ธรรมะสมสมัย

หลวงพ่อไสว ชมไกร



อมตะวาจา อมฤตธรรม

ปัจฉิมวาจา ข้อคิดและหลักธรรมจากวันวิสาขบูชา แม้เป็นคืนวันสุดท้าย วาจาสุดท้าย พระองค์ยังทรงเมตตา ตรัสเป็นอมตะวาจาอย่างเป็นนิรันดร คืนวันนั้นเป็นวันเพ็ญวิสาขะปุรณมี พระจันทร์เต็มดวงสุกปรั่ง เวลาก็ล่วงมัชฌิมยามไปแล้ว พระบรมศาสดาบรรทมเหยียดพระกาย ในท่าสีหไสยาสน์ทรงระโหยโรยแรงยิ่งนัก แต่ก็ฝืนพระทัย ดำรงสติมั่น สั่งสอนให้โอวาทพระภิกษุสงฆ์สาวกเป็นครั้งสุดท้ายก่อนเสด็จปรินิพพานดังนี้

"อานนท์ เมื่อเราล่วงลับไปแล้ว พวกเธอทั้งหลายอาจคิดไปว่า บัดนี้ไม่มีพระศาสดาแล้ว อาจรู้สึกว้าเหว่ไร้ที่พึ่ง พวกเธอจงอย่าคิดอย่างนั้น ธรรมก็ดี วินัยก็ดี ที่เราแสดงแล้ว บัญญัติแล้วแก่พวกเธอ ธรรมวินัยเหล่านั้น จักเป็นองค์ศาสดาของพวกเธอทั้งหลายแทนเราต่อไป"

"อีกเรื่องหนึ่งคือ สิกขาบทบัญญัติที่เราได้บัญญัติไว้ เพื่อภิกษุทั้งหลาย จะได้อยู่ด้วยกันอย่างผาสุก ไม่กินแหนงแคลงใจกัน มีธรรมเป็นเครื่องอยู่เสมอกัน สิกขาบทบัญญัติเหล่านั้น มีอยู่เป็นจำนวนมาก เมื่อเราล่วงลับ ไปแล้ว สงฆ์พร้อมใจกันจะถอนสิกขาบทเล็กน้อย ซึ่งขัดกับกาลสมัยเสียบ้างก็ได้ จะเป็นความลำบากในการปฏิบัติ สิกขาบทที่ไม่เหมาะสมัยเช่นนั้น เราอนุญาตให้ถอนสิกขาบทเล็กน้อยได้"

"ภิกษุรูปใดมีความเคลือบแคลงเห็นแย้งในพระพุทธ พระธรรม พระสงฆ์ ในมรรคในข้อปฏิบัติใด ๆ ก็ดี จงถามเสีย อย่าเป็นผู้เดือดร้อนในภายหลังว่า เราอยู่เฉพาะหน้าพระศาสดาแล้ว ไม่กล้าถามในที่เฉพาะหน้า"

ไม่ปรากฏว่ามีภิกษุรูปใดทูลถาม ตลอดเวลาที่ทรงเตือนซ้ำจนครบสามครั้ง ทุกองค์นั่งนิ่ง ในบริเวณป่าต้นสาละแห่งนั้น สงบเงียบไม่มีเสียงใด ๆ เลย แม้จะมีพุทธบริษัทประชุมกันอยู่เป็นจำนวนมากก็ตาม พระกำลังของพระผู้มีพระภาคเจ้าเหลือน้อยเต็มทีแล้ว ในที่สุดทรงตรัสปัจฉิมวาจาครั้งสุดท้ายว่า

"วะยะธัมมา สังขารา อัปปะมาเทนะ สัมปาเทถะ อะยัง ตะถาคะตัสสะ ปัจฉิมา วาจา"

"ภิกษุทั้งหลาย บัดนี้เราจักเตือนเธอว่า สังขารทั้งหลายมีความเสื่อมไปเป็นธรรมดา พวกเธอทั้งหลาย จงยังประโยชน์ตน ประโยชน์ท่าน ให้ถึงพร้อมด้วยความไม่ประมาทเถิด นี่เป็นวาจาครั้งสุดท้ายของตถาคต"

ในแต่ละปีที่วันวิสาขบูชาได้เวียนมาบรรจบ นอกเหนือจากจะพากันทำบุญหรือทำความดีในรูปแบบต่างๆ เพื่อถวายเป็นพุทธบูชาแล้ว อีกสิ่งหนึ่งที่พุทธศาสนิกชนทุกคนควรจะตระหนักให้มากที่สุดนั่นก็คือ การนำเอาข้อคิดและหลักธรรมที่ได้จากวันวิสาขบูชา ไปประพฤติปฏิบัติในชีวิตประจำ วัน เพื่อเสริมสร้างความสุข ให้เกิดขึ้นกับชีวิตให้ได้มากที่สุด สิ่ง 2 ประการ ที่มีความเกี่ยวข้องกับวันวิสาขบูชาโดยตรง ที่ชาวพุทธทุกคนควรจะศึกษาเรียนรู้ ทำความเข้าใจ และนำไปเป็นแนวทางในการดำเนินชีวิต นั่นคือ หลักคำสอนเรื่อง "อริยสัจ 4 กับ ความไม่ประมาท"

