ขอจำเริญพร ท่านสาธุชนพุทธบริษัทผู้ใฝ่ธรรมทั้งหลาย สังคมปัจเจกชน ที่กำลังเดินออกจากหลักศาสนา และกำลังถอยหลังเรื่องจริยธรรม เรื่องเหล่านี้นับว่าองค์การทางสังคมอยู่เฉยมิได้ โดยทุกงานวิจัยเห็นว่าเป็นปัญหาวิกฤติที่สุดในสังคมไทยในปัจจุบัน และมากำลังรุกลามเป็นปัญหาสู่คนรุ่นใหม่ในความเปลี่ยนแปลงแบบช็อคโลก การอธิบายโดยเน้นถึงสาเหตุของปัญหา สภาพของปัญหา ผลกระทบของปัญหาต่อสังคม ตลอดจนเสนอแนวทางในการป้องกัน และแก้ไขทั้งในระดับบุคคล ระดับชุมชน และระดับประเทศทั่วโลก
ตัวอย่างสถาบันครอบครัวของสังคมไทยปัจจุบันถึงการณ์ "วิกฤติ" สถาบันครอบครัวในสังคมไทยปัจจุบันกำลังอ่อนแออย่างรุนแรง และกำลังก้าวเข้าสู่วิกฤติ จากปัญหาการหย่าร้างของคนไทยสูงขึ้นทุกปี และมีแน้วโน้มเพิ่มสูงมากขึ้น แถมปัจจุบันมีเรื่องการไม่ต้องการมีทายาท จนทำให้ประชากรการเกิดน้อยลง จนทางกระทรวงสาธารณสุขต้องกลับมาบอกให้ผู้ครองเรือนให้มีทายาท
ปัจจุบันพ่อแม่สูญเสียความมั่นใจในการเลี้ยงลูก และในความมั่นคงของครอบครัว เกรงว่าตนเองจะเลี้ยงลูกให้มีความสุขไม่ได้บ้าง สูญเสียความภูมิใจในตนเองบ้าง ท้อแท้หมดหวังว่าชีวิตจะไม่ประสบความสำเร็จตามที่ตั้งใจบ้าง และที่สำคัญที่สุดการสูญเสียเหล่านี้ส่งผลให้บุคคลดังกล่าวมีระดับความเครียดที่เกิดจากปัญหาครอบครัวมากขึ้น ส่วนปัญหาที่พ่อแม่ต้องเผชิญมากที่สุด คือ
1. ปัญหาด้านเศรษฐกิจ การหารายได้ให้พอแก่ค่าใช้จ่าย ทำให้มีเวลาดูลูกน้อยลง นอกจากนี้ยังพบว่า พ่อแม่มากกว่า ร้อยละ 80 ไม่ได้รับสวัสดิการ หรือสิทธิพิเศษใด ๆ จากที่ทำงาน และภาครัฐบาล ทำให้แม่มักจะมีปัญหาซึมเศร้า หรืออาจจะเป็นคนจู้จี่ขี้บ่นในอัตราที่สูงมากขึ้น ขณะเดียวกับที่พ่อมักจะมีปัญหาด้านพฤติกรรมติดเหล้า-บุหรี่ ขาดความใกล้ชิดกับลูก อาจจะส่งผลถึง "สุขภาพจิตของเด็ก" และเด็กอาจเติบโตมาอย่างขาดความอบอุ่น กลายเป็นคนที่มีพฤติกรรมก้าวร้าว ขาดคุณธรรมจริยธรรม เพราะเด็กที่กระทำผิดมากกว่าครึ่งมาจากครอบครัวที่มีสภาพปัญหานี้ค่อนข้างเยอะมาก จึงเป็นมาของความอ่อนแอทางจริยธรรม
2. ปัญหาการเข้าใจรู้ทันความคิดใหม่ๆ ของลูก ในเชิงคุณภาพเมื่อเปรียบเทียบระหว่างครอบครัวพ่อเลี้ยงลูก กับครอบครัวแม่เลี้ยงลูก จะมีความแตกต่างอย่างเห็นได้ชัด คือ หากเป็นครอบครัวที่มี "แม่เลี้ยงลูก" พบว่า ผู้หญิงมักจะมีความกังวลใจเกี่ยวกับการหารายได้ และมีปัญหาทางอารมณ์ได้ง่ายกว่า เพราะเป็นเพศที่อ่อนไหว ที่สำคัญ คือ พบว่าภาวะของแม่ในครอบครัวเลี้ยงลูก จากภาวะครอบครัวแตกแยก หย่าร้าง หรือจากการเสียชีวิตของสามีจะมีปัญหาซึมเศร้าในอัตราที่สูงขึ้น และเป็นปัญหาที่น่าห่วงของครอบครัวแม่เลี้ยงลูกโดยลำพังนี่มากขึ้น แต่ก็ยังมีข้อได้เปรียบคือความเป็นผู้หญิงจะมีสัญชาตญาณของความเป็นแม่ที่ถูกปลูกฝังในเรื่องของการอบรมเลี้ยงดูลูก จึงทำให้มีความใกล้ชิดกับลูกได้มากกว่าผู้ชายอย่างเห็นได้ชัด
สำหรับครอบครัวที่มี "พ่อเลี้ยงลูก" ปัญหาที่พบ คือ ลูกขาดความใกล้ชิดกับพ่อเนื่องจากพ่ออาจใช้เวลาส่วนใหญ่อยู่กับงานเพื่อทำมาหาเลี้ยงครอบครัว จึงทำให้ขาดเวลาในการอยู่กับลูก และในแง่ของปัญหาทางอารมณ์บางคนก็อาจจะแสดงออกมาในรูปแบบของความหงุดหงิด โมโห พฤติกรรมเช่นนี้อาจทำให้ลูกห่างเหินได้ง่าย พ่อบางคนมีพฤติกรรมติดเหล้า ติดบุหรี่ จึงเป็นปัญหาที่น่ากังวลเพราะเด็กอาจจะซึมซับเลียนแบบในจุดนี้ได้
แต่สิ่งที่น่าเป็นห่วงอีกเรื่องหนึ่งสำหรับครอบครัวที่มีพ่อเลี้ยงลูก คือ การเลี้ยงดูลูกผู้หญิง พ่อบางคนนิ่งเฉย เพราะไม่รู้จะต้องเลี้ยงดูลูกผู้หญิงอย่างไรดี ซึ่งอาจจะทำให้เด็กรู้สึกว่าทำไมพ่อไม่เข้าใจ หรือไม่สนใจ กรณีนี้พ่อควรมีความเชื่อมั่นในตัวเอง อย่าให้สิ่งอื่นใดมาทำลายความเชื่อมั่นในความเป็นพ่อได้ และที่สำคัญทักษะการเข้าใจกันและกันจะช่วยสร้างสัมพันธภาพภายในครอบครัวได้ ควรความหนักแน่นเป็นต้นแบบให้กับลูก ซึ่งจะทำให้เด็กมีวุฒิภาวะและโตเร็วกว่าเด็กคนอื่นๆ
แนวทางในการป้องกันและแก้ไขในระดับบุคคล
สายใยสัมพันธ์รัก จากพ่อ ถึง ลูก : ชี้ให้เห็นว่า ถึงแม้พ่อควรจะบอกรักลูกมากขึ้น โอบกอดลูกเพื่อแสดงความรัก การสื่อสารด้วยคำพูด และภาษากายเป็นสิ่งสำคัญที่จะช่วยกระชับความสัมพันธ์พ่อลูกให้แน่นแฟ้นมากยิ่งขึ้น เป็นวัคซีนใจที่จะช่วยสร้างภูมิคุ้มกันที่ดีที่สุดให้กับลูก จากปัญหาต่างๆ ท่ามกลางการเปลี่ยนแปลงของเศรษฐกิจ และสังคมในปัจจุบัน พ่อมีเวลาให้ลูกและครอบครัวน้อยลง พ่อควรมีเวลาให้กับครอบครัวมากขึ้นสามารถเป็นภูมิคุ้มกัน และปกป้องอันตรายต่าง ๆ ได้
แนวทางในการป้องกันและแก้ไขในระดับชุมชน
