ธรรมะสวัสดีศรัทธาท่านทั้งหลาย ธรรมะสมสมัยฉบับวันนี้ขอนำเสนอเรื่องราวการตื่นรู้ตื่นธรรม การตื่นรู้ตื่นธรรมนั้นจะพูดให้ลัดสั้น เพื่อความเข้าใจที่ไม่ทิ้งหลัก อีกทั้งเป็นความเข้าใจง่าย ยกตัวอย่างกลางวันกลางคืน

- การหลับเวลากลางคืนชีวตอยู่ในความมืด

- การตื่นเวลาเช้าชีวิตได้เห็นแสงสว่าง

และสมมุติความมืดในเวลากลางคืนนั้นเป็นบาป หรือความชั่วร้าย ส่วนแสงสว่างในเวลากลางวันนั้นเป็นบุญ หรือความบริสุทธิ์งดงาม การตื่นรู้ตื่นธรรมในที่นี้คือ ตื่นจากบาป ตื่นจากความมั่วเมาในกามสุข ตื่นจากความโลภ ตื่นจากความโกรธ ตื่นจากความหลงใหล การตื่นรู้ตื่นธรรมเป็นการยกจิตขึ้นจากบาป สู่เส้นทางแห่งอริยะมรรคอริยะผล มีสัมมาทิฏฐิ เป็นต้น

การตื่นรู้ตื่นธรรม เป็นเครื่องยกจิตจูงใจให้สูงให้งาม เมื่อจิตใจงาม วาจาก็สุภาพ การกระทำทางร่างกายก็อ่อนโยน แต่ไม่อ่อนแอ มีจิตเคารพตนเอง รักเคารพตนเองฉันใด ก็รักเคารพผู้อื่น เสมือนดังรักตน รักครอบครัว รักญาติพี่น้องของตน ฉันนั้น

คนตื่นธรรม ย้ำเหตุผล ปนความคิด มีทั้งผิด ทั้งที่ถูก ยุคสมัย พุทธศาสน์ หมายถึงธรรม และวินัย ยุคหลังนั้น มีกฎหมาย ใช้รองรับ ฯ

เสรีภาพ ย่อมทำได้ ไม่ล่วงสิทธิ์ ละเมิดมิตร เข้าทำนอง ถูกฟ้องกลับ เจตนา นั้นเป็นกรรม กำหนดนับ เท่าที่ทราบ ตามกันมา ว่าเตือนแรง ฯ

คนตื่นธรรม ย้ำฟื้นฟู กู้สังคม ค่านิยม งมงายจัด ดูกวัดแกว่ง ชี้ทางรอด ถอดบทเรียน ราคาแพง ธรรมเข้มแข็ง สังคมรอด คนปลอดภัย ฯ

ครูเตือนศิษย์ มิตรเตือนกัน หมั่นกำกับ ปราชญ์ว่าดี ชี้ขุมทรัพย์ รับโชคใหญ่ รักษาโรค ด้วยยาขม ต้องข่มใจ คนตื่นธรรม เกรี้ยวกราดไป ไม่งามเอย ฯ

การตื่นรู้ตื่นธรรมอย่างครบถ้วน ต้องเกลี้ยงเกลามาจากจิตใจ อย่างบางครั้ง คำพูดที่ไม่ไพเราะ แต่เป็นสัจจะที่ซื่อตรง เชื่อได้ว่าพูดออกมาจากความจริงใจ บางที่ต้องดูที่เจตนาเรียกว่าฟังภาษาใจ ไม่ไปติดใจอยู่กับคำบางคำที่บอกว่าไม่สุภาพว่า คำพูดนั้นประสงค์ต่อผลอย่างไร จริงอยู่คำพูดที่ไม่ไพเราะ อาจฟังแล้วทำให้ไม่สบายหู ก็ดูแต่ยาขมสิ โบราณท่านยังว่า หวานเป็นลม ขมเป็นยาอย่างชมัด

