ธรรมะสมสมัย

หลวงพ่อไสว ชมไกร



ทำไมทำบุญกับพระอรหันต์ถึงตกนรก?

ท่านผู้สนใจใฝ่ธรรมทุกท่าน พระผู้มีพระภาคเจ้าทรงแสดงไว้ใน ฉฬังคทานสูตร จตุตถวรรคแห่งปฐมปัณณาสก์ อังคุตตรนิกาย ว่า "ภิกษุทั้งหลาย ทานที่ประกอบด้วยองค์ 6 คือ

องค์ของผู้ให้ 3 อย่าง องค์ของผู้รับ 3 อย่าง

องค์ของผู้ให้ 3 อย่าง ( เจตนา 3 ) คือ

1. ก่อนให้ก็ดีใจ

2. กำลังให้ก็มีใจผ่องใส

3. ครั้นให้เสร็จแล้วก็มีความเบิกบานใจ

องค์ของผู้รับ ๓ อย่าง คือ

1. เป็นผู้ปราศจากราคะ หรือปฎิบัติเพื่อความไม่มีราคะ

2. เป็นผู้ปราศจากโทสะ หรือปฎิบัติเพื่อความไม่มีโทสะ

3. เป็นผู้ปราศจากโมหะ หรือปฎิบัติเพื่อความไม่มีโมหะ

ทานที่ประกอบด้วยคุณลักษณะ 6 ประการนี้ เป็นบุญใหญ่ นับไม่ได้ ประมาณไม่ได้ ยิ่งใหญ่นักแล.


ชีวิตยอมเสี่ยง เพื่อพิสูจน์รักแท้

สามีภรรยาคู่หนึ่งเป็นยากจนหาเลี้ยงชีพด้วยการขอทานเดินทางมาอาศัยอยู่ที่ศาลาในป่าแห่งหนึ่งซึ่งตั้งอยู่นอกกำแพงเมือง ในขณะที่พักอยู่นั้นภรรยาซึ่งเป็นหญิงมีครรภ์ เกิดอาการแพ้ท้องอยากบริโภคอาหารที่พระราชาเสวย

จึงอ้อนวอนสามีให้ไปหามาให้ บอกว่าหากมิได้บริโภคอาหารที่ต้องการนี้จะต้องตายแน่นอน ฝ่ายสามีผู้มีกรรมทนคำอ้อนวอนต่อไปไม่ไหวและเกรงว่านางจักตาย จึงคิดออกอุบายปลอมตัวเป็นพระภิกษุ และด้วยความเป็นพระใหม่ที่ปลอมตัวมา จึงทำให้มีความระมัดระวังสำรวมกายในเรื่องต่าง ๆ มากเพราะกลัวคนจับผิดได้

แล้วเดินอุ้มบาตรเข้าไปในพระราชวัง เพื่อรับบิณฑบาตร และในขณะนั้นเองพระราชาจักทรงเสวยพระกระยาหารพอดี เมื่อทรงทราบว่ามีพระภิกษุเดินมาบิณฑบาตรภายในพระราชวัง ด้วยกิริยาอาการสำรวมน่าเลื่อมใสมาก


จิตเลื่อมใสแล้วย่อมสละทรัพย์อันเลิศได้

พระองค์เสด็จทอดพระเนตรดู ครั้นเมื่อเห็นกิริยาอาการแล้ว ก็ทรงจินตนาการว่า "ภิกษุรูปนี้ช่างมีกิริยาอาการสำรวมน่าเลื่อมใสยิ่งนักเป็นหนักหนา คงเป็นพระผู้ทรงคุณวิเศษสักอย่างใดอย่างหนึ่งเป็นแน่แท้" จึงเกิดพระราชศรัทธา

และทรงนำพระกระยาหารที่ทรงจะเสวย ใส่ลงไปในบาตรจนหมดด้วยจิตใจเป็นปิติเลื่อมใส เมื่อพระภิกษุปลอมรับบิฑบาตรอาหารจากพระราชาแล้ว ก็เดินจากไป

แต่ด้วยความศรัทธาเลื่อมใสในตัวพระปลอมยังอยู่ในพระทัยของพระองค์ จึงรับสังอำมาตย์คนสนิทให้รีบสกดรอยตามพระรูปนั้นไป เพื่อที่พระองค์จะได้นิมนต์ให้มารับบิณฑบาตรในวังอีก ฝ่ายพระปลอมเมื่อได้อาหารที่เมียอยากกินจากพระราชาแล้วรู้สึกดีใจมาก จึงรีบเดินไปให้พ้นกำแพงเมืองโดยเร็ว


