ความจริงหรือความคิด
ไพฑูรย์ สุขสิขารมย์
ความจริงหรือความคิด 31 ธันวาคม 2565

8 December 22 เวลา 11:25 AM เพิ่งออกจาก วายเอ็มซีเอ ไม่เพียงตัวห่วงใยสุขภาพ ลูกๆ ภรรยา แม้แต่หลาน ก็ห่วงสุขภาพ ยาย และตา ครับ เหตุที่ทุกคนห่วงใย คงจะเป็นอายุมาก อยู่กันตามลำพัง ลูกหลานต่างย้ายไปทำงาน ครับเมื่ออยู่กัน 2 คน ก็ต้องดูแลตัวเอง คือการออกกำลังกาย ส่วนตัวผม ตี 4:30 ก็ตื่นแล้ว เหตุผลง่าย ผมจะเข้านอนขึ้นเตียงก่อน 8:00 PM เป็นความเคยชิน จะดูข่าวทีวีก็รู้สึกเริ่มเบื่อ จะไม่ดูหนังบนทีวีมาหลายสิบปีแล้ว เพราะชีวิตผมก็ใช้ความบันเทิงที่สามารถจับต้องได้ด้วยตัวเอง

ตื่น 4:30 จะออกกำลังบนเตียงก่อนเสมอ จะต่างจากการออกกำลังกายที่วายเอ็มซีเอ ที่โน่นจะยืนออกกำลัง มีครูสอน คนออกกำลังเต็มห้อง ครูจะบอกและทำให้ดูบ้าง พวกเราก็ตาม จะมีนอนเล่นเป็นช่วงสุดท้าย และก่อนเลิกจะนอนหลับตา ทางพุทธศาสนา จะบอกว่าปล่อยวาง ช่วงการปล่อยวาง ผลที่ได้ คือใจไม่คิดอะไร

แต่การเล่นช่วงตื่น จะใช้เวลา 30 นาที บีบแขน ทุบเบาๆ ตามแขน หน้าอก และบีบตามนิ้วมือ ครับนิ้วมือจำเป็น เคยมีนิ้วก้อย “ล็อค” งอยืดไม่ได้ ต้องค่อยๆ ปล่อยล็อค คือช่วยยืด จะยกขา หมุนเท้า ยกเท้าขึ้นลง พร้อมแขนข้างละ 30 ครั้ง สุดท้ายจะนอนราบ แล้วยกตัวขึ้น นั่งทำตอนแรกไม่ได้ พอถึงวันนี้ โอเค แต่ก็ต้องมีความพยายามบ้าง ครับโลกของคนสูงอายุ มีสิ่งมากมายต้องพยายามปรับปรุง จะเป็นเรื่องของสุขภาพ ครับการดูแลตัวเองช่วยให้ระบบการทำหน้าที่ของร่างกาย ยังสามารถดูแลตัวเองได้

วันนี้ออกจากคลาสแล้ว เวลาของชีวิตมีมากมาย ผมเดินไปที่รถ รถจะจอดได้ 90 นาที คือ ชั่วโมงครึ่ง เจ้าหน้าที่จะขยัน พอ 90 นาทีก็จะค่อยขับรถ มองดูล้อรถที่มีขีดหรือเปล่า ถ้ามีก็ย่อมได้ตั๋ว เดี๋ยวนี้ราคา 30 เหรียญกว่า รถที่ไม่มีขีดล้อรถ เจ้าหน้าที่ก็ถือโอกาสขีด พูดลอยๆ เจอกันอีก 90 นาที รถพังไม่รู้เรื่อง แต่เจ้าของรถไม่ฟังปฏิบัติตาม

วันนี้ผมขับรถไฟฟ้า Chevy Bolt ลูกสาวซื้อใหม่ให้ ลูกสาวบอกว่าอยากดูแลพ่อแม่ที่จอดรถ ผมมีรถ Volvo เก่าหนึ่งคัน เก็บไว้ให้หลายชาย คนกลางอายุ 14 ปี ชอบของแบบเก่า (คลาสสิค) หลานคนเล็กอายุ 12 ขวบ ไม่สนใจอะไร แต่เล่นซ็อกเกอร์เก่ง ทีมชนะเลิศ คนโตอายุ 16 ขวบ พ่อแม่เก็บรถเก่าไว้ให้ คงอีกไม่นานก็คงขับรถ ครับเด็กๆโตเร็ว ไปโรงเรียนเอกชน Country Day ที่มิชิแกน ทั้ง 3 คน คนโตก็เล่นซ็อกเกอร์

