ธรรมะสมสมัย

หลวงพ่อไสว ชมไกร



ค้นหาประโยชน์จาก Covid 19

เจริญพรท่านสาธุชนพุทธบริษัทและท่านผู้สนใจในธรรมทั้งหลาย พี่น้องเรากำลังเผชิญกับพยาธิภัย ภัยพิบัติที่มนุษย์กำลังเผชิญหน้าอยู่ทุกวันนี้มีไม่น้อย แต่ที่กำลังเป็นข่าวช็อกโลก ทำให้วิตกวิจารณ์กันเป็นอันมาก คือ Corona Virus และผู้คนทุกหน่วยงานต่างเตียมวิธีแก้ไขป้องกัน ปัจจุบันเราต่างตื่นกลัว เหตุเพราะได้เห็นข่าวจากทั่วโลกส่งต่อกันไปทางไลน์ ทางเฟ็ซบุค ที่ยิ่งวันยิ่งทวีความตื่นกลัวมากยิ่งขึ้น

หรือว่ามนุษยชาติกำลังเผชิญหน้ากับภัยจากมนุษย์ด้วยกันเอง ภัยที่โจมตีกันทาง Cyber Cyberphobia จนทำให้เกิดอุปทานหมู่และผู้คนทั้งหลายต่างตื่นกลัว หรือเป็นภัยที่จากผลงานทางวิทยาศาสตร์ของคนกลุ่มหนึ่งกลุ่มใดได้ก่อขึ้นเพื่อทดลอง หรือเพื่อแข่งความเป็นมหาอำนาจ หรือว่าเกิดจากความเปลี่ยนแปลงของโลก โลกที่มิอาจแบกรับมลพิษ-มลภาวะที่มนุษย์ทิ้งลงบนโลกใบนี้ ถ้าเกิดจากพฤติกรรมของมนุษย์ที่ทำลายสิ่งแวดล้อม นั้นเป็นผลกรรมที่เรากำลังส่งต่อไปยังลูกหลาน หากเป็นด้วยเหตุนี้ หรือเหตุผลใด ๆ ก็ตาม ณ นาทีนี้เราต้องมีสติกันใหมากแล้วหละ ต้องมีสติ สติจะทำจิตให้หนักแน่น อย่าพะวงหรือหมุกมุ่นอยู่แต่เรื่อง Covid 19 จนเกินไป ต้องคำนึงเสมอว่า "เราจะทำอะไร เราจะกินอย่างไร เราจะอยู่แบบไหน" คำสั่งมากมายหลายสำนักงานองค์กร

- ห้ามผู้คนไม่ให้ออกจากบ้าน (แล้วชาวบ้านอยู่กันอย่างไร บางคนหนี้สินท่วมหัว หรือไม่ก็หาเช้า-กินเช้า -หาค่ำ-กินค่ำ)

- ห้ามพระไม่ให้ออกจากวัด (ต้องมอบเพลงนี้แนบถวายพระท่านด้วย "ขาดฉันแล้วเธอจะรู้สึก" - "ธานินทร์ อินทรเทพ")

- แต่กรุณาอย่า "- ห้ามกบออกจากกะลา" เลย จงใส่ใจในรายละเอียดให้จัดเจนว่า เราจะรับมือกับภัยนี้อย่างไร ?

การประพฤติดี สิ่งดีๆ จะไหลมาหา

อะไรจะเกิดมันก็เกิด ความแปรปรวนต่าง ๆ เราก็ไม่ทราบได้ว่าอะไรจะเกิดขึ้นกับเราอย่างไร เกิดขึ้นตอนไหน หน้าที่อันพึงกระทำคือ ก่อนอื่นเราต้องรู้จักปกป้องตนเองและบุคคลอันเป็นที่รัก อันร่วมไปถึงมวลมนุษยชาติทุกคนให้ปลอดภัย ในจักกวัตติสูตรกล่าวถึงการเจริญสติปัฏฐาน 4 ให้บริบูรณ์ได้ จักเป็นผู้มีอายุมั่นคงยืนยาว จักกวัตติสูตร ชื่อสูตรที่ 3 แห่งทีฆนิกาย ปาฏิกวรรค พระสุตตันตปิฎก พระพุทธเจ้าตรัสสอนภิกษุทั้งหลาย ดังนี้

พึ่งตน คือ พึ่งธรรม ด้วยการเจริญสติปัฏฐาน 4 ซึ่งจะทำให้ได้ชื่อว่าเป็นผู้ดำเนินอยู่ในแดนของตนเอง มีแต่ความดีงามเจริญขึ้นไม่เปิดช่องให้แก่มาร วิปัสสนาสู่ชีวิตงาม วันนี้เสนอคำว่า

“..... ชีวิต เป็นสิ่งมายา.....”

