ธรรมะสมสมัย

หลวงพ่อไสว ชมไกร



การพิจารณาความกลัว

ท่านทั้งหลายการพิจารณาสิ่งต่างๆ ที่ผ่านเข้ามาทดสอบอารมณ์ ทดสอบขันติธรรม หรือจะเรียกว่าทดสอบบุญบารมีอะไรต่างๆ นั้น ถ้าผ่านเรื่องเหล่านั้นไปได้ใจก็ยิ่งแกร่ง ใจมันยิ่งห้าวหาญ แล้วถ้าผ่านไปไม่ได้หละใจมักก็โศกเศร้าผิดหวัง สองอย่างมันเกิดขึ้นต่างกรรมต่างวาระกัน จิตมันคนละดวงกัน ถ้าเกิดความกลัวก็เป็นความกลัวคนละอย่างกัน

การพิจารณาความกลัว จริงๆ อยู่ที่ใจของแต่ละท่าน เพราะแต่ละคนกลัวไม่เหมือนกัน โบราณว่ากลัวสิ่งใดก็มักจะเจอสิ่งนั้น บางคนกลัวผี ก็มักจะพูดถึงผี พูดถึงว่าตนเองเจาอย่างนั้น อย่างนี้ เจอที่นั่น ที่นี่ คนที่ไม่กลัวก็ไปพิสูจน์แต่ก็ต้องกลับมามือเปล่า เพราะไปพิสูจน์แล้วแต่ไม่พบอะไร ทุกอย่างมีแต่ความว่างเปล่า

ส่วนบุคคลที่กลัวความจน ส่วนใหญ่มักจะไปจน เพราะต้องขยันทการงาน ต้องประหยัดมัธยัสถ์อดออม ต่างจากบุคคลที่อยากรวย ส่วนใหญ่มักจะไม่รวย เพราะต้องการอวดโชว์โก้เก๋ ต้องการทัดเทียมสังคมไฮโซ บุคคลประเภทนี้ก็จะใช้สอยสุรุ่ยสุร่ายฟุ้มเฟือย ซื้อข้าวของเครื่องใช้มาก็มักจะไม่คุ้มประโยชน์ ทิ้งขว้างไปไม่เป็นระเบียบ "ไม่ควรซื้อก็อย่าไปพิไรซื้อ ให้เป็นมื้อเป็นคราวทั้งคาวหวาน" นี่ภาษิตคนเก่า ๆ เล่าไว้ว่า

- ถ้าอยู่อย่างคนจน จะไม่จน

- ถ้าอยู่อย่างคนรวย จะไม่รวย

จึงขอเสนอข้อธรรมไว้ให้ท่านใช้พิจารณาว่า อย่ากลัวที่จะทุกข์ เพราะพ้นจากทุกข์เราก็สุขแล้ว ความเจ็บปวดมักจะเป็นอุทาหรณ์ให้เราจดจำอย่างลึกซึ้ง เฉกเช่นความต้องการร่ำรวย มักจะเป็นอุทาหรณ์ให้กับผู้ยากไร้หาค่ำกินเช้า - หาเช้ากินคำเสมอ ความต้องการร่ำรวยของคนนั้นก็ไม่รู้จักหยุดไม่รู้จักพอ รวยเท่าไหร่ก็ไม่พอ ส่วนคนจนที่ไม่มีแม้แต่ข้าวสารจะกรอกหม้อ ความหิวมันเหนื่อยมันท้อ หาเท่าไหร่ก็ไม่พอเช่นกัน (คนละอารมณ์กัน ต่างกรรมต่างวาระ) ธรรมที่ควรนำเข้ามาเป็นหลักยึดที่เหมาะนั้น ควรเป็นเรื่อง "โลกธรรม 8 "


โลกธรรม 8 ประการ

ธรรมดาของโลก มีทั้งคนรวยและคนไม่รวย ธรรมชาติของโลกที่ครอบงำสัตว์โลก และสัตว์โลกต้องเป็นไปตามธรรมดานี้

