ความจริงหรือความคิด
ไพฑูรย์ สุขสิขารมย์
ความจริงหรือความคิด 14 กันยายน 2562

เย็นเกือบ 6 โมง เพิ่งออกมาจากร้านขายผัก เดี๋ยวนี้ร้านผักทั่วไปจะคิดค่าถุงใส่ของ ยกเว้นร้านชาวต่างชาติ อย่างไทยและลาวยังอะลุ่มอล่วย มีถุงใส่ของให้ ถ้าเป็นร้านธรรมดา อย่างโกรเซอรี่จะถามเสมอ รับถุงใส่ของด้วยไหม ครับเป็นที่รับรู้ถุงละ 10 เซ็นต์ คนมากมายยังนิยมความสะดวก ไปซื้อของไม่นำถุงใส่ของติดมือไปด้วย สำหรับผมจะมีถุงอยู่ในรถเสมอ ครับความคิดช่วยกันประหยัดทรัพยากร และสำคัญใช้ถุงจะเพิ่มขยะ ปัญหาโลกในอนาคตคนเกิดมากขึ้น ของเหลือทิ้งโยนกองรวมเป็นขยะ กำลังจะหาที่ทิ้งไม่ได้ มีบ้างบางประเทศมักง่าย จะทิ้งขยะลงในทะเล คิดว่าทะเลกว้างใหญ่ นอกเขตปกครอง ขยะทิ้งมีนิดเดียว ไม่น่าจะมีปัญหา แน่นอนครับ ปัญหาทุกอย่างเกิดจากคนคิดว่าเล็กๆ น้อยๆ ไม่น่าจะมีปัญหา

คงจะเหมือนนักการเมืองเอาเรื่องส่วนตัวมาถกเถียง ครับเรื่องไร้สาระที่นำมาพูดเสนอ จะกลายเป็นเรื่องยืดเยื้อได้ ไร้เหตุ ไร้ผล กลายเป็นความคิดที่เรียกว่า “ขยะ” นานวันคำพูดนอกจากไร้เหตุผล ยังกลายเป็นขยะ กินเนื้อที่ของสิ่งที่น่าจะพัฒนาหดหายไป และก็บ้าจี้ประชาชนมากมายก็นำเอาปัญหาที่หาประโยชน์ต่อประชาชนไม่ได้มาสาระแนต่อ ผมเพิ่งอ่านเรื่องของความมักง่ายของคนที่ทิ้งพลาสติกลงในทะเล หลอดดูดโอเลี้ยงติดอยู่กับจมูกของเต่า และมีถุงพลาสติกอยู่ในท้องปลาวาฬ ครับสิ่งมีชีวิตทุกอย่างได้รับเคราะห์เพราะความมักง่าย บางคนมีความเห็นแก่ได้ ทิ้งทุกที่

ผมมองผ่านกระจกรถ ดูโฆษณา “Junk Disappear” ครับคนทำมาหากินกับสิ่งที่คนทิ้งต่างร่ำรวยกว่าเศษสิ่งของที่ทิ้งจะมากองอยู่ในที่แยก และสลายทำเป็นอุปกรณ์ไปใช้ต่อ หลายคนบอกว่าก็เป็นเหมือนกัน เพราะคนมากมายเดินเก็บของที่ประชาชนทิ้ง ตามถังขยะ ตามแหล่งขยะที่ทิ้งรวม กว่าจะเป็นถุงพลาสติกที่ทิ้งแล้วมารวมกันที่โรงงาน ย่อมเปลี่ยนสภาพพลาสติก คนเก็บผ่านอะไรบ้าง ผมเคยเป็นครู หัวหน้าหมวดคณิตศาสตร์ช่วงเรียนรัฐบาล แถวห้วยขวาง ดินแดง ช่วงโน้น ดินแดงเป็นที่ทิ้งขยะของรัฐบาล จะส่งกลิ่นเหม็น คนเก็บจะนั่งยองๆกับขยะ เห็นถุงพลาสติก เก็บเอาเศษสิ่งของที่เน่าอยู่ภายใน เททิ้ง นำพลาสติกไปล้างน้ำ ทำให้แห้ง พัน กว่าจะได้เงิน คลุกคลีกับปฏิกูลตลอดเวลา กรมสาธารณะสุขของว่า “กว่าจะได้ถุงทำมาหากินกับกลิ่น สิงสกปรก จะกัดกินสุขภาพทุกวัน กลิ่นจมูกสูดเข้าไปในปอด ครับ เหมือนควันไฟ ควันรถ นานวันสารมะเร็งเติบโต และสำคัญความรู้สึกของสภาพจิตใจย่อมถูกทำลาย