ส่วนตัวผมเคยเป็นครู จบบางเสน 1968 มาอเมริกาขึ้นไปเรียนมหาวิทยาลัยที่ออริกอน 1969 ส่วนแม่บ้านมาอเมริกาก่อนผม เหตุผลที่บอก การเดินทาง ลูกหลานจะมียีนส์เหล่านี้อยู่ในกาย อย่างลูกสาวไปเรียนหมอที่อังกฤษ จบมาเป็นหมอฝึกหัด (Residency) ที่แอนอาร์เบอร์ ลูกชายไปเรียนเออไวด์ เรียนจบปริญญาเอกที่มหาวิทยลัย “มานัว” ที่ฮาวาย ครับเหตุผลพวกครอบครัวชอบเดินทาง จะเรียน หาความรู้ ทุกสิ่งคือประสบการณ์ อีกอาทิตย์เราจะยกครอบครัวไปเที่ยว ตาฮิติ ลูกชายบอกว่าเราเดินเล่นกัน อาบน้ำ ลูกชายซื้อรองเท้าแบบเดินชายหาดให้ เพราะรู้ว่าผมเป็นคนไม่สนใจอะไร

ตอนเรียนออริกอน ปิดเทอมจะออกเดินทาง ท่องเที่ยวไปตามรัฐต่างๆ อย่างวอชิงตันสเตท แคนาดา (แวนคูเวอร์) เคยนั่งเรือไปตาเกาะ ตามอ่าวทางเหนือ จากออริกอน วอชิงตัน แวนคูเวอร์ มีเกาะมากมาย เคยไปค้างเกาะซานฮวน ดูปลาวาฬ เกาะวิกตอเรีย มีสวนบุพชาติการเด้นส์ สวย ครับ 1973 ผมเดินทางในยุโรปคนเดียว 2-3 เดือน บินจากนิวยอร์ก ไปลงที่ โปรตุเกส หลังจากนั้นนั่งรถไฟไปทั่วยุโรปขึ้นเหนือ ที่สแกนดิเนเวีย แม้แต่ไปดูแข่งรถกรังปรีซ์ที่มอโนโค นั่งที่ไหล่เขา ตอนกลับนั่งเรือไปอังกฤษ ต่อรถไฟไปลอนดอน ลงรถไฟที่โซโห (ไชน่าทาวน์) หาที่นอนถูกๆ ไม่มี นั่งรถไฟขึ้นเหนือ นั่งหลับในรถไฟ

หลังจากออกจาก วายเอ็มซีเอ ขับรถไปจอดย่านธุรกิจ ซื้อกาแฟจากแม็กโดนัล ตอนนี้ ราคาเพิ่มอีก 10 เซ็นต์ ครับอะไรๆ ก็ขึ้นราคา ยิ่งช่วงโรคโควิด การทำมาหากินไม่คึกคักเหมือนเก่า ได้กาแฟ มาที่รถจอดที่ร้านกาแฟ หยิบขนมปังมีไส้หวาน ซื้อจากร้านจีน เมื่อวานนี้ผมชอบขนมปังยี่ห้อนี้นุ่ม หวานมันด้วยไส้ ราคาอันละเหรียญกว่านิด ซิบกาแฟร้อนๆ ไม่เติมครีมและน้ำตาล ครับชีวิตก็ยังชอบของหวาน อย่างคุ้กกี้จะมีติดบ้านเสมอ เสียงแว่วระวังเบาหวานเน้อ

อ้อเมื่อวานทำขนมบ้าบิ่น ง่าย อร่อย ข้าวเหนียวถ้วยหนึ่ง น้ำตาลถ้วยหนึ่ง มะพร้าวขูดถ้วยหนึ่ง ผสมรวม ใส่เกลือช้อนชา ใส่นม คน เติมถั่วครึ่งถ้วย ถั่วยี่ห้ออะไรก็ได้

ครับบ้าบิ่น ทำง่าย หวานอร่อย กาแฟร้อนๆ การพิจารณาขึ้นอยู่กับแต่ละคน

ผมถือกาแฟ จอดรถไว้ เดินไปตามย่านคน ครับคนเคยบอกผมว่า พวกไร้บ้าน (Homeless) แคลิฟอร์เนียมีเยอะ เหมือนกับนิวยอร์ก ผมมองดูคนไร้บ้านมีเต้นท์หลายหลัง ของ(ขยะ) มีมากมาย ครับพวกไร้บ้านอาจไปหามาเอง แต่ก็มีคนนำมาให้ ผมเคยผ่านพวกเขาบ่อย กลางวันไม่เคยเห็นออกมา

