ธรรมะสมสมัย

หลวงพ่อไสว ชมไกร



ทานที่มีผลมาก มีอานิสงส์มาก

จำเริญพรท่านผู้แสวงบุญทุกท่าน ช่วงนี้อยู่ในฤดูกาลเข้าพรรษาของพระภิกษุสงฆ์ หลายๆ วัดจัดให้มีเทศน์มหาชาติ เรื่องพระเวสสันดรบ้าง เรื่องทศชาติบ้าง (พระเจ้าสิบชาติ) เป็นที่ทราบตามครรลองคนไทยชาวพุทธว่า การจัดเทศนาเป็นเรื่องหนึ่งในมงคลสูตร เช่น การฟังธรรมเทศนาตามกาล เป็นมงคลอันอุดม เป็นต้น ฯ ทางวัดพระธาตูทุ่งเศรษฐี ของเราจัดให้มีเทศน์มหาชาติผ่านมาได้ 3 กัณฑ์ วันอาทิตย์ที่ 6 สิงหาคม ศกนี้จะเป็นกัณฑ์ที่ 4 ชื่อกัณฑ์วนประเวศ 4 กษัตริย์เดินดง ผ่านมาเป็นเจ้าภาพรวมญาติ เพราะยังไม่มีเจ้าต้นประธานหลัก เลยต้องร่วมกันประคองสืบสาน ทั้งนี้ก็เพื่อให้วัดมีปัจจัยบำรุงวัดได้บ้างไม่มากก็น้อย เอาหละวันนี้ขอนำพระพุทธพจน์มาเพื่อเป็นกำลังใจให้ทุกท่านตั้งอยู่ในบุญในทานการกระทำอันเป็นกุศล "บุคคลเหล่าใดมีใจผ่องใส ย่อมให้ข้าวด้วยศรัทธา บุคคลเหล่านั้นย่อมได้ข้าวนั้นเอง ทั้งโลกนี้และโลกหน้า" "เพราะเหตุนั้นพึงเปลื้องความตระหนี่เสีย แล้วให้ทาน บุญเท่านั้น เป็นที่พึ่งของสัตว์ในโลกหน้า" (จากเสรีสูตร สังยุตตนิกาย สคาถวรรค)


ทานที่มีผลมาก มีอานิสงส์มาก

ตามที่พระผู้มีพระภาคอรหันตสัมมาสัมพุทธเจ้าตรัสสอนไว้ ถ้าไม่ได้ศึกษาเรียนรู้มาก่อน น้อยคนนักที่จะประพฤติปฏิบัติได้ถูกต้อง

เจตนาที่เป็นเหตุให้เกิดการให้ทานนั้น แบ่งตามกาลเวลาได้ 3 กาล คือ

ปุพเจตนา เจตนาที่เกิดขึ้นก่อน คือเมื่อนึกจะให้ ก็แสวงหาตระเตรียมสิ่งที่จะให้นั้นให้พร้อม

มุญจเจตนา เจตนาที่เกิดขึ้นในขณะกำลังให้ของเหล่านั้น

อปรเจตนา เจตนาที่เกิดขึ้นหลังจากได้ให้เรียบร้อยแล้ว แล้วเกิดความปีติยินดีในการให้ของตน

บุคคลใดที่ทำบุญหรือให้ทานด้วยจิตใจที่โสมนัสยินดี ทั้งประกอบด้วยปัญญา เชื่อกรรมและ ผลของกรรมครบทั้ง 3 กาลแล้ว บุญของผู้นั้นย่อมมีผลมาก

เจตนาทั้ง 3 กาลนี้ เมื่อเกิดขึ้นมาแล้วก็ต้องดับไปเช่นเดียวกับสังขารธรรมอื่นๆ และเมื่อดับไปแล้วสามารถจะส่งผลนำเกิดในสุคติภูมิเป็นมนุษย์และเทวดาได้ ในพระไตรปิฎก ขุททกนิกาย อปทาน แสดงความบุพกรรม คือกรรมในชาติก่อนๆ ของผู้ที่สำเร็จเป็นพระอรหันต์ที่เกี่ยวกับทานไว้มากมาย ตัวอย่าง