บาปแม้ผู้อื่นไม่เห็น แต่ตนนั้นย่อมรู้แก่ใจ

เมื่อเห็นว่าปลอดภัยแล้วจึงเปลี่ยนเสื้อผ้าเป็นคนธรรมดาตามเดิม แล้วรีบนำอาหารไปให้ภรรยากินโดยเร็ว ครั้นเมื่ออำมาตย์ซึ่งเดินสะกดรอยตามไปได้เห็นพฤติกรรมนั้นโดยตลอด

ก็บังเกิดความตกใจและโกรธเคื่องใจคิดจะจับไปให้พระราชาลงโทษ แต่ด้วยความสงสารและสังเวชจึงได้เพียงทำการขับไล่สามีภรรยาคู่นั้นไป และห้ามกลับมายังเมืองนี่อีกไม่งั้นจะลงโทษทัณฑ์


รู้จักพูด (พูดเป็น) อาจทำให้เรื่องร้าย ๆ กลับกลายเป็นดีในบัดดล

หลังจากนั้นก็เดินกลับเข้าไปยังในเพระราชวังเพื่อถวายความให้พระราชาทราบ ขณะเดินกลับไปก็ครุ่นคิดหาวิธีที่จะถวายความโดยตลอดเพื่อมิให้พระราชาทรงเสียพระทัย เมื่อพระราชาเห็นอำมาตย์เดินมา ก็ทรงตรัสถามไปทันทีด้วยความอยากรู้โดยเร็ว ว่า "เจ้าได้ความว่าอย่างไร บอกมาเร็วๆ สิ ว่า พระสงฆ์รูปนั้นอยู่ป่าหรือเขตวัดแห่งหนใหน?"

อำมาตย์จึงใช้กุศโลบายเพื่อ รักษาศรัทธาของพระราชาไว้ แล้วก็กราบทูลว่า ข้าแต่พระองค์ข้าพระพุทธเจ้าได้สะกดรอยตามพระภิกษุรูปนั้นไปจนออกนอกเขตกำแพงพระราชวัง พอตามไปสุดเขตกำแพงพระราชวังตรงแนวป่าทางโน้น ด้วยอิทธิฤทธิ์ปาฏิหารย์ปรากฏว่าพระภิกษุรูปนั้นก็พลันหายวับเข้าไปในแนวป่าทันที่ พระพุทธเจ้าข้า "พระราชาได้ทรงฟังดั้งนั้นก็ทรงโสมมนัสเสียพระทัยเป็นอันมาก"

แต่ก็ทรงมิได้ซักถามอะไรเพิ่ม เพียงแต่ทรงตรัสว่า "เป็นบุญของเราแท้ ๆ ที่ได้ถวายภัตตาหารใส่บาตรแต่พระสงฆ์ผู้ทรงเป็นคุณวิเศษ ท่านเป็นพระอรหันต์จริง ๆ ที่เกิดปาฏิหารย์หายตัวได้ และทานที่ถวายท่านในวันนี้มีอานิสงส์มากเป็นทานที่ประเสริฐอย่างแน่นอน

พระราชาทรงบังเกิดความปิติยินดี เบิกบานพระทัยในบุญที่ได้ทำในครั่งนี้เป็นยิ่งนัก ไม่นานหลังจากนั้นพระราชาก็เสร็จสรรคตไปบังเกิดบนสรรค์ชั้นดาวดึงส์


ยิ่งปกปิดเรื่องร้าย ใจยิ่งจะพลักออกมาสู่ความจริง

แต่ก่อนที่ทรงจะสวรรคตพระองค์ได้กำชับกับเหล่าอำมาตย์ไว้ว่าเมื่อพระองค์สวรรคตแล้ว ให้ทำบุญใส่บาตรกับพระสงที่มารับบิณฑบาตรเพื่ออุทิศกุศลเพื่อเจาะจงพระองค์ด้วย

ในคราวนั้นมีพระปัจเจกพุทธเจ้ารูปหนึ่ง พึ่งออกจากญาณสมาบัติได้จาริกไปในเขตพระนคร เพื่อบิณฑบาตร อำมาตย์คนเดิมได้เห็นพระปัจเจกพุทธเจ้ารูปนั้น ก็ได้นิมนต์ท่านเข้าไปรับภัตตาหารในพระราชวัง แต่ด้วยความรู้สึกเคลือบแคลงสงสัยในตัวพระปัจเจกพุทธเจ้ารูปนั้นตลอดมา

เนื่องจากเจอพระปลอมมาแล้วจึงเกรงว่าครั้งนี้ก็คงเป็นพระปลอมเช่นกัน โดยหารู้ไม่ว่าภิกษุที่ตนได้ถวายภัตตาหารอยู่นั้นคือ พระปัจเจกสัมมาสัมพุทธเจ้า ผู้ซึ่งสิ้นกิเลสอาสวะโดยสิ้นเชิงเเล้ว

