ธรรมะสมสมัย

หลวงพ่อไสว ชมไกร



พระพุทธศาสนากับสังคมคนไทยในสหรัฐอเมริกา

ขอเจริญพร ท่านผู้คิดตามธรรมะสมสมัย สัปดาห์ที่ผ่านมาทำงานวัดจัดเตรียมสถานที่จัดกิจกรรมทำบุญใส่บาตรวันเข้าพรรษา ทั้งตัดหญ้า เก็บกวาดใบไม้ จัดโต๊ะจัดเก้าอี้ ปรับพื้นปูอิฐตัวหนอน เตรียมต้นกล้าไม้ยืนต้นปลูก เผลอแป๊บเดียวค่ำมืดเสียแล้ว บทความสัปดาห์ที่แล้วเลยชวดไป จึงขออภัยแจ้งทาง บ.ก.มาพร้อมนี้ สำหรับวันนี้ประเด็นที่ Top form สุดๆ ที่เกิดขึ้นในวงการคณะสงฆ์ชั้นพระมหาเถระผู้ใหญ่ กรณี "สีกากอล์ฟ" ได้สะเทือนสะท้านไปทั้งสังฆมณฑล เราจะมาทอดบทเรียนกับประเด็นบางส่วน กรณี "สีกากอล์ฟ” ตัวอย่างสะท้อนสำนึกศีลธรรมทางสังคม

เกี่ยวกับปัญหานี้ ทางออกหรือวิธีแก้ปัญหาที่จะสามารถรักษาศรัทธาประชาชนเป็นอันมากไว้ได้ควรมีหลักการอย่างไร?

กับคำถามที่เป็นประเด็นสาธารณะ กับ "ธรรมะสมสมัย" ที่เกี่ยวข้องกับความเชื่อ ศรัทธา กฎหมาย และจริยธรรมของสังคมไทย โดยเฉพาะจากกรณี “สีกากอล์ฟ” ซึ่งสะท้อนปัญหาในระบบการควบคุม ดูแล และบริหารกิจการคณะสงฆ์ในสังคมไทยอย่างท้าทาย และต้องการการแก้ไขประเด็นนี้อย่างเร่งด่วน

ควรหรือไม่ควร กับเรื่องจัดสังคายนาพระราชบัญญัติคณะสงฆ์ และกฎหมายที่เกี่ยวกับศรัทธาประชาชน ? หากเห็นว่าควรสังคายนา (ปฏิรูป/แก้ไข) ต้องมองถึงปัญหาข้อใดเข้ามาเป็นเหตุผล: ตามโครงสร้างของปัญหาต้องมีหลัการ และเหตุผลเพื่อมองปัญหาให้เห็นชัดมากยิ่งขึ้น เป็นต้นว่า

1. ความเปลี่ยนแปลงของบริบทสังคม: พระราชบัญญัติคณะสงฆ์ฉบับปัจจุบันมีรากฐานจากโครงสร้างสังคมเก่า ซึ่งอาจไม่สอดคล้องกับความซับซ้อนของปัญหาในปัจจุบัน

2. การตรวจสอบถ่วงดุลไม่เพียงพอ: ขาดกลไกการตรวจสอบจากภายนอก เช่น ภาคประชาชนหรือองค์กรอิสระ โดยมักเป็นการตรวจสอบกันเองภายในคณะสงฆ์ ซึ่งอาจก่อให้เกิดปัญหา “วงจรอุปถัมภ์”

3. กระทบศรัทธาประชาชน: เมื่อเกิดกรณีอื้อฉาวในวงการสงฆ์ แต่ไม่มีการดำเนินคดีอย่างโปร่งใส จะทำให้ประชาชนเสื่อมศรัทธาต่อพระพุทธศาสนา

4. ส่งเสริม “ธรรมาภิบาลสงฆ์”: หากมีการปรับปรุงกฎหมายให้โปร่งใส มีมาตรฐานด้านวินัยและคุณธรรมชัดเจน จะช่วยยกระดับศรัทธาและภาพลักษณ์พระสงฆ์ในสังคม

หรือหากว่ายังไม่ควรสังคายนา (ยังไม่จำเป็น/ไม่เหมาะสม) ก็ต้องมองเห็นวิธีแก้ไขปัญหาข้อหนึ่งข้อใด ที่จะนำเข้ามาเป็นเหตุเป็นผลที่จะรักษาวิกฤตศรัทธาประชาชน: เพื่อมิให้เซาะกร่อนสั่นคลอนไปมากกว่านี้ได้ เพราะเนื่องจากเป็นเรื่องละเอียดอ่อน อีกทั้งเกี่ยวเนื่องด้วยพระธรรมวินัยที่เป็นบัญญัติของพระพุทธเจ้า ซึ่งถือว่าเป็นสิ่งสมบูรณ์ยิ่งแล้ว เช่นว่า

1. อาจกลายเป็นการแทรกแซงทางศาสนาหรือไม่: การแก้กฎหมายโดยรัฐ หรือภายนอก อาจถูกมองว่าเป็นการก้าวล่วงอำนาจของคณะสงฆ์ และทำให้เกิดความขัดแย้งทางศาสนา

