ความจริงหรือความคิด
ไพฑูรย์ สุขสิขารมย์
ความจริงหรือความคิด 17 พฤศจิกายน 2561

ยังอยู่วัด ช่วงปลายชีวิตไปไหนๆ ไม่รีบร้อน ยิ่งมาอยู่วัดมากคนรวมทั้งผมและแม่บ้าน มีความรู้สึกสงบ วัดที่ผมนั่ง กำลังพัฒนา อาจจะผิดกับวัดในเมืองไทย การพัฒนาทางวัตถุล้ำหน้า โบสถ์ ศาลา พระเจดีย์ จะเน้นการก่อสร้างเติมเต็มเอกลักษณ์ ดูสวยงาม เราลงทุนเยอะ แต่ความรับรู้คนรุ่นใหม่ใช้สถาบันวัดน้อยลง หลายวัดแตกแยกความคิดทางการพัฒนาวัตถุ หันมาพัฒนาจิตใจให้คนรู้จักใช้วัดมาสร้างบุญกุศล ไม่เน้นเรื่องการทำบุญด้วยบริจาคเงิน หันหน้าเข้าวัดศึกษาธรรมะ นั่งสมาธิ สร้างเป็นศูนย์เน้นปลูกฝังความคิดทาง “ปัญญาญาณ” ให้กับลูกหลาน ความปรารถนา เด็กๆ เติบโตจะเข้าใจหลักศาสนาที่แท้จริง โดยเฉพาะเมืองไทย ผู้ใหญ่มากมายทำตัวและมีความคิดไม่ตรงหลักคุณความดี คือหลักของศาสนา อย่างศรัทธาความมั่งมี ทำร้ายธรรมชาติ อย่างแม่น้ำเกือบทุกจังหวัด ถ้าริมฝั่ง มีโรงงานอุตสาหกรรม โอกาสทิ้งสารพิษลงแม่น้ำเยอะ

“ปัญญาญาณ” ในความคิดของผม ปัญญา + ญาณ ปัญญาคือปัจจัย การรับรู้ความคิดด้วยความเป็นจริงและถูกต้อง ถ้าจะเน้นคือสามารถพิจารณาด้วยหลักวิทยาศาสตร์ได้ “ญาณ” คือความรู้พิเศษ คุณสมบัติ ถูกต้องเป็นพื้นฐานรับรู้ และนำไปยึดถือเป็นสิ่งดีงาม

ตอนเช้า ก่อนพระบิณฑบาต ผมนั่งสนทนากับหลวงพี่ เรื่องเด็กๆ ตลอดทั้งปี วัดจะเปิดโรงเรียนภาษาไทย รำไทย ดนตรีไทย เหลือเชื่อ แม้แต่โรงเรียนในไทย โรงเรียนไม่มีอุปกรณ์ การเรียนทางดนตรี ได้ทุกโรงเรียน ซึ่งผิดกับที่อเมริกา อย่างวัดแถบผมอยู่ จะวัดมงคลรัตนาราม วัดพุทธานุสรณ์ และวัดพุทธประทีป มีการสอนนาฏศิลป์ เครื่องดนตรีพร้อม ตลอดปี วันสำคัญจะนำแสดง หารายได้เป็นทุนของนาฏศิลป์ ศิลปะ และวัฒนธรรม

หลวงพี่ครับ ตอนช่วงโรงเรียนปกติของเด็กเปิดเทอม อย่างวันนี้ วัดมีเด็กมาเรียน เสาร์-อาทิตย์ เยอะไหมครับ หลวงพี่บอกว่าประมาณ 70 คน ยิ่งช่วงปิดภาคใหญ่จะมีเด็กเป็นร้อย