ระหว่างผมเปิดรถ ยกถุงอาหารใส่ มีผู้หญิงอายุน่าจะ 60 ปี นั่งรถเข็น เข้ามาหา “อยากทานทาโก้ หิว ขอเงินหน่อย ผมควักกระเป๋าหยิบให้ไม่มาก” ครับชีวิตถึงไม่ลำบาก มีบ้านหลับนอน มีอาหารกิน อยากทานอะไรมีในตู้เย็น แต่ชีวิตก็ต้องควบคุมการใช้เงิน เพราะเกษียณรายได้มีทางเดียว และชีวิตผมทำผิดในสิ่งที่ไม่รู้มาก่อน ตอนมีร้านอาหาร ทำ 30 กว่าปี เสียภาษี จ่ายแท็ก คนงานก็หักภาษี แต่เวลา ทำบัญชีกับบุ๊กคลิปเปอร์ ไม่รู้มาก่อนเวลาบอกว่าเราเป็นหุ้นส่วนกับภรรยา เวลาเสียเงิน ควรเสียทั้งสองคน เพราะเป็นเหตุผลตอนเกษียณจะได้รับเงินพอกับการมีชีวิต

ครับจะทำงานให้ตัวเอง ให้คนอื่น ในอเมริกา การแจ้งและหักเงินจำเป็น เจ็บป่วยระหว่างาน อุบัติเหตุ หรือเกษียณจะได้มีเงินใช้ ได้รับการดูแล มากคนทำงาน มีโอกาสรับสิทธิตามความถูกต้อง

และอีกอย่างผมอยากแนะ ถ้าทำงานหักภาษี ครอบครัวอย่างภรรยามีโรคภัย ทำงานไม่ได้ ก็ควรไปปรึกษา “ศูนย์กลาง” ผู้รู้จะได้ช่วยเหลือคนพิการ ครับในอเมริกาจะมีระบบหนึ่ง กิจกรรมหลายอย่างจะช่วยเหลือคนมีรายได้น้อย ลองถาม สมัครดู สิ่งที่ได้รับอาจจ่ายค่าบริการ อย่างไปสมัครออกกำลัง อย่าง วายเอ็นซีเอ เสียเดือนละ 50 เหรียญ ถ้ารายได้น้อยลองคุย และสมัคร อาจจะจ่ายน้อยลง เรามองด้วยใจจะรับรู้ความเกื้อกูลยังเสนอให้เสมอ

