ความจริงหรือความคิด
ไพฑูรย์ สุขสิขารมย์
ความจริงหรือความคิด 19 สิงหาคม 2560

เดินต่อหางแถว มองดูบอร์ดชนิดของกาแฟจะบอกราคา ร้านที่ผมต่อแถวชื่อ “พีท” (Peets) ดั้งเดิมเป็นร้านกาแฟของเบิร์คเล่ย์ เกิดที่นี่สร้างคุณสมบัติรักษามาตรฐานไม่เคยเปลี่ยนแปลง ดื่มเมื่อหลายปีก่อนเช้าวันนี้รสเหมือนเดิม มันเป็นเพียงคำจำกัดความของผม อาจจะแตกต่างตามความรู้สึกของหลายคน เพราะปัจจุบันกาแฟเกิดมากร้าน กาแฟพันธุ์ “อลาบิก้า” เหมือนกัน แต่การคั่ว ส่วนผสมเสริมต่อต่างนิดรสก็ต่างกันแล้ว

คงเหมือนการปรุงอาหาร วางอุปกรณ์ เหมือนกันให้คุ๊กทุกคน แต่พอใส่จาน ตักใส่ปาก แตกต่างนิดๆ หน่อยๆ หลายคนคุ๊กผักยังกรอบ บางคนเนื้อนุ่ม ครับไม่มีอะไรผิดหรอกครับ มากคนพูดว่าลิ้นของคนกินน่าจะแตกต่าง หลายคนความแตกต่างลึกเลยสิ่งที่สัมผัส คือความชอบพอ พอแม่สอนก่อนเดินทางมาเรียนที่กรุงเทพฯ แม่พ่อย้ำมองและเชื่ออะไร มองให้ลึกถึงความผิดถูก ความดี ความชั่ว และถึงจุดมองให้เห็นทุกข์และสุข หลวงพี่บอกว่ามองให้เห็นถึงสาเหตุของความยุ่งยาก

ผมสั่งกาแฟร้อนธรรมดาแก้วปกติ ไม่ต้องการแก้วโต เพราะรู้ว่าตัวเองดื่มไม่เคยหมด ทุกวันดื่มที่บ้านพอแก้วแรกเหลือน้อยทำเพิ่มเต็มแก้ว ดื่มไม่เคยพร่องมาก พอเย็นเก็บใส่ตู้ เช้าอัญเชิญเข้าไมโครเวฟ กดปุ่น 30 วินาที พอเหมาะอุ่น รสยังไม่เคยเปลี่ยน ประหยัดกาแฟ ไฟฟ้า น่าจะเข้าหลักพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว ทรงสอนประชาชนทั่วประเทศ ควรมีชีวิตพอเพียง

กาแฟทุกร้าน ชื่อแตกต่างใช้กาแฟเดียวกับที่ผมสั่ง แต่ผสมตัดต่อเติม รสอร่อยตามความชอบพอ ราคาย่อมขยับสูงขึ้น ใส่ครีม วิฟครีม ผสมกลิ่นหอมกลั่นจากดอกใบ แต่คงไม่มีรสที่คนไทยนิยม กลิ่นใบเตย จำปี แม้แต่กระดังงา

ครับสังคมไทยก้าวเกินการดูแลสุขภาพ จากกรมสาธารณสุข สมุนไพรมากมายสารพัดรักษาโรคได้ อาจจริงแต่มีจิ๊ดเดียว ผลลัพท์จริงๆ คงด้อยค่ากว่าคำโฆษณาชวนเชื่อ มีอาจารย์ยูซีเบิร์คเล่ย์ มาถามซื้ือลูกมะกรูดไปต้ม ย่างกินแก้มะเร็ง ผมไม่เกี่ยวว่าหายหรือไม่ ถือแก้วกาแฟ ปิดฝา ครับแก้วกาแฟมากร้าน โฆษณาทำจากของเก่า ผสมปนเปทำมาใช้ใหม่ ไม่มักง่ายทิ้งกองโตเป็นขยะ เป็นภาระกับระบบในอนาคต มากหมู่บ้านได้รับกลิ่น ท้าทายสุขภาพ นานวันกลิ่นกลายเป็นความเคยชิน แต่สุขภาพพูดไม่ได้ แต่คำพูดออกมาเป็นผล ป่วย มากสิ่งเหมือนกินผักฉีดสาร ปลาฉีดฟอร์มาลีน ข้าวซ่อนไว้นานมอดกิน ครับเก่าทั้งนั้น มากสิ่งคุณภาพด้อย ผสมปนเปมั่วเกิดสารทำร้ายสุขภาพ

