ธรรมะสมสมัย

หลวงพ่อไสว ชมไกร



ความยั่งยืนของศาสนา

เมื่อใดพระพุทธศาสนาอยู่ในตัวคน เมื่อนั้นคน ๆ นั้นก็จะสืบต่อพระศาสนาด้วย ชีวิตของเขาเอง คนทุกรุ่นก็ทำหน้าที่กันต่อ ๆ ไป ถ้าเป็นอย่างนี้ นั่นแหละพระพุทธศาสนา ก็ยังอยู่แน่นอน

ขอความสุขและสันติ จงปรากฏแต่ท่านทุกคน 2 -3 สัปดาห์ผ่านมานี้ ท่านผู้ติดตามคอลัมน์ธรรมะสมสมัย คงได้เห็นภาพประกอบบรรยายที่มีพระสงฆ์จำนวนมาก ที่เข้ารับการอบรมซ้อมอบรมความรู้เพื่อสอบเป็นพระอุปัชฌาย์ ซึ่งปีนี้ทั่วทุกภาคในประเทศไทย และต่างประเทศ รวมแล้ว เกิบถึง 500 รูป ในจำนวนนี้มีทั้งสอบตก และมีทั้งถอนตัวบ้าง

ปีนี้หลวงพ่อได้รับโอกาสเข้ารับการอบรมซ้อมอบรมความรู้ฯ ไม่ได้เตรียมตัวเท่าที่ควร รู้สึกหนักใจ แต่ก็ได้ทำเต็มกำลัง โดยผ่านมาได้ถึง 2 สนามสอบแล้ว คิดหนักใจแต่ก็อยากไปต่อ มีเวลา 9 วันดูหนังสือเตรียมความรู้เพื่อไปสอบสนามใหญ่ เรียกสนามระดับ สมัชชามหาคณิสสร ให้กำลังใจตนเองว่าสู้ต่อไป ทำให้ดีที่สุด เต็มกำลังที่สุด ส่วนได้ไม่ได้เป็นเรื่องของบุญวาสนาแล้วละ เพราะว่าท่องหนังสือตอนอายุมากนี้ชั่งเป็นอะไรที่ทรงจำยากมาก เรียกว่าได้หน้า ลืมหลัง เอาละ ปล่อยไปตามวาสนา

ทีนี้มาดูข้อความที่จะสื่อเข้าไปทำความเข้าใจเรื่องการรักษาพระศาสนา โดนเฉพาะอย่างยิ่งเวลาน้อยขอคัดลอกบทความที่พระเดชพระคุณเจ้าประคุณสมเด็จพระพุทธโฆษาจารย์ (ป.อ. ปยุตโต) ได้เขียนไว้ดังนี้

ศาสนาจะยั่งยืนได้อย่างไร

ศาสนานั้น มิใช่อยู่เพียงที่วัดหรือที่พระสงฆ์เท่านั้น แต่อยู่ที่กาย วาจา ใจ ของพุทธศาสนิกชนทุกคน กล่าวคือ

ถ้าเราสามารถควบคุมกาย วาจา ใจของเรา ให้ทำ ให้พูด ให้คิดในทาง ที่ถูกต้อง ไม่ประกอบด้วยทุจริต เราก็ได้ชื่อว่าธำรงส่งเสริมพระพุทธศาสนาอย่าง ถูกต้องสมบูรณ์

แต่ถ้าพุทธศาสนิกชนไม่สนใจประพฤติปฏิบัติให้ถูกต้อง แม้ทางราชการ หรือทางคณะสงฆ์จะปฏิบัติหน้าที่เข้มแข็งสักเพียงใดก็ตาม ก็ไม่สามารถที่จะทำให้ สังคมดีมีระเบียบขึ้นได้

ฉะนั้น พระพุทธเจ้าจึงตรัสว่า

พระพุทธศาสนาจะเสื่อมหรือเจริญ มิใช่อยู่ที่บุคคลอื่น หากแต่อยู่ที่พุทธ บริษัทชายหญิงทุกฝ่ายนี่เอง

วิธีปฏิบัติตนให้มีอายุยืนแบบมีคุณค่า

อย่างไรก็ดี แม้ว่าความมีอายุยืนจะเป็นสภาพที่น่าปรารถนาอย่างยิ่ง แต่ในทางธรรมท่านมิได้ถือว่า ความมีอายุยืนนั้น เป็นตัวตัดสินคุณค่าที่แท้จริงของ ชีวิต เครื่องตัดสินคุณค่าที่แท้จริงของชีวิตอยู่ที่ว่า

ระหว่างที่อายุยังทรงอยู่ ไม่ว่าจะสั้นหรือยาวก็ตาม บุคคลได้ใช้ชีวิตนั้นอย่างไร คือได้อาศัยชีวิตนั้นก่อกรรมชั่วร้ายเป็นโทษ หรือทำสิ่งที่ดีงามเป็นประโยชน์ พอกพูน อกุศลธรรมหรือเจริญกุศลธรรม ดังพุทธพจน์ในธรรมบทคาถาว่า