เหล่าอำมาตย์นั้น ได้ประมาทแล้วในพระอริยเจ้าโดยไม่รู้ตัว เพราะบุคคลธรรมดาไม่อาจทราบได้ว่าพระภิกษุรูปใดเป็นอริยะบุคคลหรื่อไม่เป็นอริยะบุคคล (เหตุเพราะว่าพระอริยะบุคคลใดก็ตามท่านไม่สามารถประกาศได้ว่านั้นเป็นอริยะบุคคลแล้ว)


การตั้งสมุฐานใด ๆ สำคัญต้องไม่มีอคติ

ฉะนั้นการถวายทานแด่พระปัจเจกพุทธเจ้าในครั้งนั้น นอกจากจะไม่เกิดกุศลแล้วยังทำให้อำมาตย์นั้นได้หนทางไปสู่อบายภูมิในโลกหน้าโดยไม่รู้ตัวอีกเลย เหตุเพราะว่าพระอริยะบุคคลใดก็ตามท่านไม่สามารถประกาศได้ว่านั้นเป็นอริยะบุคคลแล้ว

พระพุทธเจ้าทรงห้ามพระภิกษุอวดอุตริมนุษยธรรม สาเหตุเกิดจาก ในกาลครั้งนั้นมีพระภิกษุบางรูปเพื่อต้องการแสวงลาภสักการะ ทั้งที่ไม่มีคุณธรรมในตน ซึ่งพระภิกษุบางรูปได้อวดแสดงตนเป็นพระอรหันต์ พระภิกษุบางรูปบางคณะ ได้อวดแสดงตนเป็นพระอริยะบุคคล เช่น พระโสดาบัน พระสกิทาคามี ฯลฯ

พระภิกษุบางรูปบางคณะ ได้อวดแสดงตนผู้มีอิทธิฤทธิ์ปาฏิหาริย์

พระภิกษุบางรูปบางคณะ ได้อวดแสดงตนผู้มีฌาณสมาบัติ

พระภิกษุบางรูปบางคณะ ได้อวดแสดงตนผู้มีศีลจารวัตรดี

ทั้งนี้เพื่อให้ลาภสักการะจะได้บังเกิดแก่พวกตนนั้นเป็นทางเสื่อม พระพุทธเจ้าทรงเล็งเห็นซึ่งความเสื่อมจะบังเกิดแก่คณะสงฆ์ จึงทรงห้ามพระภิกษุอวดอุตริมนุษยธรรม เพื่อความสงบและสามัคคีในหมู่คณะสงฆ์สืบต่อไปในภายภาคหน้า เพราะพระภิกษุสาวกบางรูปที่อยู่ในธรรมวินัย ยังไม่มีคุณธรรมประจำตน เช่น สำเร็จเป็นพระอรหันต์ พระอริยะบุคคล มีฌาณสมาบัติ มีอิทธิฤทธิ์ปาฏิหาริย์ ฯลฯ


อุทาหรณ์ธรรม

ทำบุญกับพระปลอม ได้ขึ้นสวรรค์

ทำบุญกับพระอรหันต์ กลับตกนรก

อคติ ทำเรื่องเล็กให้เป็นเรื่องใหญ่

สติ ทำเรื่องใหญ่ให้เป็นเรื่องเล็ก

คณะสงฆ์ในธรรมวินัยทั้งพระภิกษุที่แก่และอ่อนพรรษาจะเสื่อมจากอาหารบิณฑบาตร ลาภสักการะอันสมควรแก่สมณบริโภค สาเหตุเกิดมาจากพระภิกษุที่ไม่มีคุณธรรมหวังมุ่งแต่ลาภสักการะอวดอุตริมนุสสธรรม ทำให้ชาวบ้านหลงเชื่อถวายปัจจัยไทยทานแก่หมู่พระภิกษุเหล่านั้นฯ ทำให้พระศาสนาเสื่อมสิ้นสูญ เรื่องสำคัญอย่างนี้เเม้เเต่ "พระปัจเจกสัมมาสัมพุทธเจ้า ผู้ซึ่งสิ้นกิเลสอาสวะโดยสิ้นเชิงเเล้ว" ท่านยังไม่ประกาศตัวเองว่ามีคุณวิเศษใด ๆ แล้วเรื่องราวที่เกิดกับพระสงฆ์ไทยเรา กับการอยู่บนโลกโซเชียลอย่างปัจจุบันนี้นั้น อยากให้ชาวพุทธศึกษาพระธรรมอย่างจริงจัง ก่อนจะเชื่อตามนั้น เพื่อไว้เป็นโล่ปกป้องพระพุทธศาสนาให้ยั่งยืนไปตราบชั่วกาลนาน รูปขอจำเริญพร