กล่าวกันว่าธรรมอันประเสริฐที่พระพุทธเจ้าทรงค้นพบหรือตรัสรู้ใต้ต้นมหาโพธิ์ ในวันขึ้น 15 ค่ำเดือน 6 เมื่อ 2,600 ปีมาแล้วนั้น ก็คือ หลักคำสอนที่เรียกว่า "อริยสัจ 4 ประการ" ซึ่งเป็นหลักธรรมที่เป็นความจริง ที่เราเข้าใจนั้น ดูเหมือนว่าจะเป็นเรื่องง่าย ๆ แต่กลับเป็นธรรมอันประเสริฐยิ่ง คือ :


1. ทุกข์ คือ ปัญหาความไม่สบายกายใจ

พระพุทธองค์ทรงตรัสความจริงแห่งชีวิตประการแรกให้ทุกคนได้ทราบว่า ชีวิตนี้เต็มไปด้วยปัญหา ไม่มีใครที่จะมีความสมบูรณ์เพียงอย่างเดียว ทั้งปัญหาขั้นพื้นฐานและปัญหาเกี่ยวกับการดำเนินชีวิตประจำวัน ทุกข์หรือปัญหาพื้นฐาน คือ ทุกข์ที่เกิดจากการเกิด การแก่ การเจ็บไข้ได้ป่วย และการล้มหายตายจาก ส่วนทุกข์ที่เกี่ยวกับการดำเนินชีวิตประจำวัน คือ ทุกที่เกิดจากการพลัดพรากจากสิ่งที่รัก ทุกข์ที่เกิดจากการประสบกับสิ่งที่ไม่เป็นที่รัก ทุกข์ที่เกิดจากการไม่ได้ตามใจปรารถนา รวมทั้งทุกข์ที่เกี่ยวกับการดำเนินชีวิตต่าง ๆ เป็นต้น

2. สมุทัย คือ เหตุให้เกิดความทุกข์

ความจริงแห่งชีวิตประการที่สองที่พระพุทธองค์ตรัสสอนก็คือ ปัญหาใด ๆ เกิดขึ้น จะต้องมีสาเหตุทำให้เกิดปัญหาขึ้นอย่างแน่นอน และสาเหตุหลักที่ทำให้เกิดความทุกข์ขึ้นในชีวิต ก็คือ ตัณหาหรือความอยากต่าง ๆ ซึ่งประกอบไปด้วยความยึดมั่นถือมั่นไม่มีที่สิ้นสุด คือ ความอยากจะมีอยากจะได้ (กามตัณหา) อยากจะเป็นนี่เป็นนั่น (ภวตัณหา) และความรู้สึกเบื่อหน่ายจนไม่อยากจะเป็นอะไรต่อไปอีกแล้ว (วิภวตัณหา) นอกจากนี้แล้วก็ยังมีอีกหลายอยากที่เป็นเหตุให้เกิดปัญหา ต่าง ๆ เป็นต้น

3. นิโรธ คือ การดับทุกข์ให้สิ้นไปอย่างเด็ดขาด

ความจริงแห่งชีวิตประการที่สามนั้น พระพุทธเจ้าทรงแสดงเส้นทางและวิธีกำจัดทุกข์ให้ทราบ ว่า ทุกข์คือปัญหาของชีวิตที่กล่าวมาทั้งหมดนั้น เราสามารถที่จะแก้ไขได้ทั้งสิ้น เมื่อทุกข์ที่ใด ก็จงดับ หรือแก้ไขตรงนั้น ไม่ว่าความทุกข์หรือปัญหาใด ๆ ในโลกนี้ ที่เราจะดับไม่ได้

4. มรรค คือ หนทางวิธีนำตนให้ผ่านทุกข์ผ่านอุปสรรค์ทั้งหมดไปให้ได้

ความจริงแห่งชีวิตประการที่สี่ พระพุทธเจ้าทรงแสดงไว้ก็เพื่อให้ทราบว่า ความทุกข์หรือ ปัญหาทุกอย่างที่เกิดขึ้นในชีวิตนั้น แต่ละคนสามารถที่จะแก้ไขได้ ด้วยการปฏิบัติตามหลักคำสอนเรื่อง "มรรค 8" ได้แก่ การเข้าใจถูกต้อง, คิดถูกต้อง, พูดถูกต้อง, ทำแต่สิ่งที่ถูกต้อง, เลี้ยงชีพด้วยความถูกต้อง, หมั่นเพียรในสิ่งที่ถูกต้อง, ตั้งสติหรือระลึกถึงแต่สิ่งที่ถูกต้อง, และตั้งใจแน่วแน่ในทางที่ถูกต้อง


