ธรรมะสมสมัย

หลวงพ่อไสว ชมไกร



"ความฝัน" สัมผัสแห่งปัจเจกชน

ท่านพุทธบริษัท สาธุชน ผู้สนใจในธรรมทั้งหลาย บางคนฝันได้ฝันดี ฝันเกิบทุกวันก็มี บางคนก็เคยฝันแต่ไม่บ่อยนัก บางท่านอยากฝันทำอย่างไร ๆ ให้ฝันก็ไม่ฝัน ไม่รู้เป็นเพราะเหตุไร ? หลวงพ่อว่า "ความฝัน เป็นสัมผัสแห่งปัจเจกชน เกิดขึ้นเป็นปัจจัตตัง


ความฝัน : หลวงพ่อไม่อยากพูดหรือเล่าอะไรหรอก เพราะมันไม่มีอยู่จริง (หรือเปล่า) หรืออย่างไร ? เรื่องนี้มีในพระไตรปิฏก มีวิธีคิด มีหลักอธิบาย ไม่ว่ากิจกรรมของชีวิตเราทุกคน ทุกวาระ ต้องมีหลักรู้ หลักคิด ให้เกิดปัญญาฝ่ายหลุดพ้นให้ได้ เพื่อไม่ให้เกิดความงมง่าย

ความฝัน : การนอนหลับบางทีมันเกิดมีเหตุการณ์ระหว่างหลับ "โบราณเรียกว่าฝัน" และปฏิเสธไม่ได้ว่า ไม่มีอยู่จริง มันเกิดได้กับทุกคนก็ว่าได้ แต่ไม่รู้ว่าจะฝันอะไร ยังไง วัยไหน ต่างกันอย่างไร ? แล้วแต่ !..เพราะเป็นเรื่องแต่บุคคล ประสบการณ์ตรง ประสบการณ์จริง เป็นของเฉพาะตน อาจฝันเหมือนกัน เรื่องเดียวกัน หรือ ไม่เหมือนกัน แล้วแต่ !..

ความฝัน : บางครั้งหลวงพ่อก็ไม่ได้ใส่ใจเรื่องราวที่เกิดขึ้นระหว่างหลับอะไรมากมาย เพียงกำหนดว่า "รู้หนอ ๆ แล้วก็ผ่านไป เท่านี้เพียงพอแล้ว" และพยายามสำรวจกระบวนการทางจิตให้เป็นเหตุผลทางวิทยาศาสตร์ เพื่อให้คนอื่นรู้ด้วยเหตุผล หรือสื่อกับคนรุ่นใหม่เข้าใจได้ แบบนี้ดีกว่าไหม ?

ความฝัน : มีหลายคนหลายท่าน นำพาความฝันมาหา มาเล่าสู่หลวงพ่อให้ช่วยมองช่วยเพ่ง ในนามพระภิกษุรูปหนึ่งมองว่า พระสงฆ์เป็นเนื้อนาบุญ ด้วยวิธีคิดให้เป็นวิทยา ศาสตร์ ทำให้หลวงพ่อเอาตัวรอดกับเหตุการณ์ต่าง ๆ ที่เกิดขึ้นกับตนเองระหว่างหลับ และเป็นวิธีคิดแบบขยายผลสู่การตอบโจทย์ ตีประเด็น แก้ปัญหา ให้ลูกหลาน และผู้อื่นได้เป็นอย่างดีและรวดเร็ว


ข้อความจากพระไตรปิฎก

พระวินัยปิฎก มหาวิภังค์ เล่ม 1 ภาค 3 - หน้าที่ 102 (อธิบายเหตุให้เกิดความฝัน 4 อย่าง) พระพุทธองค์ทรงกล่าวถึง สาเหตุแห่งความฝันไว้ 4 ประการ คือ

1. ธาตุวิปริตร (ธาตุโขกะ) ร่างกายไม่ปกติ อาจทำให้ฝันไปได้แปลก ๆ

2. จิตนิวรณ์ (อนุภูติบุพพะ) จิตไปผูกพันอยู่กับสิ่งใดมาก ๆ ก็อาจฝันถึงสิ่งนั้นได้

3. เทพสังหรณ์ (เทวโตปสังหรณ์) เทวดานำข่าวมาบอก อาจเป็นข่าวดีหรือข่าวร้ายก็ได้

4. กรรมนิมิต (บุพพนิมิต) กรรมดีหรือชั่วในอดีต จะมาให้ผล สัตว์มีกรรมเป็นของ ๆ ตน


อธิบายเหตุ 4 อย่าง

- คนผู้มีธาตุกำเริบ เพราะประกอบด้วยปัจจัยอันทำให้ดีเป็นต้นกำเริบ ชื่อว่า ย่อมฝัน เพราะธาตุกำเริบ และเมื่อฝัน ย่อมฝันต่าง ๆ เช่นเป็นเหมือนตกจากภูเขา เหมือนเหาะไปทางอากาศ และเหมือนถูกเสือร้าย ช้างร้าย และโจรเป็นต้น ไล่ติดตาม

- เมื่อฝันเพราะเคยทราบมาก่อน จิตอาวรณ์ ชื่อว่า ย่อมฝันถึงอารมณ์ที่ตนเคยเสวยมาแล้วในกาลก่อน

- พวกเทวดาย่อมนำอารมณ์มีอย่างต่าง ๆ เข้าไป เพื่อความเจริญบ้าง เพื่อความเสื่อมบ้าง

เพราะเป็นผู้มุ่งความเจริญบ้าง เพราะเป็นผู้มุ่งความเสื่อมบ้าง แก่บุคคลผู้ฝัน เพราะเทวดาสังหรณ์ ผู้นั้น ย่อมฝันเห็นอารมณ์เหล่านั้นด้วยอนุภาพของพวกเทวดานั้น