คำพูดล่อลวงนั้นมีมากมาย เช่น หลอกด้วยคำพูดวาจาที่ไพเราะ เสนาะสำเนียง พร้อมกับเสียงที่ออดอ้อนอ่อนหวาน บางครั้งมักซ่อนแฝงมากับความไม่จริงใจทำให้หลงใหล ซึ่งทั้งหมดคือประสบการณ์สอนให้เราเรียนรู้เก็บเกี่ยวจากสิ่งที่ถูกและผิดนั้นเสมอ

อย่างเมื่อวาน โยมพี่สาวท่านหนึ่งโทรศัพท์มาเล่าให้ฟังว่า เมื่อ 8 ปีที่ผ่านมา พี่สาวที่เมืองโคราช นำสร้อยคอทองคำหนัก 2 บาท 2 เส้น เข็มขัดเงิน และเข็มขัดนากอย่างละเส้น สมบัติที่แม่มอบให้ ไปให้ร้านทองในจังหวัดเพื่อให้ชั่งน้ำหนักและตีราคา เสร็จแล้วก้เก็บรักษาไว้ในลิ้นชักโต๊ะเครื่องแป้งในห้องนอนส่วนตัว โดยไม่เคยแตะต้องเพราะถือเป็นมรดกที่ต้องการเก็บรักษา ห้องส่วนตัวที่ไม่อนุญาตให้ใครอื่นเข้าไป (นอกเสียจากอนุญาตให้แม่บ้านเข้าไปทำความสะอาด)

ตลอด 8 ปีที่ผ่านมา ก็เห็นกล่องสร้ายคอทองคำอยู่ในลิ้นชักที่โต๊ะเครื่องแป้งตลอดมา ทุกครั้งที่นั่ง ทุกวันที่มอง จิตใจก็มีความสุขที่เห็นแสงทองคำที่เปร่งประกรายนั้น

อยู่มาวันหนึ่งกระแสราคาทองคำพุ่งถึง 41,000 บาท ช่วงที่วิกฤตเศรษฐกิจทางครอบครัวระส่ำระสาย จิตใจที่จำต้องหันมามองสิ่งที่จะกู้วิกฤตครอบครัวไว้ได้ ตัดสินใจนำสร้อยคำทองคำ ทั้ง 2 เส้น พร้อมด้วยเข็มขัดไปที่ร้านเดิมอีกครั้ง "อนิจจาเข่าแทบทรุด" ทางร้านแจ้งว่าเป็นทองปลอม ทั้งๆ ที่ใบการันตีที่ร้านออกให้ยังผูกเชือกติดอยู่กับสร้อยทั้ง 2 เส้น ประเมินค่าได้ถึง 1.5 ถึง 1.6 แสนบาท พี่สาวเล่าให้ฟังว่า ร้องให้เสียใจอยู่เป็น วันๆ ไม่รู้จะสืบเสาะจับมือใครมาดม อย่างนี้ต้องสรุปเป็นสุภาษิตบาลีว่า

ปุสถกสฺถา จ ยา วิทฺยา ปรหัสเต จ ยัทธนัม.

ความรู้ใดอยู่แต่ในตำรา, ทรัพย์อยู่ในมือผู้อื่น

เมื่อถึงเวลาใช้งาน ทรัพย์ไม่เรียกว่าทรัพย์ ความรู้ไม่เรียกว่าความรู้ ฯ

ขอเชิญผู้มีจิตศรัทธาร่วมบุญพิธีทอดผ้ากฐินกับทางวัดพระธาตุทุ่งเศรษฐี เมืองแลงแคสเตอร์ แคลิฟอร์เนีย Donation check payable to "Buddhist Meditation Society" หรือ อีกบัญชีหนึ่งชื่อ Wat Phrathat Thongsethi ส่งไปตามที่อยู่ที่แจ้งไว้พร้อมนี้ 6763 East Avenue H. Lancaster CA 93535 ส่วนท่านที่สะดวก Transfer money with Zelle ก็โอนด้วยเบอร์ (562) 249-3789

รูปขอจำเริญพร