หลักธรรมที่สำคัญอีกประการหนึ่ง ที่พระพุทธองค์ทรงตรัสสอน ได้แก่ "ความไม่ประมาท หรือ "สติ" คือ การระลึกรู้ทันสิ่งที่คิด พูดและทำ โดยในภาคปฏิบัติเพื่อนำมาใช้ในชีวิตประจำวัน หมายถึง การรู้จักใช้ชีวิตด้วยความฉลาด การไม่ประมาทในการใช้ชีวิต และการระลึกรู้ทันการเคลื่อนไหวอิริยาบถ 4 คือ การเดิน ยืน นั่ง และนอน โดยสติจะมีความเกี่ยวข้องในทุกขั้นตอนของชีวิต การดำเนินชีวิตด้วยการใช้สติและปัญญานำทาง จึงเป็นหลักประกันที่จะสร้างความปลอดภัยให้เกิดขึ้นกับชีวิตและทุกๆ สิ่ง

พระพุทธเจ้าได้ชื่อว่าเป็นมหาบุรุษผู้ยิ่งใหญ่ที่โลกให้การยกย่อง เพราะตลอดชีวิตของพระองค์นั้น พระองค์ทรงทำงานอย่างไม่เห็นแก่ความเหน็ดเหนื่อย เพื่อประโยชน์และความสุขให้เกิดขึ้นกับมวลมนุษยชาติ พระองค์ทรงทำหน้าที่ของความเป็นพระพุทธเจ้าได้อย่างสมบูรณ์แบบ แม้แต่ในนาทีสุดท้ายก่อนจะเสด็จดับขันธปรินิพพาน พระองค์ก็ยังทรงตรัสสอนเหล่าพุทธบริษัทเป็นปัจฉิมโอวาทส่งท้ายว่า "ดูก่อนภิกษุทั้งหลาย สังขารทั้งหลายมีความเสื่อมไปเป็นธรรมดา พวกเธอทั้งหลายจงยังความไม่ประมาทให้ถึงพร้อมเเถิด" ซึ่งเป็นพระวาจาที่เปี่ยมล้นด้วยความรัก ความเมตตา และความห่วงใยที่พระองค์ทรงมีต่อมนุษยชาติทั้งมวล ซึ่งฟังแล้วช่างรู้สึกสะท้านสะเทือนจิตใจของทุกคนยิ่งนัก

ดังนั้น ในโอกาสที่วันวิสาขบูชาเวียนมาถึงอีกครั้งในปีนี้ เราทุกคนจึงควรที่จะพากันน้อมรำลึก ถึงพระมหากรุณาธิคุณของพระพุทธเจ้าที่พระองค์ เพื่อน้อมถวายเป็นพุทธบูชา

ที่สำคัญเหนือสิ่งอื่นใด ก็คือ การนำเอาข้อคิดหรือหลักธรรมที่เกี่ยวข้องกับวันวิสาขบูชา ไปใช้เป็นแนวทางในการประพฤติปฏิบัติในชีวิตประจำวัน เพื่อยังประโยชน์สุข และความเจริญรุ่งเรืองก้าวหน้าให้เกิดขึ้นทั้งกับชีวิตตนเอง สังคม ประเทศชาติ และพระพุทธศาสนา ตลอดกาลนาน


วิสาขบูชา ซึ่งปีนี้ตรงกับวันพุธที่ 10 เดือนพฤษภาคม คณะสงฆ์วัดทุ่งเศรษฐี มีศาสนกิจล้นมือเลย ศาสนนศิษย์พุทธศาสนิกชน กำหนดจัดกิจกรรมตักบาตรที่ร้านกระเพา Kapow Thai Cuisine 4758 Lincoln Ave., Cypress, CA 90630 Phone : (714) 827-8170 ดังนั้นท่านที่ประสงค์จะไปถวายเพลขอเชิญไปร่วมบุญกันได้ตามสถานที่ที่แสดงไว้ข้างต้น ส่วนภาคบ่ายคณะสงฆ์ มีศาสนกิจลงอุโบสถประชุมแสดงพระภิกษุปาฏิโมกข์ ที่วัดพุทธปัญญา เมืองโพโมน่า โทร. (909) 629 - 1771 ภาคค่ำคณะสงฆ์ไปร่วมงานวิสาขะโลกที่วัดพระธรรมกาย ที่เมือง Azusa วันจันทร์ที่ 8 พ.ค. ภาคเช้า มีศรัทธาพี่น้องชาวอำเภอหล่มสักพร้อมใจกันมาถวายเพลที่วัดทุ่งเศรษฐี "ชื่อว่าบัณฑิตอยู่ที่ไหน ๆ ก็ไม่ทิ้งธรรม คนดีอยู่ที่ไหน ๆ ก็คิดดี ทำดีแน่นอน" ขอความสุขความเจริญ และความปรารถนา จงนำพาความสำเร็จสมหวังดังใจแด่ทุกท่านทุกประการ เทอญ ขอจำเริญพร