มองดูรอบวัด เด็กยังเยอะ ยังมีกิจกรรม พ่อและแม่ก็ยังอยู่กับวัด ผมเชื่อ หลักการที่เรานั่งรอลูก อยู่กับวัด ผู้ปกครองจะพัฒนาตัวเอง ศึกษาธรรมะ การสร้างบุญกุศล จะอยู่ที่ไหนๆ ก็สร้างได้ แม่คือผู้หญิงเป็นแบบอย่างที่ดีของลูกเสมอ เหตุผลง่ายๆ แม่ใช้สมองด้านขวา คือความปกติของชีวิต แม่พาลูกเดินเห็นเศษกระดาษ ถูกโยนทิ้งบนถนน แม่บอกให้ลูกช่วยเก็บกับแม่ แบบอย่างที่แม่ทำ บอกลูกให้มองดูคลองและแม่น้ำ แม่เคยพาลูกนั่งเรือจากคลองตลาด ข้ามไปวัดอรุณ แม่ชี้ให้ลูกดูบนผิวน้ำ เศษปฏิกูลลอยเต็มเกิดจากฝีมือคน แม่บอกว่า เพียงเราช่วยกันดูแลธรรมชาติ แม้แต่อยู่บ้าน ใช้แอร์ลดลง ระยะทางใกล้ อาศัยเดิน ไม่ต้องขับรถเสียน้ำมัน ทุกอย่างรอบตัว ดูแลรักษาง่ายกันประหยัดธรรมชาติ แม่บอกว่า สิ่งที่เราดูแลคือบุญและกุศล แม่บอกคำว่ากุศล คือผลที่เราได้รับ แม่ชอบพาลูกไปซื้อของ แม่อธิบายผัก ปลา เนื้อ แม่บอกว่า การปลูกผักถ้าใช้ปุ๋ยธรรมชาติ ไม่ใช้ปุ๋ยเคมี คนเพาะปลูกย่อมไม่ทำร้ายผู้บริโภค แม่ว่านั่นคือคุณความดี เป็นบุญไหมลูกจ๊ะ เมื่อเราต่างช่วยกัน ดูแลสุขภาพต่อกัน แม้แต่ขับรถปล่อยควัน ทุกสิ่งที่เราเจตนาทำดี ทั้งเจตนาและความตั้งใจ ทำสิ่งที่ถูกต้อง มันคือบุญ เวลาแม่เข็นรถซื้อของแม่สอน จอดรถชิดชั้นสิ่งของไม่จอดรถกลางทางเดินกีดขวาง คนบางคนรำคาญหงุดหงิด คนจอดรถย่อมเกิดความรู้สึกผิด ความรู้สึกดีกับไม่ดีมันคือทางเดียวกับกุศลและอกุศล คำว่า อกุศลเป็นอันเดียวกับบาป

แม่ไม่เคยรำคาญที่จะสอนสิ่งดีงามให้ลูกพาลูกไปห้องสมุด ถึงจะไม่บ่อยนัก แม่พาไปร้านโดนัท ร้านไอศกรีม ตอนเล็กมากแม่ตัดประเภทของหวาน เพราะไม่ให้คุณ แต่พอลูกโต 3-4 ขวบ แม่ทำตัวละเลยบ้าง เพราะแม่คิดว่า ประโยชน์ และโทษ ย่อมผสมปนเปกันเสมอ แม่คิดว่าลูกย่อมชอบของหวานบ้าง เพียงแต่อธิบายโทษ และคุณ ความแตกต่าง เกือบทุกสิ่งจะอยู่ในสิ่งเดียวกัน