เช่น พระอรหันต์รูปหนึ่งในอดีตชาติได้ถวายผลมะกอกผลหนึ่งแก่พระพุทธเจ้าที่ประทับอยู่ในป่าใหญ่ รูปหนึ่ง เคยถวายดอกบุนนาค รูปหนึ่งเคยถวายขนม รูปหนึ่งเคยถวายรองเท้าเป็นต้น นับแต่นั้นมาท่านเหล่านั้นไม่เคยเกิดในทุคติภูมิเลย เกิดอยู่แต่ในสุคติภูมิ เป็นมนุษย์และเทวดาเท่านั้น ตราบจนในชาติสุดท้ายได้สำเร็จเป็นพระอรหันต์

วัตถุทาน คือสิ่งของที่ให้นั้นก็มีหลายอย่าง กล่าวกว้างๆ ก็ได้แก่ปัจจัย 4 คือ จีวร ซึ่งรวมทั้งเครื่องนุ่งห่มด้วย บิณฑบาต ซึ่งรวมทั้งอาหารเครื่องบริโภคทุกอย่าง เสนาสนะ ที่อยู่อาศัย คิลานเภสัช คือยารักษาโรค ในโภชนทานสูตร อัง. ปัญจก. ข้อ 37 พระผู้มีพระภาคเจ้าทรงแสดงว่า ทายกผู้ให้โภชนะเป็นทาน ในกินททสูตร สัง. สคาถ. ข้อ 138 พระผู้มีพระภาคเจ้าตรัสว่า

- การให้ข้าวและน้ำ ชื่อว่าให้กำลัง

- การให้ผ้า เครื่องนุ่งห่ม ชื่อว่าให้ผิวพรรณ

- การให้ยานพาหนะ ชื่อว่าให้ความสุขทั้งกายและใจ

- การให้ประทีบดวงไฟ ชื่อว่าให้ดวงตา

- การให้ที่อยู่อาศัย ชื่อว่าให้ทุกอย่าง คือให้กำลัง ให้ผิวพรรณ ให้ความสุข และให้ดวงตา

ธรรมทาน การพร่ำสอนธรรม คือการให้ธรรมะ ชื่อว่าให้สิ่งที่ไม่ตาย เพราะบุคคลจะพ้นจากความตาย ไม่ต้องเกิดอีกได้ ก็เพราะอาศัยการได้สดับตรับฟังธรรม ด้วยเหตุนี้ พระพุทธองค์จึงตรัสว่า "การให้ธรรมะชนะการให้ (สิ่งอื่น) ทั้งปวง" แม้การจะทำทานให้ถูกต้องก็ต้องอาศัยการฟังธรรม การฟังธรรมการแสดงธรรม ก็จัดอยู่ในธรรมทานที่มีอานิสงส์มาก แลฯ

อภัยทาน เป็นการที่บุคคลทั่วๆ ไปกระทำได้อย่างยากยิ่ง ที่จะถอนอัสมิมานะออกจากตนให้เกลี้ยงเกลา เพราะมีความยึดมั่นว่า "เขาว่าเรา เขาทำร้ายเรา เขาเอาเปรียบเรา ฯลฯ เหล่านี้ถ้ามิใช่นักบวชนั้นทำได้ยากมาก แม้นักบวชก็ตาม ถ้าไม่เอาใจใส่เรื่องให้อภัยก็ยังไกลธรรม แม้จะบอกว่าเมตตาๆ จนปากฉีกมาถึงหูก็ไม่รู้คุณค่าของการบวชมาในพระพุทธศาสนา อภัยทาน จึงเป็นผลอันยิ่งใหญ่และประเสริฐสูงสุดในบรรดาสิ่งทั้งปวง


แจ้งขอเชิญร่วมทำบุญกฐินสามัคคี (กฐินรวมใจ) เพื่อไถ่ถอนที่ดินถวายเป็นพุทธบูชา ตลอดถึงบูรณปฏิสังขรณ์วัด พัฒนาสู่ความมั่นคงรุ่งเรือง กำหนดการวันอาทิตย์ที่ 30 ตุลาคม 2565 ทอดถวาย ณ วัดพระธาตุทุ่งเศรษฐี แคลิฟอร์เนีย 6763 E AVENUE H., LANCASTER, CA 93535-7849

รูปขอจำเริญพร