ธรรมะสมสมัย

หลวงพ่อไสว ชมไกร



โยนิโสมนสิการ วิถีแห่งปัญญา

ท่านพุทธบริษัท สาธุชนทุกคนทุกท่าน คอลัมน์ธรรมะสมสมัย มีธรรมะที่น่าสนใจมาเล่าสู่ท่านฟังเช่นเคย ธรรมะวันนี้เป็นเรื่องเบา ๆ ถ้าเราไม่เอามาแบก @ แต่ถ้าเราเอาทุกปัญหามาสุมหัว เรื่องนี้ก็น่ากลัวจะทำเอาอกแตกสลาย กลายเป็นเรื่องใหญ่โต ท่านคงเคยได้ยินนะว่าน้ำผึ้งหยดเดียวนะ ส่วนความหมายเป็นอย่างไรนั้นไปแปลความหมายกันเอง ไม่จำกัดเสรีภาพทางความคิด เช่นคำนี้เลย "ผู้มีผงธุลีในตาน้อย" เป็นคำที่มีคุณค่าที่สุดในทางบรรลุธรรม และนี่คือความพิเศษของ "ธรรมะสมสมัย" ฯ


ชัดๆ เรื่อง "โยนิโสมนสิการ"

เรื่องนี้ เป็นวิถีให้เกิดปัญญา ท่านทั้งหลายการสอนธรรมะมิได้ขึ้นอยู่ที่ธรรมามาสน์ทองคำดอกนะ แต่การยกย่องธรรม และผู้รับหน้าที่แสดงธรรมะนั้น นับว่าเป็นการตั้งใจสดับรับฟังด้วยความเคารพ ของพุทธศาสนิกชนผู้เป็นปราชญ์บัณฑิตทางธรรมนั้นด้วย ซึ่งต้องเข้าใจเลยว่า "ความละเอียดอ่อนเรื่องความศรัทธาทางศาสนาเป็นเหตุผลที่ต้องใช้กับบัณฑิตโดยธรรม" อุปมาดั่งหลักสูตรอุดมศึกษานั้นเด็กอนุบาลรู้ไม่ถึง ย่อมเข้าใจไม่ได้ เรื่องนี้ก็ต้องใช้โยนิโสมนสิการ


เรื่องระดับความเมตตา

อย่างเรื่อง ความเมตตา เป็นเรื่องที่ต้องปลูกฝังให้เกิดก่อตั้งแต่วัยเยาว์ และพ่อแม่ที่เป็นชาวพุทธต้องกำกับขอบเขตให้ชัดด้วยท่าที่ต่าง ๆ ให้ชัดเจนว่าอะไร แค่ไหน เพียงใด เช่น เรื่องเสียงฆ้อง เสียงกลอง เสียงระฆัง เสียงเครื่องตี เครื่องสาย ซึ่งทุกอย่างนั้นต่างชิ้นต่างเสียงก็จริง แต่พอบริหารจัดการให้ประสานเข้าเสียงกันได้ก็กลายเป็นเสียงดนตรีอันไพเราะ ทำให้จิตใจมีพลัง นี่ยังไม่รวมถึงเสียงเครื่องเป่านะ อย่างเช่นเสียงธรณีกรรแสง ก็เศร้าสะเทือนประหนึ่งว่าธรณีร่ำไห้ เรื่องโยนิมนสิการนี้ต้องตอมรับว่าเป็นเรื่องที่ละเอียดอ่อนจริง ๆ

