ความจริงหรือความคิด
ไพฑูรย์ สุขสิขารมย์
ความจริงหรือความคิด 1 ตุลาคม 2565

จอดรถถือกาแฟ และของขบเคี้ยว ครับการเดินทางเป็นความปกติของชีวิต คือเดินมีของกินด้วย หลายคนติง ไม่ว่าหรอกเดินทานแต่ถุงและวัสดุที่เป็นอาหาร อย่าทิ้งเรี่ยราด ผมดูทีวีกรุงเทพฯ ฝนตกหนาเม็ด หลายวันติด กรุงเทพฯ หลายที่น้ำท่วม แต่สิ่งที่เห็น คือ เศษสิ่งของที่เราเรียกขยะลอยแพตามริมรั้ว ครับสาเหตุของวัสดุจะกระดาษ พลาสติก หรือเศษวัสดุบางประเภท เป็นของที่ใช้แล้วหมดคุณค่า โดยปกติบ้านเมืองที่เป็นทางผู้คนเดินมากมาย ควรจะมีถังใส่ขยะเพิ่มมากหน่อย ครับมากกิจกรรมการเน้นการสอนก็ควรจะเพิ่ม

วันหนึ่งผมขับรถผ่านเห็น “ส้วม” ประเภทพอร์ทเทเบิ้ล เป็นพลาสติกตั้งไว้ ผมถือว่าเป็นความรอบคอบ มากคนอย่างตัวผมเป็นผู้สูงอายุ ชอบดื่มกาแฟ หลายคนบอกผมว่าดื่มกาแฟมาก ปวดปัสสาวะบ่อย ครับผมมีปัญหา คนสูงอายุระบบการควบคุมขมิบ หย่อนยาน มีบ้างกะปริบกะปอย

บ่อยครั้งผมจะมีเวลาให้ตัวเอง ขับรถไปรอบๆบริเวณมีคนเดิน และที่ขาดไม่ได้จะขับไป “ที่คนไร้บ้าน” ที่เราเรียกว่า Homeless จะกางเต้นท์ หลับนอนบนถนน ครับพวกคนประเภทไร้บ้านที่ผมพบเห็น อยู่พอคุ้นไปมาสะดวก ไม่นานเจ้าหน้าที่รัฐก็บอกให้ย้ายที่ ครับสิ่งหลังจากย้ายคือเศษสิ่งของเครื่องใช้มากมายทิ้งไว้ หน้าที่คือ เจ้าหน้าที่ของรัฐ คุณและผมยืนเชียร์ “ช่วยอยู่ห่างๆ” คืออะไรหรือครับ คืนนำภาษีที่เราจ่ายให้รัฐ แยกนำไปเก็บกวาดทำความสะอาด ครับผมดูข่าวไทย ผู้ว่าคนใหม่ของกรุงเทพฯ เจียดเงินดูแลน้ำท่วม เอาเป็นค่าพาคนทำงานไปเที่ยว “คำอธิบายคือการไปหาความรู้” ประสบการณ์แล้วน้ำมาพัฒนา โดยความเป็นจริงที่คนบ่นพาคนท่องเที่ยวแล้วนำทักษะใหม่มาพัฒนา ครับมันเป็นความถูกต้อง แต่ช่วงเจียดเงินพัฒนาน้ำเป็นช่วงที่น้ำท่วมถนน ครับเป็นหน้าที่ของพวกคุณ การจะมาเป็นผู้บริหารกรุงเทพฯ ย่อมเกิดจากพวกคุณโหวตเทคะแนนให้เข้ามา

