ธรรมะสมสมัย

หลวงพ่อไสว ชมไกร



การทำงานของจิต

ขอเจริญพร ท่านพุทธบริษัท สาธุชนผู้ติดตามรายการธรรมะสมสมัยทุกท่าน สัปดาห์นี้มีเรื่องน่ายินดีมาเล่าสู่ท่านฟัง เมื่อวันพุธที่ 10 ตุลาคมที่ผ่านมา หลวงพ่อได้นำคณะสงฆ์วัดทุ่งเศรษฐี ไปเจริญศรัทธาญาติโยมที่เมืองแลงแคสเตอร์ ปลื้มใจกับการต้อนรับมาก ญาติโยมได้จัดเตรียมสถานที่เหมาะสมดีมาก ประกอบพิธีอย่างพร้อมเพียง บูชาพระรัตนตรัย ไหว้พระสมาทานศีล ฟังเจริญพระพุทธมนต์ ร่วมกันทำบุญตักบาตรถวายภัตตาหารเพล ถวายไทยธรรม กรวดน้ำอุทิศส่วนบุญให้แก่ผู้วายชนม์ และรับพร อย่างอบอุ่นใจ สาธุอนุโมทนากับญาติโยมศรัทธาทุกท่าน โดยเฉพาะอย่างยิ่งครอบครัวท่านเจ้าภาพ คือคุณโยมจิต พร้อมครอบครัว, คุณโยมสังเวียน ผู้ประสานงาน เป็นต้น ฯ

การทำงานของจิต

ธรรมชาติของจิต คือ ธรรมชาติที่เกี่ยวกับกลไกการทำงานของจิต หลักความจริงทางพระพุทธศาสนาเชื่อว่า องค์ประกอบของชีวิตคน ประกอบด้วยสิ่งสำคัญ 2 ส่วน คือ ร่างกายและจิตใจ จิตมีกฎเกณฑ์ในการทำงาน เปลี่ยนแปลงและแสดงพฤติกรรม เป็นสิ่งเฉพาะตัว

ธรรมชาติของจิต คือ สภาวะรู้แจ้งอารมณ์ มีปัจจัยเกิดดับเป็นภาวะ เป็นธรรมชาติที่ไม่เที่ยง เป็นทุกข์ เป็นอนัตตา ดี หรือ เลว ขึ้นอยู่ที่จิตขณะนั้น ๆ ว่าเป็นกุศลหรืออกุศล

จิตขณะนั้นคิดดี พูดดี ทำดี กรรมเป็นเครื่องชี้เจตนา พฤติกรรมต่าง ๆ ก็จะเป็นไปเพื่อไม่เบียด เบียนตน และผู้อื่นให้เดือดร้อนทั้งปัจจุบันและทั้งภายหลัง จิตคนเช่นนั้น เป็นจิตของผู้มีบุญ จักทำในสิ่งที่ดีงาม สูงค่า ก้าวหน้าขึ้น เติบโตขึ้น เจริญขึ้น

แต่..หากจิตขณะนั้น คิด พูด และทำผู้อื่นเป็นทุกข์ เดือดร้อน จิตคนเช่นนั้น เป็นจิตของคนบาป เป็นกรรมเศร้าหมอง ยังอกุศลคือ โลภ โทษะ โมหะ ชักจูงให้กระทำต่ำลง เลวลง เสื่อมทรามลง


เหตุเช่นไรยังกิเลสให้เกิดและดับ

1) จิตไปปรุงกิเลส เกิดจากเหตุปัจจัยภายใน เกิดจินตนาการต่าง ๆ จิตจึงปรุงแต่งสร้างเงื่อนไขภาวะให้ยินดี - ยินร้าย ตามใจที่อยากให้มี ให้เป็น หรือ ตามใจที่อยากไม่ให้มี อยากไม่ให้เป็น ด้วยอำนาจความต้องการของจิต

2) กิเลสไปปรุงจิต เกิดจากเหตุปัจจัยภายนอก จิตได้รับแรงจูงใจ เกิดการปรุงแต่งไปตามสิ่งที่โน้มน้าวชักจูงให้เกิดความยินดี - ยินร้าย ด้วยอำนาจความต้องการของจิต เช่นกัน