ดังนั้น คำว่า "ชนใดที่ไม่มีดนตรีการ ในสันดานเป็นคนชอบกลนัก" บทประพันธ์ของเช็กสเปียร์ ล้นเกล้า ฯ รัชกาลที่ 6 พระองค์ท่านแปลมา (ไม่แน่ใจ) อย่างเสียงระฆังเขตบางคอแหลม กรุงเทพฯ นั้นก็ประเด็นหนึ่ง แต่ก็สงบลงแล้วหละ ตอนนี้ไปได้ยินว่ามีร้องเรียนวัดว่าสวดมนต์เสียงดัง เรื่องเกิดที่ต่างจังหวัด คิดดี ๆ ก็ดีนะเป็นประเด็นให้กลับมาศึกษาเรื่องโยนิโสมนสิการ ว่าจะเข้าข่ายเป็นอุปทานระดับไหน และจะเป็นไปอย่างไร ยิ่งสมัยนี้เป็นยุค 4G เรื่องเกิดที่ไหน เกิดเรื่องอะไร รับข่าวสารทราบไปพร้อมกัน นี่เรื่องนี้ก็ต้องใช้โยนิโสมนสิการ


สังคมย่อมมีความต่าง

ธรรมะกับความเป็นอยู่ของวิถีชน สังคมย่อมมีความต่าง สังคมทางการเมืองพูดวิสัยทัศน์ทาง การเมือง สังคมกลุ่มการค้าพูดถึงวิสัยทัศน์การลงทุนการเก่งกำไร สังคมสาว ๆ ผู้รักสวยรักงามพูดถึงผลิตภัณฑ์เสริมความงาม เช่น ครีมตัวนี้ใช้ได้คุณภาพดี ทำให้หน้าตาดูอ่อนวัย กระปุกนี้ใช้ได้นานเป็นครึ่งปีเลย กระปุกนี้แค่หมื่นกว่าบาทเอง และต้องใช้คู่กับตัวนี้นะ นี่ต้องซื้อทั้งแพ็คเก็ตนี้เลย อ้อ..รวมแล้วได้ 3 - 4 อย่าง จ่ายไปแค่ หนึ่งพันนิดหน่อยเอง (Thousand US Dollar's) มิใช่ใครอื่นที่ไหนหรอก ลูกหลานหลวงพ่อที่มาเป็นเจ้าภาพทอดกฐินสามัคคีวัดทุ่งเศรษฐี ปีนี้แหละ หลวงพ่อกะว่าจะเข้าไปถามไถ่ว่า ไปไหนกันมา ซื้ออะไร ได้อะไรมากันบ้าง ลูกหลานบอกว่าไม่ได้อะไร ได้แต่เครื่องสำอางค์เจ้าค่ะหลวงพ่อ แล้วก็คุยแต่เรื่องเครื่องสำอางค์ อันนี้ เรื่องนี้หลวงพ่อก็ต้องใช้โยนิโสมนสิการเช่นกัน


สิทธิทางกฎหมายก้าวหน้าเกิดธรรม

บ้านเมืองควรมองให้เห็นคุณค่าของการปกครองแผ่นดินโดยธรรม ประเพณีวัฒนธรรมได้บ่งบอกถึงคุณค่าของชนชาติไทย เกิดอะไรขึ้นกับเสียงโปงเสียงระฆังทั่วประเทศไทย "ปรัชญาการปกครองแผ่นดินโดยธรรม" คำนี้จะใช่ไม่ได้เลยเพราะผู้บริหาร ขาดความเข้าใจเรื่องโยนิโสมนสิการ ต้องเข้าใจเรื่องเครื่องเสียงเครื่องสายเครื่องดีดสีตีเป่า ต้องเข้าใจจัดการให้ดี เป็นเสียง ดนตรีออกมาไพเราะเพราะพริ้ง แล้วเสียงระฆังก็จะไม่เป็นปัญหากับ ชุมชนใดทุกสังคมทั่วประเทศไทย อย่าให้กฎหมายทำลายศีลธรรมอันดีของวิถีชน วิถีแห่งปัญญานั้นเลย