ผมดูข่าวเมืองไทยเกือบทุกวัน โดยเฉพาะเกี่ยวกับรัฐสภา คือพวก ส.ส. สิ่งที่ผมรับรู้ตลอดเวลา คือการถกเถียง แยกข้างระหว่างฝ่ายค้านกับฝ่ายบริหาร คือรัฐบาล ไม่เคยได้ยินเรื่องออมชอมดูแลการพัฒนาประเทศ อดเสียดายเงินของประเทศ และอดคิดถึงความรู้สึกของคน ไปลงคะแนน กาเครื่องหมายเลือกเข้าสภา แทบจะไม่ได้ยินข้อเสนอดีงามพัฒนาประเทศ อย่างน้อยช่วงน้ำท่วมทั้ง 2 ฝ่ายควรเสนอแนะ และช่วยกันแก้ไข หรือเหมือนคนดีกับคนเลว ความคิดคนละขั้ว ไม่สามารถจับมือและช่วยกันแก้ไขและพัฒนา ผมเดินถือถุงขนมและแก้วกาแฟ ความเป็นปกติชีวิตผมชอบเดินด้วยซิบกาแฟร้อน กัดของกิน “ครับแต่กฎเกณฑ์ของชีวิต” ผมได้รับการสั่งสอนจากบ้าน จากวัด (สมเด็จพระสังฆราชองค์ที่ 18) ท่านเมตตาผม เพราะช่วงเรียนประถมที่อยุธยา โรงเรียน “วาสนานุกูล” สมเด็๗พระสังฆราช ท่านสร้างให้เพื่อเป็นพื้นฐานทางการศึกษา ผมอดคุย เรียนเป็นที่หนึ่งทุกปี ได้รับรางวัลจากสมเด็จพระสังฆราชทุกปี

ครับที่บอกกล่าว ทางหลักการศึกษาถ้าเป็นสิ่งถูกต้องดีงาม การพูดคุยคือการกระตุ้นให้เด็กสนใจในสิ่งดีงาม

ทุกคนพ่อแม่ ครู สังฆราช และเข้าโบสถ์ทุกอาทิตย์ ความดีงามที่ได้รับการอบรม เข้าเป็นส่วนของความคิด ยึดปฏิบัติสืบต่อกันมา จากผมและแม่บ้าน สู่ลูก 2 คน และหลานชาย 3 คน

ผมเดินข้ามถนน รถจอดไว้ที่ศูนย์กลางการค้าของหมู่บ้าน มีสารพัด ที่เรียกว่าความจำเป็นของคนมีครอบครัว มีร้านหนังสือใหม่ ครับคนส่วนมาก เรียนได้ รับการอบรมจากพ่อแม่เป็นตัวอย่าง อ่านหนังสือ แม่ผมนั่งสวดมนต์ แม่ชอบมานั่ง ศาลาทำยื่นออกจากบ้าน สู่แม่น้ำป่าสัก สงบ เย็น สวยงาม จะเห็นชีวิตคนรุ่นผมเป็นเด็ก จะมีคนหาปลาในแม่น้ำอย่างริมฝั่งจะทอดแห ตกปลา และแม่พ่อ ชอบอ่านหนังสือ ที่ศูนย์กลางการค้า มีร้านครบวงจรของครอบครัว อย่างที่เช่าหนัง ร้านยา ร้านที่ออกกำลัง หมอฟัน หมอยา แม้แต่ร้านเสื้อผ้า ร้านโดนัท ร้านเสื้อผ้า และอีกมากมาย

ผมเดินข้ามถนน ครับรอไฟ เปลี่ยนให้ข้ามได้ ผมสังเกตเวลาช่วงขับรถ คนเดินถนน ส่วนมากจะเดินปกติ เดินช้าไม่รีบ แต่สำหรับผมข้ามถนน ถนนปกติเป็นทางเดินของรถ อุบัติเหตุเกิดได้เสมอ คนเดินมากคนเล่นโทรศัพท์ด้วย การสอนตัวเองให้รู้เวลาสถานที่ ซึ่งแตกต่าง ผมเดินข้ามถนน 100 กว่าเมตร ถึงถนน บนถนน สูงเป็นทางวิ่งของรถไฟฟ้า เรียกว่า BART ชื่อเต็ม Bay Area Transits ครับที่มีชื่อว่า Bay Area คือเมืองรอบๆจะมีทะเลภายในเกาะ มหาสมุทรแปซิฟิค มีอ่าวลอดสะพานโกลเด้นเกจ ครับอยู่มาเกือบ 50 ปี ชอบที่เขียนหนังสือ ผมมองลอดหน้าต่าง มองเห็นสะพานโกลเด้นเกจ อ่าว เกาะ ใกล้ๆจะมีรถวิ่งขึ้นลงตลอดเวลา ครับถ้าพูดถึงอากาศ “ดี” สด เย็นสบาย ภาพประกอบที่สัมผัสได้ คือ กิจกรรมของแต่ละคน

