ธรรมะสมสมัย

หลวงพ่อไสว ชมไกร



อานิสงส์ร่วมบุญบวช

เจริญพร ขอเชิญพี่น้องสาธุชนพุทธบริษัทปราชญ์บัณฑิต ผู้มีจิตศรัทธาทุกท่าน ฉบับที่แล้วได้เขียนเรื่องชวนกันไปงานบวช เดี๋ยวขอเพิ่มเติมเรื่องประโยชน์หรืออานิสงส์ให้ต่อเนื่อง สำหรับผู้ร่วมอนุโมทนาบุญบวช อานิสงส์ ร่วมบุญบวช

- ได้เกิดเป็นมนุษย์ พบพระพุทธศาสนา การเกิดเป็นมนุษย์ก็เกิดกันได้ทั่วไป แต่การสั่งสมอุปนิสัยนั้น นับเป็นการบ่มเพาะเมล็ดพันธุ์ไว้ในวิถีพุทธปราชญ์ท่านว่าไว้ การเกิดเป็นมนุษย์พบพระพุทธศาสนานั้นมันยอดเยี่ยม ที่มาดังพระคาถานี้เลย

กิจฺโฉ มนุสฺสปฏิลาโภ กิจฺฉํ มจฺจาน ชีวิตํ

กิจฺฉํ สทฺธมฺมสฺสวนํ กิจฺโฉ พุทฺธานมุปฺปาโท.

ความได้อัตภาพเป็นมนุษย์ เป็นการยาก, ชีวิตของสัตว์ทั้งหลาย เป็นอยู่ยาก, การฟังพระสัทธรรม เป็นของยาก การอุบัติขึ้นแห่งพระพุทธเจ้าทั้งหลาย เป็นการยาก." นี้เป็นข้อความในพระไตรปิฎก

- มีศีล สมาธิ ปัญญา กล้าแกร่ง ความเป็นพุทธเวไนยชนก็บังเกิดขึ้น ศีล สมาธิ ปัญญา เกิดขึ้นกับผู้มีอุปนิสัยตื่นรู้ สิกขา 3 ประการนี้ย่อมเกิดขึ้น และเป็นคนที่พระพุทธเจ้าพอจะทรงสั่งสอนได้.

- เป็นผู้มีโภคทรัพย์ไม่เหือดแห้ง ไปร่วมบุญบวชแล้วรวยจริงหรือ เรื่องนี้หาที่มาได้ง่ายเอาสั้นๆ นะ

สีเลนะ สุคะติง ยันติ = ศีลเป็นเหตุให้ถึงสุคติ

สีเลนะ โภคะสัมปะทา = ศีลเป็นเหตุให้ถึงพร้อมด้วยโภคทรัพย์

สีเลนะ นิพพุติง ยันติ = ศีลเป็นเหตุให้ถึงพระนิพพาน

ตัสมา สีลัง วิโสทะเย = เพราะเหตุนั้น พึงชำระศีลให้หมดจด

- เป็นผู้เข้มแข็งศรัทธา มีสัมมาทิฏฐิ อันพึงได้ ศรัทธานำพาไปสู่เป้าหมายที่ถูกต้องตรงทาง เพราะมีความประกอบด้วย อริยอัฏฐังคิกมัคค์ หรือ มรรคมีองค์ 8 ได้แก่

1. สัมมาทิฏฐิ เห็นชอบ คือ รู้เข้าใจถูกต้อง เห็นตามที่เป็นจริง

2. สัมมาสังกัปปะ ดำริชอบ คือ คิดสุจริตตั้งใจทำสิ่งที่ดีงาม

3. สัมมาวาจา เจรจาชอบ คือ กล่าวคำสุจริต

4. สัมมากัมมันตะ กระทำชอบ คือ ทำการที่สุจริต

5. สัมมาอาชีวะ อาชีพชอบ คือ ประกอบสัมมาชีพหรืออาชีพที่สุจริต

6. สัมมาวายามะ พยายามชอบ คือ เพียรละชั่วบำเพ็ญดี

7. สัมมาสติ ระลึกชอบ คือ ทำการด้วยจิตสำนึกเสมอ ไม่เผลอพลาด

8. สัมมาสมาธิ ตั้งจิตมั่นชอบ คือ คุมจิตให้แน่วแน่มั่นคงไม่ฟุ้งซ่าน

- เป็นผู้ว่องไวปฏิภาณ ชาญฉลาด ฯลฯ สมาธิเจริญอยู่ได้ด้วยพลังแห่งสติ สรุปเป็นธรรมคำกลอนให้ก็แล้วกันนะ