ปลายเดือนตุลาคม และต้นพฤศจิกายน เป็นช่วงโรงเรียนเอกชนโฆษณา เชิญชวนมาเยี่ยมโรงเรียน แม้แต่นั่งดูการสอน สังเกตเด็ก แต่ละห้องมีเด็กไม่มาก ครูบอกว่า เด็กนักเรียนต้องสอบเข้า เพื่อคัดเด็กให้มีคุณสมบัติระนาบเดียวกัน โรงเรียนบอกว่า เด็กๆ ความสามารถใกล้เคียง ผู้ปกครองสนใจและเอาใจใส่ อย่างโรงเรียนจัดการศึกษานอกโรงเรียน (ฟีลทิป) มีผู้ปกครองอาสาช่วยขับรถ ดูแลเด็ก แม่เคยบอกกับลูก โรงเรียนจำเป็นสำหรับการเริ่มชีวิตของลูก การดูแลตัวเอง มีความรับผิดชอบ ความประพฤติ แชร์ของเล่น ให้อภัย แม่ต้องสอนและดูแลลูก แม่พ่อต้องรู้จักบริหารรายได้ อยากเห็นลูกอยู่โรงเรียนที่ครู เพื่อน และสิ่งแวดล้อมอำนวย การเรียนรู้ การบริหารรายได้ แม่อธิบายให้ลูกได้รับรู้

เวลาลูกนั่งรถไปกับแม่ เห็นเด็กและผู้ใหญ่เดินข้ามถนน พูดโทรศัพท์แม่บอกอันตรายมากนะลูก การข้ามถนน เราไม่ระมัดระวัง อุบัติเหตุเกิดได้ เราจะเป็นฝ่ายถูกหรือผิด อุบัติเหตุสามารถเป็นสาเหตุให้เราพิการได้

ปกติแม่จะมีห้องให้ลูก ฝึกให้รู้จักดูแลตัวเอง รู้จักนอนด้วยตัวเอง เกือบทุกคืนลูกจะลุกมานอนด้วย แม่และพ่อคุยกับลูกคงต้องการความมั่นคงทางความคิด แม่จะชอบเล่า สารพัดเรื่องให้ตอนนอน เป็นเรื่องสบาย ได้หัวเราะ แม่สอนให้ลูกอ่านการ์ตูน และนิยายเด็กๆ แม่เคยบอกอยากให้ลูกรักการอ่าน การอ่านเป็นชีวิตของทุกคน นอกจากความรู้จากเนื้อหา แม่ยังเน้น นอกจากความรู้จากเนื้อหา แม่ยังเน้น เราจะติดอุปนิสัยรักการอ่าน แม่เคยบอก แม่เคยอ่านเรื่องของด็อกเตอร์ เกร็นเดอร์แม่น เราสามารถสอนลูกให้รู้จักการอ่านแต่เด็กๆ อย่างเช่นป้ายโฆษณา ตัวหนังสือต้องเด่น ตัวหนังสือชัดเจน และเรื่องที่อ่านเห็นบ่อย อย่างคำว่า นม หนังสือ สวนสัตว์

ผู้หญิงส่วนมาก มีชีวิตสนุก เรียบง่าย ชอบแต่งตัว หัวเราะ ชอบเข้าสังคม แม่ชอบอ่านนวนิยาย ครับแม่เติบโตกับการใช้สมองด้านขวา สมองด้านขวาเป็นเรื่องของการนินทา ขี้บ่น ไม่รู้ว่าแม่มีสิ่งเหล่านี้ไหม แต่แม่ก็เคยบอก บางอย่างที่เกิดกับเรา อย่างอิจฉา แต่ก็ปรับปรุง มันน่าจะเป็นสิ่งดีงาม

โลกปัจจุบันแม่เปลี่ยน หลังจากแม่หลายคนเป็นหัวหน้างาน แม่ปรับใช้สมองจากขวาเป็นซ้าย แม่เข้มงวด งานต้องก้าวหน้า มีความรับผิดชอบ ถ้าทำผิดบ่อย แม่เอ็ดตาโรใส่

ครับวันนี้ แม่มาวัดมากกว่าพ่อ แม่ชอบวัด ได้คุย ได้ทำบุญ ถ้าแม่เปลี่ยนการใช้สมองจากขวาเป็นสมองด้านซ้าย ต้องตรง แม่นยำ ไม่รู้ความเสมอภาค ความยุติธรรมจะเป็นปัญหาไหม กับแม่ที่เคยหัวเราะ พูดเล่น ยิ้ม และเล่าสารพัดเรื่อง หรือจะเปลี่ยนทุกอย่างต้องมั่นคง