ครับอดคิดว่า ไม่รู้ชีวิตพวกเขามาถึงจุดนี้ได้อย่างไร อเมริกาขยัน ไม่เลือกงานก็ย่อมมีงานทำ อย่างเมืองโอ๊คแลนด์ มีคนไร้บ้านเยอะ แมร์ผู้หญิง รณรงค์ หาที่อยู่ ช่วยเหลือ ครับจะชนะคงลำบาก สาเหตุอันหนึ่งอาจติดยา มีผู้หญิง อายุน่าจะ 30 กว่า เดินนุ่งกระโปรงสั้น สามารถเห็นก้นเปลือย ครับน่าสงสารที่ชีวิต เดินทางมาถึงทางไร้อนาคตได้อย่างไร

กลางถนนฝั่งซ้ายขวา มีถนนเป็นแบบฟุตบาธ มีชายอายุกลางคน ยืนขอเงินครับ ถึงจะดูแข็งแรง มีความเป็นปกติ ไม่เข้าข่ายวิกลจริต แต่ก็เลือกขอเงิน แบบไม่ทำงาน ครับพอรถจอดไฟแดง เขาจะเดินไปตามรถทุกครั้ง มองหน้า ไม่พูด สายตาขอความเห็นใจ ครับโลกของคนถึงภายนอกดูปกติ แข็งแรง มีความคิด แต่สิ่งที่นักจิตแพทย์ลงความคิดต้องกัน ครับเขาเสียความสมดุล คือความคิดรับผิดชอบต่อชีวิต บ่ายเย็นผมซิบกาแฟ เดินผ่านร้านขายของที่คนบริจาค “ซาเวย์ชั่นอามี่” ที่จอดรถยังพอว่าง ร้านใหญ่คนนิยม ผมชอบเดิน ตอนมาใหม่ๆเรียนปริญญาโทที่ออริกอน (1969) นิยมใช้บริการซื้อของใช้ที่นี่ แม้แต่เก้าอี้นั่งทำการบ้าน ราคาไม่แพง เคยซื้อกางเกง รองเท้า ครับสิ่งที่ผมซื้อ เข้าข่ายหลังของเศรษฐกิจพอเพียงหรือเปล่า การวิเคราะห์เป็นหน้าที่ของทุกคน

ที่เกาะกลางถนน มีครอบครัว พ่อแม่ลูกเล็ก 2 คน พ่อเล่นดนตรี (กีต้าร์) แม่คลอเพลง ลูกเดินมองตามรถจอดไฟแดง ครับ ชีวิตคนในโลกหลายพันล้านคน ชีวิตคนต่างแตกต่าง คงจะเหมือนกราฟปลายด้านโค้งต่ำเกือบจรดทางตรง ทางหัวคือคนร่ำรวย เงินทองเยอะแยะ ใช้ไม่หมด แต่คิดดูว่าทุกคนมีความสุขขนาดไหน อีกด้านกราฟติดกับพื้น ชีวิตคนละขั้วกับกราฟอีกด้าน มากมายของชีวิตขาดตกบกพร่องเกือบทุกอย่าง

กราฟตรงกลางมีเยอะ สูง ครับ คือชีวิตคน คนที่ปกติ มีความเฉลี่ย มีงานทำ มีครอบครัว มีชีวิตไม่เดือดร้อน อาจจะยึดหลักการมีชีวิตไม่เดือดร้อน อาจจะยึดหลักการมีชีวิตเรียบง่าย น่าจะไปวัด ฟังพระเทศน์ สามารถพัฒนาหลักของพุทธศาสนา มีลูกหลานแปรให้ชีวิต คือขยันเก็บออม มีลูกหลานลงทุนทางการศึกษา การศึกษาจำเป็นกับชีวิต ถ้าเริ่มจากโรงเรียนดี คำว่าดี เด็กในห้องไม่มาก โรงเรียนมีอุปกรณ์ ครูเอาใจใส่ เด็กมีพฤติกรรมของคนดี ไม่ก้าวร้าว เชื่อฟังพ่อแม่ ขยันเรียน ครับทุกชีวิต ธรรมชาติสร้างความชอบพอที่ชีวิตจะเดินทางให้ เสียงคุณของศาสนา “สาธุ”