ธรรมะสมสมัย

หลวงพ่อไสว ชมไกร



ฝ่าวิกฤต จำต้องรู้รักษาสิ่งที่มีคุณค่าที่สุด

สาธุชนพุทธบริษัทและท่านผู้สนใจในธรรมทั้งหลาย ความรักษาใจมั่นเรียกว่า "สมาธิ" ข้อความน่ารู้จากพระไตรปิฎก (สัตตกนิบาต อังคุตตรนิกาย) สมาธินับเป็น 1 ในกำลัง 7 ประการ "ดูก่อนภิกษุทั้งหลาย กำลัง 7 ประการเหล่านี้ คือ

1) กำลังคือความเชื่อ = สัทธาพละ

2) กำลังคือความเพียร = วิริยพละ

3) กำลังคือความละอายต่อบาป = หิริพละ

4) กำลังคือความเกรงกลัวต่อบาป = โอตตัปปพละ

5) กำลังคือสติความระลึกได้ = สติพละ

6) กำลังคือความตั้งใจมั่น = สมาธิพละ

7) กำลังคือปัญญา ปัญญาพละ

ท่านสาธุชนทั้งหลาย "หากเรากำลังฝ่าวิกฤต จำต้องรู้รักษาสิ่งที่มีคุณค่าที่สุด พระพุทธเจ้าตรัสเรื่องกำลัง 7 ประการดังกล่าวไว้ข้างต้น ถ้าเป็นท่านจะเลือกข้อใดมาใช้ในภาวะการคับขันที่จะสามารถรับมือกับไวรัสร้าย Covid 19 นี้ได้บ้าง

ตามที่ได้ยินมาหลายท่านเลือกที่จะใช้ข้อที่ 5 "สติพละ - กำลังคือสติ" ท่ามกลางกระแสโลกไร้พรมแดน และสื่อที่ยากต่อการควบคุม การเจริญสติจึงเป็นทางเลือกที่ควรแก่สถานการณ์นี้ เพราะมิฉะนั้นสิ่งที่ตามมา คือ โรคแพนิค (Panic Disoder) คือเกิดภาวะตื่นตระหนกต่อสิ่งใดสิ่งหนึ่งโดยไม่มีเหตุผลหรือหาสาเหตุไม่ได้

แต่ยังมีอีกกลุ่มความคิดหนึ่งต้องการใช้ข้อที่ 1 "สัทธาพละ กำลังคือความเชื่อ" บ้างเชื่อว่าสวดมนต์กำจัดพยาธิภัย เพื่อขจัดปัดเป่าสิ่งชั่วร้าย ความหมายคือไล่ Corona Virus บางทีเป็นการย้อนแย้งกระแสทางวิทยาศาสตร์ แต่เชื่อว่าจะขจัดพยาธิภัยไปได้ บางคอมเม้นท์กล่าวว่า "ไวรัสฟังสวดมนต์ได้บรรลุธรรม เราไม่ต้องกลัวแล้ว อย่างนี้ก็มี"

บางท่านบอกว่ากำลังที่ดีที่สุดคือ ข้อที่ 7 "ปัญญาพละ กำลังคือปัญญา" เพราะถ้ามีปัญญาแล้ว จะแก้ไข้ปัญหาได้ทุกอย่าง ท่ามกลางความกังวนทางสังคม มีทั้งข่าวจริงข่าวเท็จส่งกันทางโซเชียลนิวส์ มีทั้งชื่นชมท่านผู้นำฟิลิปปินส์ก็ดี มีทั้งที่ตำหนินายกของไทย มีทั้งวิจารณ์ประธานาธิปบดีของสหรัฐ แต่ที่ปรากฏเป็นข่าวคือ การแพร่ขยายของเชื้อโรคของน่ากลัว จนผู้คนต่างกักตุนสินค้าเกลี้ยงตลาด จนวันนี้ยังไม่พบการหยุดโควิด 19 ไวรัสภัยร้ายที่มองไม่เห็นว่าจะจู่โจมใครต่อใครตอนไหน?


สิ่งที่มีค่าที่สุดคืออะไร?

การฝ่าวิกฤตครั้งนี้ จำต้องรู้รักษาสิ่งที่มีคุณค่าที่สุด "ลมหายใจคือสิ่งที่มีค่าที่สุดของทุกๆ คน" ดังนั้น ขอให้ทุกคนได้ให้กำลังใจกันไป คือต้องรู้จักที่จะปกป้องตนเอง ปกป้องครอบครัว ปกป้องทุกตนในสังคมเล็ก สู่สังคมโลก การรักตัวเอง คือเบื้องต้นของการรักษาและหยุดยั้งโรคร้ายนี้ ถ้าให้อาตมาแสดงความเห็นว่ากำลัง 7 ประการที่กล่าวมาข้างต้น ข้อไหนสำคัญที่สุด อาตมาเลือกข้อ 3 "หิริพละ กำลังคือความละอายแก่ใจ" อาตมาเห็นว่าข้อนี้สุดยอดที่สุด โดยอธิบายได้ว่า