- โลกธรรมฝ่ายอิฏฐารมณ์ คือ อิ่มเอมพอใจ เป็นที่รักเป็นที่ปรารถนา

- โลกธรรมฝ่ายอนิฏฐารมณ์ คือ ความขัดข้องไม่เป็นที่พอใจ ไม่เป็นที่ปรารถนา

มีลาภ - มีเสื่อมลาภ

มียศ - มีเสื่อมยศ

มีสรรเสริญ - มีนินทา

มีสุข - มีทุกข์


ประโยชน์ของการปล่อยวาง

การเรียนรู้เรื่องที่ควรปล่อยวาง "ปล่อยวาง รู้ว่าวาง ถ้ารู้วาง ก็รู้เบา ไม่รู้วาง ไม่รู้เบา" ถ้าจะมีใครบอกว่า สละไปเถอะ โยนทิ้งไปเถอะ แล้วจะดีอย่างนั้น เป็นประโยชน์อย่างนี้ เราก็ยังไม่ยอมโยนทิ้งอยู่นั่นแหละ เพราะกลัวแต่ว่าจะไม่มีอะไรเหลือ ก็เลยแบกภาระอันบีบคั้นหัวใจอย่างหนักเอาไว้ จนเหนื่อยจนล้า อ่อนเปี้ยเพลียแรงเต็มที จนแบกเอาไว้ไม่ไหว

สุดท้ายก็เลยปล่อยมันจนหลุดล่วงไม่เป็นท่า หกคะเมนตีลังกาอย่างน่าเวทนา ชีวิตจำเป็นต้องเรียนรู้เรื่องการปล่อยวาง จะรู้สึกเบาสบาย การแบกของหนักเกินกำลังเราจะรู้ว่ามันทุกข์ มันหนัก นี่อาตมาเคยยกลูกนิมิตร หนักเป็นร้อยกว่ากิโลกรัม ยกได้แต่ก็ต้องวาง ทำให้รู้ชัดว่าความหนักหน่วงของสัมภาระที่แบกอยู่ รับผิดชอบอยู่มันหนักหน่วงเพียงใด อยู่อเมริกาบางเดือนไม่มีเงินสักบาทท่านคิดดูจะทุกข์เพียงใด แต่ที่อยู่รอดมาได้เพราะไม่กลัวที่จะจน นี่แหละที่เป็นกำลังใจเสมอมา

ดังนั้น ถ้ามีใครมาสนทนาด้วยเรื่องการปล่อยวาง จะสอนให้รู้ด้วยตัวเอง ว่ามันหนัก มันเบา มันสบายแค่ไหน ที่จิตเรารู้วิธีปลดปล่อยมันไปได้ ขอเพียงว่า "ใจอย่าหวั่นกลัว" ก็สำเร็จไปครึ่งหนึ่งแล้ว


พื้นที่อนุโมทนาบุญ

วันพุธที่ 29 เมษายน คุณ Zusan - คุณมิตรชัย มาถวายเพล ถวายสังฆทาน มีน้ำมันพืช 1 ถังใหญ่ ขนาด 20 ลิตร

วันพุธที่ 29 เมษายน คุณสมหมาย คุณตั้ว คุณชาตรี คุณฝน คุณเจมส์ คุณนา คุณชลลดา (หน่อย) ร้านอาหาร เดอะไทย ถวายก๋วยเตี๋ยวลาดหน้ามาสนับสนุน คุณทองดี ลาสเวกัส

วันอังคารที่ 28 เมษายน คุณเจี๊ยบ คุณตุ๊ก คุณแอ๊ค

วันศุกร์ที่ 24 เมษายน คุณประภาศรี

วันอังคารที่ 14 เมษายน คุณต้อย - คุณดลฤทัย ถวายสังฆทาน ข้าวสาร - อาหารแห้ง ผักผลไม้ และบริจาค รถตัดหญ้า 1 คัน

และขอขอบคุณขอบใจคณะสงฆ์สำนักปฏิบัติธรรมพระธรรมจาริก ที่ North Hollywood ที่นำญาติโยมมาเยี่ยมวัด ขอบคุณทุกท่านที่มาร่วมบุญกับทางวัดพระธาตุทุ่งเศรษฐี เมืองแลงแคสเตอร์ 6763 E Avenue H Lancaster CA 93535-7859 Tel : 661-946-3335, 562-249-3789, 562-382-3767 (The first Buddhist Thai Temple of Lancaster California USA) ขออนุโมทนา สาธุ รูปขอจำเริญพร