วิถีแห่งปัญญา

วิถีแห่งปัญญา ย้อนนำพาตัวเราเข้าไปศึกษาหลักปาฏิหาริย์ที่ทำให้เกิดความเป็นอัศจรรย์ 3 วิธี การกระทำที่กำจัดหรือทำให้ปฏิปักษ์ต่อทัศนคติ ต่อจิตใจต่อความนึกคิดนั้นยอมได้ การกระทำที่ให้เป็นอัศจรรย์ การกระทำที่ให้บังเกิดผลเป็นอัศจรรย์ มีอยู่ 3 ประการที่พระพุทธเจ้าตรัสว่าไว้ ดังนี้

1. อิทธิปาฏิหาริย์ ปาฏิหาริย์คือฤทธิ์ แสดงฤทธิ์ได้ เป็นอัศจรรย์

2. อาเทศนาปาฏิหาริย์ ปาฏิหาริย์คือการทายใจ รอบรู้กระบวนของจิตจนสามารถกำหนดอาการที่หมายเล็กน้อยแล้วบอกสภาพของจิต ความคิด อุปนิสัยได้ถูกต้อง เป็นอัศจรรย์

3. อนุสาสนีปาฏิหาริย์ ปาฏิหาริย์คืออนุศาสนี คำสอนเป็นจริง สอนให้เห็นจริง นำไปปฏิบัติได้ผลสมจริง เป็นอัศจรรย์

ใน 3 อย่างนี้ ถ้าเป็นสิ่งที่พระพุทธเจ้าแสดงหรือกล่าวไว้ หลวงพ่อจะไม่ติดใจสังสัยเพราะเข้าใจว่าพระองค์ท่านประกอบด้วยพระมหากรุณายิ่งล้น แต่เห็นผู้คนในปัจจุบัน รู้สึกผิดหวังกับนักสอนศาสนาที่อ้างว่าเป็นพุทธชน ส่วนมากขาดโยนิโสมนสิการ ขาดเมตตา กระทำเพียงเพื่อผลประโยชน์ตน จึงต้องเจริญพรเรียนชาวพุทธว่า :-

เรื่องอิทธิปาฏิหาริย์ ต้องระวังกลุ่มคนประเภทชอบคุยโวโอ้อวดอ้างสรรพคุณ เช่นเรื่องเครื่องรางของขลัง มหาเสน่ห์ ความรู้ความเข้าใจน้อย แต่ความดันทุรังสูง

เรื่องอาเทศนาปาฏิหาริย์ ต้องระวังกลุ่มคนประเภทชอบเล่นกล ชอบข่มขู่ด้วยอำนาจที่มองไม่เห็น หาประโยชน์จากความกลัวของคน เช่น อาจเป็นเรื่องผีสาง ทรงเจ้าเข้าผี หรืออาจอ้างเป็นเรื่องกรรมเก่า เจ้ากรรมนายเวรตามมารังครวญบ้าง โน้น นี่ นั่น สารพัดหว่านล้อมให้เชื่อ และถ้าไม่เชื่อจะต้องวิบัติอย่างโน้นอย่างนี้ เรื่องนี้ก็อ้างกันมาก

เรื่องอนุสาสนีปาฏิหาริย์ พระพุทธเจ้าทรงสรรเสริญว่า "เยี่ยม" การแสดงธรรมที่มีโยนิโสมนสิการ วิถีแห่งปัญญานั้น ต้องรู้ ต้องสอน ตามหลักของอริยสัจจ์ ต้องให้ผู้ฟังผู้อ่านเข้าใจตามหลักของอริยสัจจ์ ได้อย่างนี้การแสดงธรรมบนธรรมาสน์ทองคำ การล้อมวงฟังธรรม การนั่งหยอกล้อคุยกันกับลูกกับหลาน การเฟสบุ๊คไลน์ หรืออื่น ๆ ถือว่าเป็นความสัมฤทธิ์ผลของการสื่อสานธรรมทุกช่องทางในระบบ 4 G คือความดีของคำว่า "โยนิโสมนสิการ" รูปขอจำเริญพร