สมาธิดี ต้องมี สติคู่
ตามติดจ้อง ส่องดู รู้กำหนด
อย่างโทสะ จริต จิตมักโกรธ
สติหยุด ลิงโลด โทษหยุดยั้ง ฯ

สติมา ปัญญาเกิด ประเสริฐเลิศ
สมาธิ ย่อมก่อเกิด ทั้งยืนนั่ง
ปัญญาเกิด ตื่นรู้ สู่ภวังค์
ธรรมทุกอย่าง รู้เห็น เป็นอนัตตา ฯ

จริตใด ใครนั่ง สมาธิ
ขาดสติ อารมณ์ซ้อน ซ่อนโทสา
สมาธิ พูดให้เพลีย เสียเวลา
จงกลับมา เจริญสติ นี่แหละธรรม ฯ

ถ้าท่านใดใครชอบนั่ง ชอบทำสมาธิ แต่นั่งแล้วหงุดหงิด ชอบโกรธคนนั้นคนนี้ โมโหไม่ได้อย่างใจ เลยอยากจะปลงใจปล่อยวาง แต่ก็ทำไม่ได้สักที นั่งๆ ไปเห็นภาพผ่านสัมผัสเข้ามา จิตก็เร้าร้อน ใจชอบนั่งสมาธิ เลยไม่อยากนั่ง นั่งแล้วเห็นภาพเหล่านั้นแล้วไม่สบายใจ สรุปให้อย่างนี้นะ

ท่านไม่ต้องไปนั่งสมาธิให้เสียเวลา แต่ให้กลับมาเจริญสติให้ละเอียดขึ้น เพราะท่านนั่งสมาธิ - แบบ ขาดสติ + และขาดสัมปชัญญะ อีกด้วย หมั่นทำให้ได้เท่าเวลาช้างกระดิกหู งูแลบลิ้น ไก่กระพือปีกให้สม่ำเสมอเท่านั้นละ (ไม่ต้องมาก เดี๋ยวมันมากของมันเอง)

ไปๆ ใครไปได้ไปเอาบุญ ไปอนุโมทนาบุญบวช "นาคเอก" ในวันพฤหัสบดีที่ 5 มกราคม 2566 ณ พัทธสีมา วัดพุทธปัญญา เมืองโพโมน่า เลขที่ 1157 Indian Hill Blvd, Pomona, CA 91767 โทรศัพท์ (909) 629 -1771

กำหนดการ/ขั้นตอน/พิธีการ

เวลา 08.00 น. พร้อมกันที่วัดพุทธปัญญา ปลงผมนาคใต้ต้นโพธิ์

เวลา 09.09 น. ประกอบพิธีในขั้นตอนแห่งพระธรรมวินัยตามพระบรมพุทธนุญาต

เวลา 11.00 น. คณะสงฆ์ 10 รับอาหารบิณฑบาตร

เวลา 11.30 น. พร้อมกันถวายภัตตาเพลแด่พระภิกษุสงฆ์ จำนวน 10 รูป

- พระสงฆ์พิจารณาภัตตาหารและกระทำภัตตกิจ / พระสงฆ์อนุโมทนา

- สาธุชนร่วมกันรับประทานอาหารโดยพร้อมเพรียงกัน

- หลังจากเสร็จทุกอย่างดูแลความเรียบร้อย กราบลาพระสงฆ์

- เป็นอันเสร็จพิธี

ด้วยอำนาจพระพุทธานุภาพ พระธรรมานุภาพ พระสังฆานุภาพ ขอให้สำเร็จสมปรารถนาทุกประการด้วย เทอญ รูปขอจำเริญพร