- เมื่อบุคคลฝันเพราะบุพนิมิต ชื่อว่า ย่อมฝันที่เป็นบุพนิมิตแห่งความเจริญบ้าง แห่งความเสื่อมบ้าง ซึ่งต้องการจะเกิดขึ้น ด้วยอำนาจแห่งบุญและบาป เหมือนพระมารดาของพระโพธิสัตว์ ทรงพระสุบินนิมิตในการที่จะได้พระโอรสฉะนั้น, เหมือนพระโพธิสัตว์ทรงมหาสุบิน 5 และเหมือนพระเจ้าโกศลทรงพระสุบิน 16 ประการฉะนั้นแล


จำแนกผลความฝัน 4 อย่าง

- ความฝันที่เกิดเพราะธาตุวิปริตร และจิตนิวรณ์ นั้น ทายว่าไม่เป็นจริง

- ความฝันที่ฝันเพราะเทวดาสังหรณ์ จริงก็มี เหลวไหลก็มี, เพราะว่าพวกเทวดาโกรธแล้ว ประสงค์จะให้พินาศโดยอุบาย จึงแสดงให้เห็นวิปริตไปบ้าง

- ส่วนความฝันที่คนฝันเพราะบุพนิมิต เป็นความจริงโดยส่วนเดียวแล นี้อธิบายเรื่องกรรม ท่านทั้งหลาย ความแตกต่างแห่งความฝัน แม้เพราะความแตกต่างแห่งมูลเหตุทั้ง 4 อย่างนี้ คละกันก็มีได้เหมือนกัน ก็แลความฝันทั้ง 4 อย่างนี้นั้น พระเสขะและปุถุชนเท่านั้น ย่อมฝันเพราะยัง ละวิปลาสไม่ได้ ส่วนพระอเสขะทั้งหลาย ย่อมไม่ฝันเพราะท่านละวิปลาสได้แล้ว


ความฝัน ที่หลวงฝัน :

หลวงพ่อเป็นพระปุถุชน เป็นพระชาวบ้าน พูดและคิดอย่างชาวบ้าน เพื่อให้ชาวบ้านผู้ครองเรือนเข้าใจ แต่โดยอาศัยหลักและวิธีคิดแบบอริยะชน วิธีแจกจิตแต่ละดวงว่า จิตมีวิถีเป็นอย่างไร

ความฝัน : หลวงพ่อเล่ามาตั้งเยอะแยะ เพราะหลวงพ่อฝัน เลยเล่าเรื่องความฝัน ถามว่าฝันเรื่องอะไร ? คือหลวงพ่อฝันเห็น ธงประจำพระองค์ สมเด็จพระเจ้าอยู่หัว ฯ รัชกาลที่ 10 ในชีวิตที่เกิดมานับว่าเป็นการฝันครั้งแรก (ก็ไม่ได้เล่าให้ใครช่วยแก้ หรือช่วยความคิด หรือจิตวิเคราะห์) ก็ไม่ทราบว่าอะไรจะเกิดขึ้นกับตนเอง หรือเกิดกับประเทศไทย

แต่ว่า...พ่อแม่ครูอาจารย์กล่าวไว้ โบราณเล่าว่าจะเกิดสิ่งเป็นสิริมงคล เกิดความเจริญรุ่งเรือง สิ่งดี ๆ จะเกิดขึ้นกับชีวิตเกิดโชคลาภทรัพย์สิน และชื่อเสียงเกียติศักดิ์ เป็นต้นฯ เล่ามากไปไม่ได้ ตามหลักการณ์ “ต้องพูดในสิ่งที่รู้ และต้องไม่พูดทุกสิ่งที่รู้” การบอกเล่าผ่านเฟสบุ๊ค เป็นการเล่าไว้เพื่อเป็นข้อสังเกตว่าการกระทำ การพูด การคิด ที่ถูกต้อง ดีงาม ชอบธรรม เป็นมงคล

ดังนั้น ความฝันดังกล่าวแล้ว หลวงพ่อจึงมีความตั้งใจว่า บ้านไหน เรือนใคร ห้างร้านกิจการ หรือบริษัทใด ๆ พึงตั้ง พึงติดธงสัญญลักษณ์ของสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว ฯ รัชกาลที่ 10 ให้เหมาะให้ควร เพื่อรวมหัวใจคนไทยทุกดวงเป็นหนึ่งเดียวกัน คือ ชาติ ศาสน์ กษัตริย์ และประชาธิปไตย ให้ก้าวไปสู่ความผาสุขนิรันดร์

อีกประการหนึ่ง : มีความคิดเห็นต้องการนำธงตราสัญญลักของพระองค์มาปักเพื่อเฉลิมพระเกียรติ ก็ดูว่าตั้งใจอย่างนี้จริง แต่ก็ไม่คิดว่าจะเก็บไปเป็นความฝันระหว่างหลับ เลยทำให้หลวงพ่อต้องบันทึกเรื่องความฝันนี้ไว้อย่างตั้งใจด้วยสติสัมปชัญญะที่ระลึกได้ ทบทวนได้ จำได้ มาเล่าฝากไว้ “นี้เป็นเรื่องครั้งหนึ่ง ครั้งแรกที่หลวงพ่อฝันแล้วมีความสุขที่ต้องจารจดจำ” ณ วัดทุ่งเศรษฐี เมืองเลควูด แคลิฟอร์เนีย เมื่อวันอาทิตย์ที่ 20 พฤษภาคม 2561 เวลา 3.00 น. เศษ รูปขอจำเริญพร