี

1. สัมพันธ์ เป็นคนที่มีมนุษยสัมพันธ์ที่ดี รู้จักสร้าง รักษาสัมพันธ์ทีดีต่อตนเอง ต่อทุกคน

2. มั่นคง เป็นคนที่รักษาอารมณ์ของตนเองได้เป็นปรกติ แม้จะเผชิญกับแรงกดดันก็ตาม

3. ตรงเที่ยง เป็นคนที่มีความเป็นกลาง รักและผดุงความยุติธรรม

4. เรียงร้อย เป็นคนที่ใช้คำพูดที่อ่อนโยนกับทุกคนเสมอกัน จะเด่นหรือด้อยกว่าก็ตาม

5. ค่อยคิด เป็นคนที่คิดก่อนพูด แสดงอารมณ์ได้อย่างถูกกาลเทศะ สมฐานะ สมวัย

6. จิตสูง เป็นคนที่มีจิตใจสงบเย็น เป็นคนที่สามารถอ่านความรู้สึกของผู้อื่นได้ถูกต้อง

7. จูงใจ เป็นคนที่สามารถโน้มน้าวคนอื่นโดยไม่ต้องใช้อำนาจ และ

8. ไม่เครียด เป็นคนที่สามารถสร้างและใช้อารมณ์ขันได้อย่างมีไหวพริบ ถูกกาลเทศะ

"ทมะ" จึงเป็นการฝึกข่มใจระงับความรู้สึกต่อกันและกัน รู้จักยอมรับในความต่างกันและกัน รู้จักฝึกฝนปรับปรุง แก้ไข ปรับนิสัยและอัธยาศัยให้เข้าหากันได้

อานิสงส์ของการมีทมะ ทำให้เป็นคนรักการฝึกฝนตนเอง มีความสามารถในการทำงาน ไม่มีศัตรู ไม่มีความแค้นกับใคร สมารถระงับยับยั้งตนเองไม่ให้หลงไปทำผิด หรือหลงไปในทางที่ผิดได้ สามารถตั้งตัวได้ มีสมองดี มีปัญญาเป็นเลิศ มีใจที่สงบสุขเพราะควบคุมอารมณ์ได้ เป็นต้น

โทษของการขาดทมะ ไม่ฝึกฝนตนเอง ปล่อยชีวิตไปตามยถากรรม ขาดความสามารถในการทำงาน หลงผิดไปทำความชั่วได้ง่าย เข้าใจผิดในเรื่องต่าง ๆ ได้บ่อย เกิดการทะเลาวิวาทได้ง่าย มักลุ่มหลงในอบายมุข ทำให้ครอบครัวเดือดร้อน สร้างเนื้อสร้างตัวให้ดีได้ยาก เป็นคนโง่เขลา ปัญญาทึบ มีสติน้อย มักทำงานใด ๆ ผิดพลาดเสมอ เป็นต้น


3. ขันติ : แปลว่า ความอดทน อดกลั้น

หากต้องการให้ชีวิตสมหวัง สำเร็จดั่งใจหมาย หลักขันติธรรมข้อนี้สำคัญมาก หากใครไม่มีขันติธรรม ดูเหมือนว่า ชีวิตนี้ยากที่จะประสบความสำเร็จ และสำหรับชีวิตคู่นั้น นอกจากจะต้องมีความซื่อสัตย์ ความจริงใจ และความเข้าใจกันแล้ว จะต้องมีความอดทนอดกลั้นอีกด้วย เพราะการใช้ชีวิตอยู่ร่วมกัน ต้องรู้จักอดกลั้นระงับใจ ไม่ก่อเหตุให้เรื่องลุกลามกว้างขยายต่อไป จึงมีบางคนให้นิยามของความรักว่า "รักคือการอดทน" "รักคือความเข้าใจ" "รักคือการอยู่เคียงข้างกันทุกยาม" นับเป็นสิ่งที่ถูกต้อง

อานิสงส์ของการมีขันติ จึงทำให้อดทนต่ออุปสรรคและปัญหาต่าง ๆ ได้ดี ทำงานได้ดี เป็นที่พึ่งและหลักในครอบครัวได้ดี เป็นที่พึงให้คนอื่นที่เดือดร้อนได้ดี ทำให้ไม่มีเรื่องทะเลาะวิวาทกับคนอื่น ๆ ไม่หลงผิดไปทำความชั่ว และทำให้ชีวิตประสบความสำเร็จตามที่มุ่งหวังได้ เป็นต้น

โทษของการขาดขันติ ทำให้เป็นคนเหลาะแหละ ทำให้ผู้อื่นดูถูกเหยียดหยาม ไม่สามารถ อดทนต่อปัญหาและอุปสรรคใด ๆ ได้เลย ทำงานอะไรก็มักจะไม่สำเร็จ ไม่สามารถเป็นที่พึ่งให้ผู้อื่น ได้ หลงผิดทำชั่วได้ง่าย ไม่มีใครไว้วางใจจากผู้อื่น มีศัตรูมาก ชีวิตไม่มีความเจริญก้าวหน้า ไม่มีทางประสบความสำเร็จ หรือร่ำรวยได้ เป็นต้น