จึงเห็นได้วันนี้คนไทยเป็นโรค แตกต่างจากวันวาน มะเร็ง โรคปวดเข่า โรคนอนลืมตาโพลงบนเตียง พูดได้ แต่ช่วยตนเองไม่ได้ มากคนมะเร็งกิน ลุกลาม เจ็บปวด ก็ยังยื้อชีวิต มากรัฐในอเมริกา แม้แต่แคลิฟอร์เนีย เดือนมิถุนายนที่ผ่านมา กฎหมายอนุญาต เจ็บป่วย ปวด ทรมาน โรคเจ็บปวด ครางไม่หาย หมอรักษาสั่นหน้า หมดหนทางขอรับ เพียงรอวันมหัศจรรย์ ถ้าวันนั้นมาไม่ถึง ชีวิตก็ร้องครวญครางทรมาน คนเข้าใจชีวิตพูดกับญาติ หมอช่วยให้ผมตายจะกินยา หรือฉีดยา ไม่ต้องโยงสารพัดสาย หรือกินยาละลายไขมันต่อชีวิตอีก 2-3 เดือน มันทรมาน

ถ้าคุณเชื่อ ตายแล้วไปเกิดใหม่ เหมือนบ้านผุพังจะอยู่ให้ไม่ปวดหัวก็ต้องซ่อม เมื่อตายแล้วไปเกิด เหมือนลงเสาเข็ม สร้างฟาวเดชั่น ก่อสร้าง ทำฝา หลังคา และต่อเติมที่เก็บแสงแดดเสียด้วยเลย คงเหมือนตายแล้วเกิด ย่อมสดและใหม่ ใครจะรู้ อาจสวย หล่อ มีเงินทองมากมาย เมื่อรวยจะหากิ๊กชายหญิงคนไม่รังเกียจ

ผมมาหยุดนั่ง เมืองเบิร์คเล่ย์ในสายตาผม ทันสมัย กว่าเมืองรอบๆ เรื่องการพัฒนาเมือง การมีความรู้ การลงมือพัฒนาต่างกันคนละขั้ว เบิร์คเล่ย์เจ้าเมืองจิตวิญญาณเป็นนักประชาธิปไตย ไม่เพียงเท่านั้น จิตวิญญาณยังผสมปนเปกับธรรมะ จะเห็นตรงผมนั่งทำที่นั่งขยายออกนอกถนน ตัดที่จอดรถได้ 2 คัน ลดรายได้เข้าซิตี้จากพาร์คกิ้งมอเตอร์ ส่งคืนให้ประชาชน ทำที่นั่งริมถนน มีรั้ว ยกพื้นคอนกรีต เพื่อความปลอดภัยจากรถ คนนิยมนั่งชิดกับชีวิตคน รับแสงแดด ลมทะเลพัดผ่าน ถึงจะไม่ตรง ผ่านซอกหลืบก็ยังได้ลมสด ร้านเล็กมีหลายร้านบนถนน คนมาซื้อใช้บรรยากาศนั่ง มองคนเดิน ความคิดให้คนทำมาหากิน มีรายได้ เป็นความคิดที่ประเสริฐ เมื่อคนมีงานมีรายได้ ความถูกต้องมากสิ่งตามมาเสมอ ผู้บริหารถ้าปล่อยให้ประชาชนทำมาหาเงิน ตามวิถีเดิม มีปัญหาสุขภาพยังเฉย สามารถพิจารณาตัวเป็นผู้ด้อยขาดจิตวิญญาณเป็นผู้พัฒนาที่ดี