การปลูกฝังศีลธรรม จริยธรรม ให้กับลูก พ่อจำเป็นต้องมีช่วงเวลาที่สื่อสัมพันธ์กับลูก เป็นแบบอย่างที่ดีให้กับลูก ซึ่งความหนักแน่นของพ่อจะทำให้ลูกเชื่อมั่นและพร้อมที่จะปฏิบัติตาม โดยการปลูกฝังคุณธรรม จริยธรรม จำเป็นต้องสอนตามวัยของลูก เช่น ลูกที่ยังเล็กควรให้ความใกล้ชิดมากเป็นพิเศษ ส่วนลูกวัยรุ่น ก็ต้องกระตุ้นให้ลูกฝึกคิด รับผิดชอบ แก้ปัญหาด้วยตัวเอง โดยมีพ่อเป็นที่ปรึกษา รับฟัง เข้าใจ และยอมรับในทุกเรื่อง ขณะที่ต้องสอนลูกให้รู้ทันสื่อสมัยใหม่ พ่อต้องใช้วิธีการพูดคุยกัน ทำกิจกรรมร่วมกัน ใช้สื่อร่วมกัน ซึ่งถ้าสามารถปฏิบัติได้ดังนี้ สื่อสมัยใหม่จะเข้ามาในรูปแบบใดก็ตามจะไม่สามารถทำร้ายลูกได้ ถ้าได้ภูมิคุ้มกันที่ดีจากพ่อแล้ว
>br/>และแนวทางในการป้องกันและแก้ไขในระดับประเทศ
เคล็ดลับ 5 ข้อ ในการเลี้ยงลูกให้เก่ง ดี มีความสุข คือ
1. พ่อต้องรักแม่ของลูก ต้องรักกันมีความผูกพันกัน เพราะความสุขของพ่อแม่จะทำให้ลูกมีความสุขตามไปด้วย
2. คลุกคลีใกล้ชิด พูดคุยกับลูกบ่อยๆ เทคนิคการพูดคุยที่จะช่วยเพิ่มความเก่งให้กับลูก คือ สนใจตอบคำถามของลูก ใช้คำถามเพื่อส่งเสริมให้ลูกคิด เช่น ทำไม อย่างไร
3. มีเวลาให้เมื่อลูกมีปัญหา คอยรับฟังและให้กำลังใจลูก 4. จัดหาประสบการณ์ที่หลากหลายให้ลูกได้เรียนรู้ด้วยตนเอง
ลูกจะได้ค้นพบตนเองว่าชอบอะไร ถนัดอะไร และ5. อย่าสอนด้วยการสั่ง แต่ควรใช้การขอความเห็นหรือหารือเพื่อกระตุ้นให้ลูกคิดแก้ปัญหา โดยเฉพาะในคุณพ่อที่มีลูกวัยรุ่น ลูกควรเป็นส่วนหนึ่งในการตัดสินใจเรื่องต่าง ๆ ภายในบ้าน ทำตัวเป็นเพื่อน และถ่ายทอดประสบการณ์ในชีวิตพ่อให้ลูกฟังบนพื้นฐานความสัมพันธ์ที่ดี และจูงใจให้ลูกคิดตามโดยไม่ยัดเยียด สิ่งสำคัญ คือ ต้องยอมรับในตัวลูก มีเวลาใกล้ชิด และพูดคุยกันบ่อยๆ
ครอบครัว ถือ เป็นสถาบันที่สำคัญของสังคมไทย ตลอดถึงสังคมโลก การส่งเสริมให้ครอบครัวได้รู้จักสร้างความรักให้แก่กันทั้งทางกายและจิตใจ จะเป็นพลังสร้างสังคมให้มีความเข้มแข็งมั่นคงต่อไป เพื่อให้ได้เป็นกำลังกระทำความเพียร ในการบำเพ็ญหิตานุหิตประโยชน์ ทั้งในหน้าที่การงาน และต่อพระพุทธศาสนา ด้วยสติอันแกล้วกล้า ด้วยปัญญาอันอุดม ด้วยความมีจริยธรรมมั่นคง มีความรับผิดชอบต่อสังคม ตั้งรับกับค่านิยมที่กำลังเปลี่ยนแปลง
"ความดีและเกียรติยศของลูก คือ ความสุขของพ่อแม่"
หลวงพ่อพระครูธรรมธรไสว จะมีการจัดปฏิบัติธรรม เพื่อน้อมรำลึกพระมหากรุณาธิคุณฯ วันพ่อแห่งชาติ ประจำปี 2566 ณ วัดพระธาตุทุ่งเศรษฐี 6763 E Avenue H Lancaster CA 93535 โทร. (818) 392 - 0880 (562) 249 - 3789 Line ID: bmsn2008 ขอเชิญร่วมสั่งสมคุณความดี สร้างบารมีรักษาศาสนธรรมโดยพร้อมเพรียงกัน ระหว่างวันที่ 15 - 26 ธันวาคม ศกนี้ ขอความเจริญงอกงามไพบูลย์จงปรากฏแก่ศรัทธาทุกท่าน รูปขอจำเริญพร