ในบรรดากุศลธรรมที่เกื้อกูลแก่อายุนั้น ข้อที่มีผลมากโดยตรง ได้แก่ เมตตา และกรุณา คือความรัก ความปรารถนาดี มีไมตรีคือช่วยเหลือเกื้อกูล ปราศจากพยาบาทความคิดร้ายผูกใจเจ็บแค้น ดำรงอยู่ในอหิงสา คือปราศจาก วิหิงสา ไม่ข่มเหงเบียดเบียนผู้อื่น ไม่คิดร้ายมุ่งทำลาย ดังพุทธพจน์ที่ว่า

การที่บุคคลละปาณาติบาต เว้นขาดจากการทำลายชีวิต วางทัณฑะ วางศัตรา มีความละอายต่อบาป ประกอบด้วยเมตตา ใฝ่ใจช่วยเหลือเกื้อกูลแก่ ปวงสัตว์ นี่คือข้อปฏิบัติที่เป็นไปเพื่อความมีอายุยืน

ความรัก เมตตา ความมีไมตรี ทั้งแก่ตนเองและแก่ผู้อื่น ย่อมส่งเสริมความมีอายุยืน

สำหรับตนเองเมื่อมีเมตตา จิตใจก็ผ่องใส สดชื่น เบิกบาน ระบบต่าง ๆ ในร่างกายก็ไม่ตึงเครียด ทำงานคล่องแคล่วเบาสบาย ช่วยให้มีสุขภาพดี

ผู้ใดเกียจคร้าน หย่อนความเพียร ถึงจะมีชีวิตอยู่ได้ร้อยปี ก็ไม่มีดีอะไร ชีวิตของผู้มีความเพียรมั่นคง แม้เป็นอยู่เพียงวันเดียว ยังประเสริฐกว่า

ผู้ใดทรามปัญญา ไม่มีสมาธิ ถึงจะมีชีวิตอยู่ได้ร้อยปี ก็ไม่มีดีอะไร ชีวิตของคนมีปัญญา มีสมาธิแม้เพียงวันเดียว ยังประเสริฐกว่า

ผู้ใดไม่เห็นอุดมธรรม ถึงจะมีชีวิตอยู่ได้ร้อยปี ก็ไม่มีอะไรดี

ชีวิตของผู้เห็นอุดมธรรมแม้เพียงวันเดียว ยังประเสริฐกว่า

แน่น ชีวิตที่ไร้ธรรมและเป็นโทษ ยิ่งอยู่นานก็ยิ่งมีโอกาสพอกพูนอกุศลให้หนา และแผ่ขยายทุกข์ภัยให้มากกว้างขวางยิ่งขึ้น

ส่วนชีวิตที่ชอบธรรมและบำเพ็ญประโยชน์ แม้จะอยู่เพียงเวลาสั้นก็ยังมีคุณค่า มาก ดังที่เรียกว่า เป็นชีวิตอันประเสริฐ

หากยิ่งอยู่ยาวนานมากขึ้น ก็ยิ่งเป็นกำลังส่งเสริมธรรมให้เข้มแข็ง และสร้าง สรรประโยชน์สุขให้พรั่งพร้อมยิ่งขึ้นแก่พหูชน

เท่าที่กล่าวมาทั้งหมด ในเรื่องข้อปฏิบัติเกี่ยวกับอายุและการทำให้อายุยืนนี้ มีข้อสรุปอย่างหนึ่ง กล่าวคือ

ไม่ว่าจะหลีกเลี่ยงเหตุอันจะตัดรอนหรือทอนชีวิตให้สั้นก็ดี จะปฏิบัติตามวิธีการ ฝ่ายรูปธรรม ในการทำให้มีอายุยืนก็ดี จะดำเนินตามข้อปฏิบัติทางจิตใจ เพื่อให้ประสบ อายุวัฒนะก็ดี หรือจะทำให้อายุมีคุณค่าตลอดเวลาที่ดำรงอยู่ ด้วยการทรงธรรม และ สร้างสรรค์คุณประโยชน์ก็ดี

ทุกอย่างล้วนต้องอาศัยกุศลธรรมข้อหนึ่ง คืออัปปมาทธรรม ความไม่ประมาท เป็นแกนหลัก หรือเป็นประธานจึงจะสำเร็จได้

พระธรรมปิฎก ป.อ. ปยุตโต

ขอทุกคนทุกท่านมีความเจริญในธรรมแห่งพระสัมมาสัมพุทธ และเจริญในหน้าที่การงาน ธุระกิจการค้า เจริญสินเจริญทรัพย์ ประสบความสุขความสำเร็จ โดยทั่วหน้ากัน เทอญ รูปขอจำเริญพร