ธรรมะสมสมัย

หลวงพ่อไสว ชมไกร



มีสติเจริญอยู่กับธรรม

ท่านสาธุชน พุทธบริษัททั้งหลาย ธรรมะสมัยวันนี้มีเรื่องมาพูดคุย เล่าธรรมะที่สัมผัสอยู่กับชีวิตของทุกคนในทุก ๆ วัน ขอเพียงตั้งใจระลึกไว้ในใจเสมอว่า "เราจะมีสติเจริญอยู่กับธรรม" เมื่อสติของเราเจริญอยู่กับธรรม ธรรมทั้งหลายก็จะอยู่กับใจ เราทุก ๆ คนจะสามารถนับลมหายใจเข้าออกได้เสมอทุกสถานะการณ์ เรียกว่ามีชีวิตติดธรรม

ชีวิตเรามักจะเรื่องทำให้วุ่นวายอยู่กับเรื่องต่าง ๆ นานา เดี๋ยวเรื่องนั้นเดี๋ยวเรื่องนี้ ครั้นจะมุ่งหน้าไปทันทีทันใดก็ไม่ได้ ครั้นจะถอยหลังกลับไปก็ลำบาก เหมือนรถที่กำลังติดอยู่บนท้องถนน ซึ่งคนใช้รถใช้ถนนทราบดีเกี่ยวกับอุปสรรคบนท้องถนน ทำให้คนขับรถหงุดหงิดบ่นนั่นบ่นนี่ไปตามเรื่อง จึงบอกว่าชีวิตต้องติดธรรม ท่องไว้ในใจเสมอว่า ใจเย็น ๆ ไม่เป็นไร เป็นธรรมดาในการเดินทาง ทุกอย่างแก้ไขได้ "ชีวิตก็เปรียบเหมือนการเดินทาง" เสียเวลานิดหน่อยดีกว่าเสียชีวิต เพราะชีวิตยังอยู่ก็ยังมีโอกาสปรับปรุงให้ดีได้


ให้ทานก่อนกิน

นับแต่โบราณมา ปราชญ์เมธีปลูกอุปนิสัย หล่อหลอมจิตใจของพุทธชนให้มีใจโอบอ้อมอารีย์ มีความเอื้อเพื้อเผื่อแผ่ คำชูจรรโลงธรรม เหนี่ยวนำใจให้มีศรัทธาต่อวัดวาศาสนา ตื่นเช้ามาหุงข้าวเป่าไฟ กับผักหักผลไม้ ทำกับข้าวกับปลา หาเตรียมไว้เป็น 2 ส่วน 3 ส่วน

ส่วนที่หนึ่ง นั้นนำไปใส่บาตรถวายเป็นบุญเป็นทาน ส่งเสริมสืบกาลอายุพระพุทธศาสนา ส่งเสริมจริยาพระเจ้าพระสงฆ์ รูปที่ประสงค์ภิกขาจาร มารับอาหารเที่ยวบิณฑบาตประกาศธรรม

ส่วนที่สอง เลี้ยงหาดูแลครอบครัวสมภูมิผู้นำ ทำให้ทุกชีวิตให้อิ่มท้องไม่ข้องขัด ไม่ให้เกิดอัตคัตและขัดสน พ่อแม่ปู่ตาย่ายายพี่น้องลูกหลานทุกผู้คน มีความสุขกาย เจริญวัย มีความสุขใจ เจริญจิต

ส่วนที่สาม ให้ทานแด่กัลยามิตรด้วยจิตไมตรี ยินดีเสียสละด้วยความเอื้อเฟื้อเพื่อสร้างสรรค์ต่อส่วนรวม เพิ่มเติมคุณงามความดีให้เกิดคุณค่าแท้แน่วแน่ควรคู่สู่สังคม

การที่ให้ทานก่อนกินมีความลึกซึ้งซ่อนแฝงมาแต่เก่าก่อน เกิดคุณธรรมประจำใจได้ระลึกรู้ คุณค่าน่าเชิดชูท่านผู้เป็นปราชญ์เมธี ผู้ปลูกสร้างส่งเสริมความกตัญญูกตเวทิตาธรรม


รักษาศีลก่อนยาตรา

คำพระท่านว่า ศีล คือปกติ ศีล คือความหนักแน่น ศีล คือความองอาจไม่ครั่นคร้าม ศีล คือความแกล้วกล้าอาจหาญ ศีล คือแม่บทแห่งกัลยาณธรรมทั้งปวง

"อาทิ สีลํ ปติฏฺฐา จ กลฺยาณานญฺจ มาตุกํ

ปมุขํ สพฺพธมฺมานํ ตสฺมา สีลํ วิโสธเย" (ขุทท เถร)

ศีลเป็นเบื้องต้น เป็นที่ตั้งอาศัย เป็นมารดาของกัลยาณธรรมทั้งหลาย เป็นประมุขของธรรมทั่วไป ฉะนั้น ควรชำระศีลให้บริสุทธิ์

คนดีมีศีลสัตย์จะเดินทางไปในที่ใด ๆ ย่อมปลอดภัยไม่มีความเดือดเนื้อร้อนใจ หลวงพ่อไปธุดงค์ในป่าใหญ่ป่าลึก ที่ที่ไม่มีผู้คนอยู่อาศัย มีแต่ป่าไพรอันสงัด อำนาจแห่งศีลนี่แหละทำให้แกล้วกล้าในที่ทั้งปวง เสือ ช้าง ผีป่า ก็ไม่ทำอันตรายปลอดภัยอย่างห้าวหาญ ไม่กลัวป่าเพราะธรรมและเทวดาคุ้มครอง แต่สิ่งที่กลัวคือ กลัวชาวบ้านทุกแห่งทุกตำบล (กลัวเพราะ ชาวบ้านชอบมาขอหวย)