“..... ทรัพย์ มีค่าเพียงให้ปราบปลื้มใจ.....”

“..... ความจริง เป็นสิ่งไร้ความหมายถ้าทำให้ใจลุ่มหลง.....”

“..... ชีวิตสุดท้ายของทุกคนที่ต้องจบลง คือการหมุนวนในสังสารวัฏ.....”

“..... วิปัสสนา คือคุณค่าและความอบอุ่นของใจ.....”

“..... เมื่อใดที่ใจไม่สิ้นความหวัง เมื่อนั้นจิตยังทรงพลังอย่างห้าวหาญ.....”

“..... จงเพียรระวังบาปอย่าให้เกิดขึ้นในกมลสันดาน.....”

“.....จงเพียร “ปหาน” ละบาปในกมล.....”

“..... จงเพียรสร้างกุศลให้ถึงพร้อมเป็นที่พึ่งพา.....”

“..... และจงเพียรรักษาความดีเหล่านั้นไว้ ประดุจเกลือรักษาความเค็ม.....”

.....ถ้า...คิดว่า...ท้อ........เราก็ท้อ

.....ถ้า...คิดว่า...ทุกข์......เราก็ทุกข์

.....ถ้า...คิดว่า...จน........เราก็จน

.....ถ้า...คิดว่า...สุข........เราก็สุข

....ถ้า...คิดว่า....สวย.....เราก็สวย

....ถ้า...คิดว่า.....รวย.....เราก็รวย

ดังนั้น สุข ทุกข์ ชั่ว ดี มี จน ขยัน ขี้เกียจ อยู่ที่ใจยึด สุดท้ายก็ติดคุก "ความคิด" ที่เป็นกับดักตนเอง ดังนั้นถึงอย่าจมปลักอยู่แต่ความกังวนและกลัวพยาธิภัย Corona Virus ร้ายอยู่เลย ชีวิตต้องกิน ต้องใช้ (อยู่เฮ็ดหยัง อยู่บ่เฮ็ดบ่สร้าง ดอกเบี้ยมิใช่ดอกหญ้าดอกไม้ที่บานเฉพาะฤดูกาล ดอกเบี้ยบานทุกวัน) โอวาทธรรมครั้งสุดท้ายที่พระพุทธเจ้าทรงให้ไว้ว่า

หันทะทานิ ภิกขะเว อามันตะยามิ โว

ดูก่อนภิกษุทั้งหลาย ! , บัดนี้, เราขอเตือนเธอทั้งหลายว่า

วะยะธัมมา สังขารา

สังขารทั้งหลาย, มีความเสื่อมไปเป็นธรรมดา

อัปปะมาเทนะ สัมปาเทถะ

เธอทั้งหลาย, จงยังกิจทั้งปวงให้ถึงพร้อม ด้วยความไม่ประมาทเถิด

อะยัง ตะถาคะตัสสะ ปัจฉิมา วาจา

นี้เป็นวาจาครั้งสุดท้ายของตถาคต ฯ

สรุปประโยชน์ที่ได้รับจากเรื่องนี้

1) ทำให้รู้จักรักและปกป้องตนเอง และเมตตาต่อเพื่อนมนุษย์

2) ทำให้รู้จักเสียสละประโยชน์ส่วนตนเพื่อช่วยเหลือผู้อื่น

3) ทำให้รู้จักคำว่าปกป้อง รักและห่วงใยครอบครัว

4) ทำให้เกิดจริงใจ มีวุฒิภาวะ มีความรับผิดชอบต่อสังคม

5) ทำให้เจริญสติไม่ประมาททุกขณะจิต อันเป็นการปฏิบัติยกตนสู่มรรคผลนิพพานได้ (พึ่งตน คือ พึ่งธรรม ด้วยการเจริญสติปัฏฐาน 4 คือไม่เปิดช่องให้แก่มาร) รูปขอจำเริญพร