ดังนั้น ทั้งสองประการล้วนเป็นภาวะเกิด - ดับ เป็นอนิจจัง ทุกขัง อนัตตา อย่าให้เกิดจินตนาการ และแรงบันดาลใจ พลักดันแรงขับจิตของเราไปในสิ่งที่ถดถอยเลวลง และอย่าให้เกิดแรงจูงใจมีอำนาจมาโน้มน้าวใจของเราให้ใฝ่ต่ำและเลวทราม อำนาจจิตของผู้มีบุญ จักต้องทำในสิ่งที่ดีงาม สูงค่า ก้าวหน้า เจริญเติบโตขึ้นสู่ความเป็นอารยะประเพณี จิตต้องเข้มแข็งมีสภาพ รู้เท่า รู้ทัน รู้กัน รู้แก้ รู้แน่ รู้ชัด รู้ขจัด รู้วาง รู้ว่าง รู้เย็น รู้ในความเป็นธรรมชาติที่เกิด - ดับ คือ อย่างน้อยให้มีคติสมบัติเป็นเครื่องเจริญใจ ดังนี้


คติสมบัติ

การเกิดขึ้น ตั้งอยู่ ในถิ่นฐานที่เหมาะสม (ปฏิรูปเทศ) เกิดในที่เจริญ บนผืนแผ่นดินที่ดี มีความอุดมสมบูรณ์ ทางธรรมชาติ และระบอบการปกครองบ้านเมือง เช่น

- มีเสรีภาพ คือ เสรีภาพของบุคคล หรือ ปัจเจกชนนิยม ได้ขยายไปถึงเรื่องเสรีภาพในทางความคิด ความเชื่อทางศาสนา การศึกษาหาความรู้ การพิมพ์และเผยแพร่ข่าวสาร รวมทั้งเสรีภาพในทางการเมือง

- มีความเสมอภาค คือ ความเท่าเทียมกันทางกฎหมาย มีความเที่ยงธรรม เท่าเทียมกันในเรื่องสิทธิและหน้าที่ มีความเท่าเทียมในด้านการบังคับใช้กฎหมาย เป็นต้น ฯ

- มีภราดรภาพ คือ ความเป็นพี่เป็นน้อง มนุษย์ทุกคนต้องการอยู่อย่างเป็นสุข และปลอดภัยในชีวิตและทรัพย์สิน ปฏิบัติต่อกันดุจพี่น้อง ความเป็นพี่เป็นน้องเป็นสิ่งที่ธรรมชาติมอบให้มนุษย์ (ไม่เหยียดผิวสี หรือ ชาติพันธุ์)

ก่อนจากกันไปในวันนี้ หลวงพ่อฝากผลงานบทกลอนไว้เป็นคติสอนใจ เพื่อความหนักแน่นมั่นคงแห่งจิต และเพื่อความรุ่งเรืองแห่งชีวิตที่บางเบา เพื่อบรรเทาอุปสรรคและปัญหา เพื่อเปลี่ยนอุปสรรคให้เป็นโอกาส และเพื่อเปลี่ยนปัญหาให้เป็นปัญญา รูปขอจำเริญพร


ทุกวันนี้ มีข่าวดี - มีข่าวร้าย
รุมรบรอบ ใจ - กาย หลายสถาน
เป็นของมัน อย่างนี้ มาช้านาน
และจะเป็น ชั่วกาล นานนิรันดร์ ฯ

สำคัญที่ มีเรา ในข่าวไหม
เป็นข่าวดี ข่าวร้าย ในข่าวนั้น
อยู่ที่เรา กระทำ เป็นสำคัญ
ดีสร้างสรรค์ ชั่วตอกย้ำ กรรมลามก ฯ

การกระทำ จำไว้ ได้ข้อคิด
ถูกหรือผิด จิตรู้ อยู่เต็มอก
สำนึกดี สังคมดี มีสาธก
อยู่ปลอดภัย ในโลก โชคยิ่งเอย ฯ