4. จาคะ : แปลว่า ความเสียสละ

จาคะ หมายรวมถึงความเผื่อแผ่แบ่งปัน ชีวิตคู่นั้น ต้องช่วยเหลือเกื้อกูลคนรักเสมอ เรียกว่าต้องแบ่งปันช่วยเหลือซึ่งกันและกัน แต่ถ้ามีฝ่ายใดฝ่ายหนึ่งมุ่งจะเอากับคนรักอย่างเดียว ก็จะทำให้เกิดการเบื่อหน่าย รู้ว่าอีกฝ่ายหนึ่งตั้งใจจะเอาเปรียบ ทำให้ไม่อาจอยู่ร่วมกันได้ การให้ที่ดีนั้น ต้องอยู่บนหลักของ ผู้ให้ให้ด้วยความเต็มใจ ผู้รับก็รับด้วยความสุข ผู้ให้ก็จะมีความสุขไปด้วย

หลักของจาคะ ยังหมายถึงการให้น้ำใจไมตรีต่อกัน การแสดงน้ำใจเอื้อเฟื้อต่อกัน ตลอดจนการเสียสละความพอใจและความสุขส่วนตนได้ เช่น ในคราวที่คู่ครองประสบความทุกข์ ความเจ็บไข้ หรือมีความลำบากก็สามารถช่วยเหลือเป็นที่พึ่งอาศัย หรือช่วยให้กำลังใจให้อีกฝ่ายได้

อานิสงส์ของการมีจาคะ ทำให้มีอารมณ์ผ่องใส มีนิสัยเสียสละ รักผู้อื่นเหมือนรักตนเอง ทำให้ตนเองปลอดภัย ผู้คนเคารพนับถือ ครอบครัวและสังคมเป็นสุข มีเพื่อนดี จิตใจมีความสุข ไม่เห็นแก่ตัว ทำให้มีคนรักมากขึ้น เป็นต้น

โทษของการขาดจาคะ จิตใจเกิดความตระหนี่ถี่เหนี่ยว เป็นคนเห็นแก่ตัว ได้รับคำครหาติเตียน นินทาว่าร้าย มีความทุกข์ในใจ ไม่มีใครอยากเข้าใกล้ ไร้เพื่อนไร้บริวาร ไร้วาสนาบารมี ไร้คนรักคนเห็นใจ ไม่มีใครรักจริง เป็นต้น

สรุปส่วนที่เป็นคุณ หลักธรรมที่นำไปสู่ความสมหวังความในรัก ครอบครัว การครองเรือน จะทำให้ประสบความสำเร็จในชีวิตและครอบครัว แม้เราเป็นคนโสด คุณธรรมนี้ก็จะเหนี่ยวนำให้มีคนรัก คนเมตตา ทำให้สมหวังในความรักได้ ซึ่งเมื่อมีสัจจะย่อมมีเกียรติยศ มีผู้คนเชื่อมั่น เมื่อมีทมะย่อมได้รับปัญญา ควบคุมอารมณ์ได้ เมื่อมีขันติย่อมเกิดทรัพย์และความสำเร็จที่ตั้งใจไว้ และเมื่อมีจาคะย่อมเกิดมิตรที่ดี เกิดคนรักใคร่ ทำให้มีสมัครพรรคพวกที่ดีในสังคม เป็นต้น

สรุปส่วนที่เป็นโทษ การขาดฆราวาสธรรมคือ เมื่อขาดสัจจะย่อมเกิดปัญหา ถูกหวาดระแวง ไม่มีใครเชื่อถือ เมื่อขาดทมะย่อมเป็นผู้มีภาวะทางอารมณ์ต่ำ มีแต่ความโง่เขลา เบาปัญญา เมื่อขาดขันติย่อมเกิดปัญหาความยากจน จะทำอะไรก็ล้มเหลวไม่เป็นท่า และเมื่อขาดจาคะย่อมเกิดปัญหาความเห็นแก่ตัวเกิดขึ้น มีแต่คนอื่นเกลียดชัง เป็นต้น

ฆราวาสธรรมในพระพุทธศาสนา มีมาสองพันหกร้อยกว่าปีแล้ว นับเป็นหลักธรรมที่ทันสมัย สามารถเกื้อหนุนชีวิตคู่และความรักในปัจจุบันให้สมหวังได้ ไม่เพียงแต่ยังเป็นแนวทางในการปฏิบัติตนให้มีความรักที่ดีระหว่างคู่รักเพียง 2 คนเท่านั้น แต่สามารถที่จะนำไปปฏิบัติกับทุกคนในสังคมที่เราอาศัยอยู่ด้วย หรือนำไปพัฒนาตนเองเฉพาะบุคคลก็ย่อมดีมากเช่นกัน เพื่อที่จะทำให้สังคมมีแต่ ความสงบสุข และเต็มเปี่ยมไปด้วยความรักที่มอบให้กันและกัน รูปขอจำเริญพร