ถือกาแฟร้อนๆ มานั่งปนกับมากหน้า ชีวิตสังคม รู้จักสนทนาคุยแลกเปลี่ยนความคิด ความคุ้นเคยกระจาย เพื่อนใหม่เกิดเสมอ มากคนไม่คิดมากว่าเพื่อนจะเป็นมิตรแท้ไหม เพียงรู้จักเจอะเจอทักทาย ไม่จำเป็นต้องติดต่อ พึ่งพา การรู้จักก็นำความพอใจมาสู่ คนส่วนมากยอมรับพอใจแล้ว

ผมยกเท้าพาด สังคมไทยแม้แต่แม่บ้านมีความคิดพ้องกัน ไม่สุขภาพ ยกเท้าแต่องค์กรของสุขภาพ พูดเหมือนกันการยกเท้าบ้างเป็นการดูแล คนคัดค้านจะเน้นต่อ อยู่กับกาลเวลาด้วย

แถวนี้ผมทำมาหากินเปิดร้านอาหารไทยใช้เวลา 30 ปีเกิน ชีวิตไม่เคยรับผิดชอบเรื่องคุ๊กอาหาร พอเปิดร้านต้องคุ๊ก ทำความสะอาด คนงานขาดก็ต้องเป็นตัว “แปร” ถึงจะลำบากบ้างก็สามารถมีเงินส่งลูกเรียนโรงเรียนเอกชนดีๆ เข้ามหาวิทยาลัย ผมได้รับการฝึกจากพ่อแม่ พ่อแม่ค้าขายเล็กๆ น้อยๆ อยู่อยุธยาส่งลูกทุกคนเรียน น้องสองคนจบกฎหมาย ส่งผมมาเรียนอเมริกา แม่บอกว่าสมบัติที่ลูกควรได้ ขายไปเรียนน่าจะคุ้มค่า ต่อดอกและผลประโยชน์หลังเรียนจบ

ผมคุ้นเคยกับคนแถวนี้ ร้านมากมายส่วนมากจะเปลี่ยนคนทำมาหากิน ตรงข้ามซ้ายมือเคยเป็นร้านโกรเซอรี่ ชื่อ “แอนโดนิโก้” สินค้าดี แต่แพง แม่บ้านอุดหนุน “ครีมบลูเล” และแคล็อคเค้กเป็นประจำ ลูกๆ ชอบน้ำส้มสดคั้นต่อหน้า สำหรับผมไม่ต้องการอะไร แต่ถ้าร้านขาดของทำขาย ตัดใจซื้อในราคาแพงบ้าง กำไรถึงจะน้อยแต่เมื่อมีของที่ลูกค้าสั่งไม่ขาดตอน ธุรกิจก็ยังก้าวหน้า ปัจจุบันขายให้เซฟเวย์ และเซฟเวย์เป็นร้านโกรเซอรี่ได้ขายให้คนอื่นไปแล้ว

ติดร้านผมเป็นร้านอาหารอินเดีย ชื่อ “อจันตา” ขายดีมาก ตอนนี้เปลี่ยนเจ้าของ เจ้าของคนเก่าตอนผมอยู่จะจ้างผู้จัดการ เข้าร้านตอนสองทุ่ม มานั่งดื่มไวน์กับภรรยาสาว ถึงจะขายดี เงินเข้าทุกวัน แต่คงยึดหลักเมื่อตายเอาอะไรไปไม่ได้ ชรากินก็น้อยลง เลือกหนทางขาย มีเวลาให้ตัวเอง ทำสวนครัว ตอนเช้าเดินออกกำลัง ตกเย็นนั่งโต๊ะหลังบ้านดื่มไวน์กับแม่บ้าน ถึงวัยจะร่วงโรย เต้นรำกันนะ แสดงความรัก มีกุ๊กกิ๊กกันบ้าง ความสุขของชีวิตจะวัยหนุ่มสาว กลางคน และชรา ชีวิตความสุขร่วมกัน สามารถหลั่งสารความสุขทำให้ชีวิตตื่นเต้น ระหว่างกิจกรรมกายใจเคลื่อนไหว ทิศทางเดียวกัน สิ้นสุดชีวิตสงบความสุขที่เกิดคือพลังงานผลักดันเป็นพื้นฐานชีวิตดีๆ ของวันพรุ่งนี้