หลังจากผมยื่นเงินให้ คนขอเธอยื่นกระดาษให้ผม แล้วบอกว่า เป็น “วัด” ควรไปสวด ไปคลุกคลี ผมถามว่าแล้วผมจะเจอ “ก็อด” (God) ไหม เธอยิ้ม ผมยิ้มตอบ อย่างคุณ ยิ้มแย้ม มีเมตตา ก็อดจะอยู่กับคุณตลอดเวลา ครับสำหรับผมเชื่อเรื่องศาสนา ศาสนาพุทธสอนเพียงเราพัฒนาตัวให้มีจิตเมตตากับครอบครัว และสังคมของคนก็คือคิดดี เป็นนิสัยที่แท้จริงของชีวิต ชีวิตย่อมสุข คงเหมือนคำว่า “สุญญตา” คือความว่าง ในที่นี้คำว่าว่างคือจิตว่าง คนเรา เห็น ได้ยิน ได้กลิ่น สัมผัส จะรับรู้ ถ้ามีสติ อย่างนั่งไม่รับรู้สิ่งมาสัมผัส และโยนทิ้งสิ่งที่เรากังวลและคิดออกจากจิต จิตเราจะว่างเปล่า ไม่มีสุข ไม่มีทุกข์ เรียกความว่างนี้ว่า “สุญญาตา” หลายคนแม้แต่พุทธองค์ เมื่อว่างจะมองเห็นสิ่งเป็นจริงของโลกที่อาศัยปัญญาญาณ มองเห็นสิ่งที่เป็นไปของโลก โดยคนทั่วไปไม่สามารถมองเห็น คือสิ่งที่พระองค์รับรู้ เรียกว่าตรัสรู้ คือสิ่งที่เป็นความจริง วิทยาศาสตร์ยังค้นไม่พบ ความจริงเกิดตั้งอยู่กับโลกตลอดเวลา พอพูดถึงพระเจ้า อดคิดถึงคำพูดในหนังสือบอกว่า ระหว่างนโปเลียน กษัตริย์ผู้มีความสามารถเก่งกาจเรื่องรบ การรบขยายอาณานิคม ต้องมีประชาชนตายและเดือดร้อน ภาษาปัจจุบันคือการรพรากครอบครัวที่เคยมีความผาสุก ระหว่างนโปเลียนกับพระเยซู ซึ่งถูกตรึงไม้กางเขน ใครคือผู้มีความสุขมากกว่ากัน นโปเลียนเป็นใหญ่ รบเก่ง อาณาจักรกว้างขวาง เมื่อเมืองขึ้นเยอะ ข้าวของ เงินทองที่เราเรียกว่าเครื่องบรรณาการย่อมได้รับมากมาย แต่พระเยซู พระองค์ท่านเดินทางสอนหลักความสุข และความถูกต้องของชีวิตให้ประชาชน ไม่ทำร้าย ไม่บังคับ สุดท้าย ใครคือผู้มีความสุข

หลักของพุทธองค์ ความสุขคือการไม่ยึดมั่นถือมั่น ให้มีภาระกับชีวิต หวง ห่วง หลง โทสะ โมหะ และอวิชา ผมขับรถกลับบ้าน เย็นเกือบค่ำ ถึงเวลาอาหารเย็น อาบน้ำทานข้าว อ่านหนังสือ หรือดูทีวี เป็นช่วงลูกสาว ลูกชาย โทรมาอาทิตย์ละหลายครั้ง ผมผ่านที่คนไม่มีบ้าน ชื่อเจมส์ จะนั่งอยู่ เช้ายันมืดค่ำ เป็นคนไม่มีบ้าน ไม่มีครอบครัว และถ้าสามารถรับรู้จากคำบอกเล่าของเขา เขาอาจจะบอกว่าผมคือคนธรรมดาเหมือนคุณและทุกคนเดินผ่าน หรือตลอดเวลาที่ผมนั่งอยู่ จะมีคนนำอาหาร เสื้อผ้ามาให้ ผมเคยมีครอบครัว มีลูก มีความสุข ความทุกข์ที่ต้องอดกลั้นพัฒนาครอบครัว ตามความคิดอยากให้ลูกๆ มีการศึกษา เป็นคนดี เสียสละ แต่แล้ววันหนึ่งถ้าเขาพูดได้ เกิดจากเหตุการณ์ที่เขาต้องเร่ร่อน นอนตามถนน ทนหนาว ฝน และร้อน ต้องพึ่งความเมตตาจากคนทั่วไป ผมไม่รู้ตัว ทำไมต้องมามีชีวิตเร่ร่อน

การวิเคราะห์คนประเภทไม่มีบ้านส่วนมากจะมีปัญหาเรื่องสุขภาพจิต อาจติดยา คนบอกว่าคนประเภทไม่มีบ้าน ไม่ทำร้ายคน จะเห็นว่าบริเวณที่เขาอยู่ ของทิ้งจะเกลื่อน คือขาดความรับผิดชอบ ครับเป็นหน้าที่ของผู้บริหารประเทศ

วันนี้เห็นเจมส์ ยืน มีจานอาหารวางบนถังทิ้งขยะ กำลังใช้พลาสติกตัดอาหาร ครับชีวิตคนไม่มีอะไรแน่นอน ดูได้เราอายุมากขึ้นทุกวัน จะอายุยืนยาวหรือไม่ หลายคนบอกว่าอยากให้ชีวิตสามารถดูแลตัวเองได้ “สาธุ”