ผมเดินมานั่งที่เก้าอี้ริมถนนใต้รถไฟฟ้า ครับถนนกว้าง มีคนชอบเดินหรือจะจ็อกกิ้ง แม้แต่ขี่จักรยาน ถือได้ว่าเป็นที่ปลอดภัย บรรยากาศ ร่มเย็นรอบตัว มีชีวิตคนเดินมากมาย ความแตกต่างจากพฤติกรรม มันคือละครที่ทุกคนได้รับบทบาทของชีวิต ผมซิบกาแฟ ผมติดมือหนังสือพิมพ์ร้านโกรเซอรี่ของเมือง อย่าง Safeway และ Luck ส่วน Safeway เขาบอกว่าเปิดรับใช้บริการปี 1926 เป็นเวลา 96 ปีแล้วยังจะดำเนินต่อไป ทุกอาทิตย์ 2 ร้านค้าขายจะส่งหนังสือพิมพ์ ลดราคา สิ่งของ การลดราคาจะเริ่มแต่วันพุธ ถึงร้านปิดวันอังคาร หนึ่งอาทิตย์ จะวนเวียน โฆษณา สินค้า “ลดราคา” ครับการลดราคาเป็นส่วนหนึ่งของชีวิต ส่วนตัวของผมพอวันนี้อายุเยอะแล้ว การทานอาหาร ครอบครัว คือ ภรรยาจะบอกตลอดเวลา “กินของที่มีประโยชน์” เลือกซื้อสิ่งมีคุณค่าและอดคำนึงถึงเงินด้วย

ปกติผมจะกินทุกประเภท มีบ้างมากสิ่งไม่กิน ครับการชอบพออาหารเป็นพฤติกรรมของแต่ละคน แตกต่างและชอบพอ ไม่เพียงอาหาร แม้แต่กีฬา ช่วงวัยเรียนมหาวิทยาลัย และช่วงทำงาน บ้ากีฬาเล่นกอล์ฟ ช่วงนั้นมีร้านอาหาร หน้าที่หลักคือชอบไปตลาด ซื้อของยกลังเอง มีรถทรัคเล็กๆ จะออกจากบ้านตี 5 ตรงไปสนามกอล์ฟ จะออกรอบ 9 หลุม และพัท หรือตีลูกทุกวัน กลับมาถึงร้านเกินเที่ยงสม่ำเสมอ เจ้าของร้านเข้าใจ เคยคุยกับลูกๆ พ่อทำงานหนักอยู่ปิดร้านทุกวัน ซื้อของ แต่หน้าที่ทำบัญชีแม่ยึด แม่บอกว่า กอล์ฟคือกีฬาพ่อโปรดปราน แต่ก็ดีใจกับพ่อ เคยได้ถ้วยหลายใบ แม้แต่ บัพเบิ้ลบรี๊ช ครั้งสุดท้ายได้รางวัลกอล์ฟทั้งชุด

แม้เขาอบรมลูก เอาพ่อเป็นตัวอย่างได้ พ่อเรียนหนังสือ พ่อชอบท่องเที่ยวแม้แต่ปี 1973 พ่อเดินทางคนเดียวในยุโรป นานวันสุดท้ายพ่อข้ามเรือไปอังกฤษ พ่อจึงชอบอ่านหนังสือและเขียน