2. มีช่องทางในพระธรรมวินัยอยู่แล้ว: ปัญหาหลายเรื่องอาจไม่ได้เกิดจากกฎหมาย แต่เกิดจากการไม่ปฏิบัติตามพระธรรมวินัย หากพระปฏิบัติดีจริงกฎหมายก็ไม่จำเป็น

3. อาจกระทบต่อความมั่นคงของศาสนา: การแก้กฎหมายหากไม่ระวัง อาจเปิดช่องให้กลุ่มที่มีแนวคิดล้มล้างศาสนาใช้เป็นเครื่องมือทำลายความเชื่อของสาธารณะชน

ธรรมะสมสมัยวันนี้ ขอร่วมเสนอทางออกหรือแนวทางแก้ปัญหา เพื่อรักษาศรัทธาประชาชน ควรมีหลักการอย่างไร? หลักการสำคัญ: คือ

1. ความโปร่งใส (Transparency):

- ตั้งคณะกรรมการอิสระที่มีทั้งพระ นักวิชาการ และภาคประชาชนร่วมตรวจสอบกรณีอื้อฉาว

- เผยแพร่ผลสอบสวนต่อสาธารณะอย่างเป็นระบบ กำชับผู้สื่อข่าวพึงใช้จรรยาบรรณการ เผยแพร่ข้อมูลข่าวสารอย่างเคร่งครัด เป็นธรรม และตรงไปตรงมา

2. แยกบทบาทพระสงฆ์ – ระบบปกครอง – การเงิน:

- ควรให้พระสงฆ์ทำหน้าที่เผยแผ่ธรรมเป็นหลัก

- ระบบการเงินของวัดควรมีผู้จัดการ (ฆราวาส) ที่มีความรู้บัญชีเข้ามาบริหาร (สำหรับวัดที่มีสถานะการเงินมั่นคงควรแต่งตั้งเงินเดือนประจำให้ เพื่อให้มีหน้าที่รับผิดชอบต่อตำแหน่งหน้าที่ที่ได้รับ)

3. จัดการปัญหาเฉพาะจุด (Targeted Reform): - แก้ไขเฉพาะหมวดที่เกี่ยวข้องกับการลงโทษทางวินัย การถอดถอนสมณศักดิ์ หรือการบริหารทรัพย์สินวัด โดยไม่แตะโครงสร้างหลักของศาสนา

4. ส่งเสริมการศึกษาพระธรรมวินัยแก่พระภิกษุสงฆ์ และประชาชน:

- ศรัทธาที่แท้จริงจะตั้งอยู่บนความรู้ ไม่ใช่เพียงความเชื่อหรือภาพลักษณ์

- สนับสนุนให้พระภิกษุมีจริยธรรมสูง ไม่เพียงแค่ศึกษาแต่ปริยัติ

5. ไม่ใช้ความเชื่อทางศาสนาเพื่อปกปิดพฤติกรรมผิดธรรมวินัย:

- สร้างระบบคัดกรอง เช่นให้สิทธิคณะกรรมการ ธรรมาภิบาลขึ้นในท้องถิ่นนั้นๆ มีการประเมิน มีการตรวจสอบอย่างโปร่งใส เพื่อต้องการแยก “พระแท้” กับ “ผู้แอบอ้าง” ออกจากกันอย่างชัดเจน

- ยึดหลัก “วินัยคือชีวิตของพระศาสนา”


สรุปในภาพรวม:

กรณี “สีกากอล์ฟ” เป็นตัวอย่างสะท้อนความจำเป็นในการ “สังคายนาทั้งระบบ” ไม่ใช่แค่แก้กฎหมาย แต่รวมถึงจิตสำนึกของพระสงฆ์ ระบบการตรวจสอบ การจัดการทางวินัย และศรัทธาของประชาชนที่ตั้งอยู่บนปัญญา ไม่ใช่ความเชื่อแบบงมงาย ร่วมสร้างสำนึกดี เพื่อให้เกิดคุณค่าสู่สังคมทั้งนี้ขอให้นิยามคำว่า

"สำนึกดี = หิริ แปลว่า ละอายแก่ใจ"

"คุณค่าทางสังคม = โอตตัปปะ แปลว่า เกรงกลัวต่อบาป"

"สำนึกดี สังคมดี แน่นอน"

ส่วนผู้มีศรัทธาต้องการสนุบสนุนวัดพระธาตุทุ่งเศรษฐี กรุณา Donation check payable to "Buddhist Meditation Society" หรือ อีกบัญชีหนึ่งชื่อ Wat Phrathat Thongsethi ส่งไปตามที่อยู่ที่แจ้งไว้นี้ 6763 East Avenue H. Lancaster CA 93535 ส่วนท่านที่สะดวก Transfer money with Zelle ก็โอนด้วยเบอร์ (562) 249 - 3789 ขออนุโมทนาบุญ มา ณ โอกาสนี้ด้วย รูปขอจำเริญพร