1) อายถ้ามีคนมากล่าวหาว่าไม่รับผิดชอบต่อสังคม ไม่เชื่อต่อมาตรการต่างๆ ที่รัฐประกาศภาวะฉุกเฉิน ดื้อรั้นไม่เคารพเชื่อฟังต่อมาตรการควบคุมนั้น

2) อายที่จะไปในสถานที่สุ่มเสี่ยง ไม่เพียรพยายามหลีกเลี่ยงการชุมนุมชนแออัด อายที่จะไม่พยายามช่วยเหลือผู้อื่นให้พ้นพยาธิภัย

3) อายแก่ใจถ้าจะกักตุนตักตวงผลประโยชน์มาเพื่อตนและพวกพ้อง ในภาวะเหตุการณ์ที่คนทั้งเมืองขาดหน้ากาก ขาดแอลกอฮอ ถ้าอาตมาได้เป็นรัฐมนตรีคงละอายแก่ใจมาก ถ้าหน้ากากไม่เพียงพอจะไม่กักตุนนำไปขายให้ต่างชาติ

4) อายต่ออารยะชน ถ้าจะส่งต่อความไม่ชอบธรรม การรณรงค์เพื่อรักษาธรรมอันควรค่านี้ไว้

5) อายที่จะพลั้งเผลอ ไม่รอบคอบ หรือหลงลืมในการกำหนดนับต่อการเจริญสติทุกลมหายใจ

6) อายที่จะละทิ้งอุดมการณ์ ไม่หนักแน่นต่อประพฤติพรหมจรรย์

7) อายถ้าไม่รู้เรื่องการนำจิตวิญญาณตนของตนให้หลุดพ้นจากมฤตยู เพราะมัวหดหู่เรื่องภัยที่มองไม่เห็น ดูๆ Covid 19 ก็เหมือน มัจจุราชภัยดีๆ นี้เอง ประมาทก็ติดเชื้อทันที


ปัสสนาสู่ชีวิตงาม วันนี้เสนอคำว่า

จิตประภัสสร ....แท้จริง จิตเดิมนั้นประภัสสร ปราศจากความยึดมั่นใดๆ ทั้งสิ้น ถ้าเปรียบเป็นห้อง ก็เป็นห้องที่ว่าง

...ถ้าห้องว่าง มันก็โปร่ง - โล่ง จะยกย้าย - หยิบจับ - ขยับซ้ายขวา มันก็สะดวกสบาย

...ถ้าจิตว่าง มันก็โปร่ง - โล่ง - เบา - บริสุทธิ์สะอาดปราศจากมลทิน

...ความประภัสสรของจิต มันใสงาม บริสุทธิ์ผ่องใส ปราศจากเลสนัย เข้าถึงได้ง่าย - เข้าใจได้ชัด

....ดังนั้น ภาพลึกซึ้งของจิตประภัสสร จึงเปรียบเป็นดังภาชนะทองคำที่พร้อมรองรับธรรมะอันล้ำค่าเหมาะสม

จิตเดิมดุจ แก้วเปล่า พร้อมนำเข้า น้ำหลากสี
จิตเดิมดัง สำลี ที่พร้อมซับ รับฝุ่นผง
จิตเดิมเหมือน ห้องว่าง พร้อมวางตั้ง สิ่งมั่นคง
จิตเดิมเจตจำนง ประภัสสร ก่อนแต่งเติม....ฯ

จิตเดิมเปรียบ ผ้าขาว ที่ว่างเปล่า ไร้ขีดเขียน
จิตเดิมเฉก บทเรียน ให้ช่างเขียน เพียรแต่งเสริม
จิตเดิมดุจ ภาชนะ พร้อมที่จะ วางของเพิ่ม
จิตเดิมให้ เหมือนเดิม ประภัสสร นอนสบาย....ฯ

สรุปสุดท้าย จิตประภัสสร คือ ธรรมชาติดังเดิมที่ไม่มีมลทินใดเป็นสิ่งแปดเปื้อน ทั้งที่เป็นบุญ ทั้งที่เป็นบาป มันเป็นธรรมชาติของมันอย่างนั้น ไม่ยินดี ไม่ยินร้าย ไม่ยึดมั่น ไม่ปรุงแต่ง มีรัศมีอันแผ่ซ่านอยู่ หรือแผ่ซ่านออกไป ฟุ่งไป....

เข้าถึงได้ง่าย เช้าใจได้ชัด ไม่สลับซับซ้อน ไม่ซ่อนเลสนัย บริสุทธิ์ผ่องใส นั้นละใจประภัสสร !.....เสียอะไร....เสียได้ ....อย่าเสียสัตย์....! ลองพิจารณาตรองกันดูนะ รูปขอจำเริญพร

วัดพระธาตุทุ่งเศรษฐี วัดที่มีของดีน่าค้นหา วัดที่ให้ทุกคนค้นหาความจริงแท้ของจิตเดิม ขอเชิญพบความประภัสสรของจิตที่นี่ เดี๋ยวนี้ หลวงพ่อไสว ชมไกร 661-946-3335