ดังนั้นก่อนออกเดินทางไปในที่ใด ๆ ให้ท่านทั้งหลายตั้งจิตอธิษฐานว่าจะเป็นผู้มีศีลหรือมีความเป็นปกติไม่คิดเบียดเบียนหรือคิดทำร้ายใคร ไม่คิดจะขโมยหรือลักของใคร ไม่คิดจะยุ่งเกี่ยวกับภรรยาคนอื่น ไม่คิดจะพูดจาหลอกลวงผู้อื่นและไม่พยายามดื่มของมึนเมา หรือหากเมาก็ไม่ควรขับรถเพราะจะเกิดอันตรายได้ง่าย

เมื่อมีความเป็นปกติอย่างนี้ ก็จะไม่มีโทษแก่ใคร ๆ ย่อมมีแต่ความเจริญดังที่ปรากฎใน ลักขณชาดก ขุททกนิกาย ความว่า "ความเจริญย่อมมีแก่ชนทั้งหลายผู้มีศีล ประพฤติในปฏิสันถาร" และในสีลวีมังสชาดก ขุททกนิกาย ว่า "ศีลเป็นความงาม ศีลเป็นเยี่ยมในโลกบุคคลผู้มีศีล ย่อมเป็นที่รักของญาติทั้งหลาย และรุ่งเรืองในหมู่มิตร เมื่อตายไปแล้ว ย่อมเข้าถึงสุคติ" ดังนั้นควรฝึกเป็นคนมีศีลไว้เพราะ "คนมีศีลเหมือนดินมีน้ำ คนขาดศีลเหมือนดินขาดน้ำ"


สวดมนต์แผ่เมตตาก่อนนอน

สมัยหลวงพ่อเป็นพระหนุ่ม ๆ เคยได้ไปร่วมงานอบรมครูสอนศีลธรรมของกรมการศาสนาในสมัยนั้น เขามีเปิดเพลงขององค์กรเปรียญธรรมสมาคมในงาน มีใจความว่า

๐ ก่อนท่านนอนหลับไปในคืนนี้ ขอจงตั้งดวงฤดีไว้ให้มั่น
คิดถึงกุศลผลแห่งดีที่ผูกพัน จิตตั้งมั่นแน่วแน่แล้วแผ่ไป

๐ แผ่เมตตาทั่วไปให้คนอื่น ทั้งรักชื่น - เกลียดชัง แต่ครั้งไหน ?
ขอให้เขาได้ดีมีสุขใจ อย่าหวั่นไหวแม้อมิตรที่คิดชัง

๐ แล้วใจเราจะสบายคลายเร่าร้อน เพราะจิตผ่อนความเครียดแต่หนหลัง
"อนีฆา สุขี อัตตานัง" ห่างทุกขังด้วยเพราะจิต "คิดดี" เอยฯ

การสวดมนต์แผ่เมตตาก่อนนอน จะทำให้จิตใจสงบ รู้ปลง รู้วาง รู้ว่าง รู้เย็น เป็นเรื่องควรแก่จิตใจ ทบทวนว่าวันนี้เราได้ทำคุณงามความดีอะไรไว้บ้าง เช่น 1) วัตถุทาน 2) ธรรมทาน 3) อภัยทาน ถ้าได้ทำความดีงามแล้วนั้น จะเกิดความสุขสงบใจ มีจิตใจดี นอนหลับดี (บางครั้งทำให้ฝันเรื่องดี ๆ)

แต่ถ้าได้ทำความไม่ดีอะไรต่าง ๆ นานา สารพันไว้ทั้งวัน การนอนหลับก็ไม่สนิท การคิดก็ฟุ้งซ่านบริวารก็ทอดทิ้ง บางสิ่งที่ดีจะกลับเสีย เพราะพรุ่งนี้ก็อาจขสายเกินไป "อดีตก็ผ่านไปแล้ว อนาคตก็ยังมาไม่ถึง จงทำวันนี้ให้ดีที่สุด" การไหว้พระสวดมนต์ตั้งจิตอธิษฐานแผ่เมตตาจิตไปยังสรรพสัตว์ทั้งหลาย ขอให้สัตว์ร่วมโลกที่ เกิด แก่ เจ็บ ตาย ให้มีความสุขมีความเจริญโดยทั่วกัน "เป็นอภัยทาน"

พระผู้มีพระภาคตรัสตอบว่า "ความเจริญย่อมมีแก่คนมีสติทุกเมื่อ คนมีสติย่อมได้ความสุข ความดีย่อมมีแก่คนมีสติเป็นนิตย์ แต่คนมีสติยังไม่หลุดพ้นจากเวร" บาลีว่า สติมโต สทา สาธุ สติมา สุขเมธติ สติมโต สุเว เสยฺโย เวรา น ปริมุจฺจติ ฯ

พระพุทธเจ้าทรงตรัสต่อไปอีกว่า "ผู้ใดมีใจยินดีในความไม่เบียดเบียนตลอดวันและคืนทั้งหมด และเป็นผู้มีส่วนแห่งเมตตาในสรรพสัตว์ ผู้นั้นย่อมไม่มีเวรกับใครๆ” ขอท่านทั้งหลาย จงมีสติเจริญอยู่กับธรรม ความจริงม้าวิ่งเร็วกว่าลา แต่ว่าวันนี้ธรรมะสมสมัยขอ ลา ไปก่อน รูปขอจำเริญพร