โชคดีเป็นความปกติของชีวิตผมจะตื่นราวๆ 5:30 AM ทุกเช้า การตื่นแต่เช้าเป็นความเคยชินของชีวิต เกิดอยุธยา ต่างจังหวัดบ้านติดแม่น้ำป่าสัก ยุคผมเป็นเด็กรอบๆ บ้าน มีเด็กรุ่นเดียวหลายคน แถวบ้านยุคโน้นไม่มีไฟฟ้า ใช้ตะเกียง ตะเกียงที่ใช้ให้แสงสว่าง ดูหนังสือทำการบ้าน แต่ตะเกียงมีควันเยอะ ครู พ่อแม่ เตือน ควันไฟเวลาหายใจ เข้าออกจะสูดควันเข้าปอด โอกาสเป็นมะเร็งมีขึ้น
ครับวันนี้ 26 กรกฎาคม ผมอายุ 86 ปี วัย 86 ผมคิดกับตัวเอง ยังดูแลตัวเองได้ดี หลังจากรู้ตัวตื่น ทุกเช้าจะออกกำลังบนเตียง ยกแขน ขา บีบตัว การออกกำลังตอนเช้า ผมมีความคุ้นเคยตัวแต่เด็ก ตอนเรียนประถมอยู่อยุธยา ไฟฟ้าไม่มี อ่านหนังสือ หรือทำการบ้านใช้ตะเกียง มีควัน พอเริ่มเรียนมัธยม แม่สั่งมาเรียนหนังสือ มัธยมวัดราชบพิธ อยู่กับสมเด็จพระสังฆราช สมเด็จพระพุทธโฆษาจารย์ ทุกวันอาทิตย์ 2 วัน สังฆราชจะเรียกผมไปคุยเรื่องการเรียน การบ้าน ตารางการเรียน สังฆราชสอนให้ผมตื่นแต่เช้า ทำการบ้าน อ่านหนังสือ
ช่วงมัธยมกลายเป็นความเคยชิน จากคำสอนของสังฆราช จะตื่นเช้า อ่านหนังสือ พอจบมัธยมสอบชิงทุนเรียนครูได้ ตอนไปเรียนครู อยู่หอพัก นักเรียนทุนมาจากทุกจังหวัดในประเทศไทย ทุกเช้ามืด เสาร์-อาทิตย์ อาจารย์ของหอพักจะมาปลุก ราวๆ 5:00 AM ให้พร้อมทุกคน ราวๆ 5:30 AM มายืนเข้าแถว จะตื่นเช้าทุกวันอ่านหนังสือ อาบน้ำ 7:30 AM จะมายืนเข้าแถว ถือช้อนและซ่อม เข้าโรงครัว หยิบอาหารเช้า เป็นถาดหลุม มาทานโรงอาหาร ครับกิจกรรมทุกเช้า ตอนอยู่วัด ตอนเป็นนักเรียนทุน คือพฤติกรรม ช่วยการเรียนดูแลตัวเอง
ช่วงเรียน กศ.บ. (การศึกษาบัณฑิต) ที่วิทยาลัยครูบางแสน ก็ยังมีพฤติกรรมตื่นเช้า วันธรรมดาจันทร์-ศุกร์ อาบน้ำ ทำการบ้าน อ่านหนังสือ พอวันสุดสัปดาห์ ก็ออกไปออกกำลัง วิ่งไปหาด
ครับช่วงเรียนมหาวิทยาลัย ออริกอน 1969 เรียนปริญญาโท อยู่หอ ผมก็ติดนิสัยการตื่นเช้า ทำการบ้าน อ่านหนังสือ และเดินออกกำลังกาย ช่วงเรียนออริกอน วิทยาลัยอยู่เนินเขา ออกกำลังเดินขึ้นลง ทำให้สุขภาพดี
พูดถึงเรื่องมหาวิทยาลัย เมื่อวานหลานชายคนโต ชื่อ อนันต์ โทรมาบอกว่าจะย้ายไปเรียนมหาวิทยาลัยที่แคนาดา ผมบอกกับหลานดีใจด้วย เคยคุยกับหลานช่วง 2 เดือน ช่วงหลานได้รับจดหมายตอบรับจากมหาวิทยาลัย แม้แต่มหาวิทยาลัยใกล้บ้าน อย่างมิชิแกน ผมคุยกับหลาน เนื้อวิชาการสอน มหาวิทยาลัยไม่แตกต่างกันมากนัก แต่การเลือกมหาวิทยาลัยที่เรียกว่าประสบการณ์ คือทักษะ สิ่งแวดล้อมของมหาวิทยาลัย สำหรับผมคิดว่าจำเป็นมาก
เหมือนผม ช่วงเรียนปริญญาโท ที่มหาวิทยาลัยออริกอน ทุกปิดเทอม ผมจะออกเดินทาง สัมผัสกับประสบการณ์ตรง อย่างเทอมแรกจะนั่งรถเกรฮาวไปรัฐทางตะวันออก อยู่โรงแรมถูกๆ
ปี 1973 ผมใช้ชีวิตคนเดียวในยุโรป การไปยุโรปช่วงโน้น ซื้อตั๋วรถไฟ (Eurail Pass) เกิน 3 เดือน เหตุผลเราสามารถนั่งรถไฟ ฟรีตลอดในยุโรป อย่างวันหนึ่งช่วงเย็น ผมออกจากรถไฟที่สถานีวิคตอเรีย ลอนดอน ประเทศอังกฤษ ก่อนไปทุกที่ ผมจะไปพักโรงแรมถูกๆ เรียกว่า “โฮสเทล” แต่เย็นวันนั้น หลังจากเดินทางจากฝรั่งเศส มาอังกฤษ นั่งรถไฟในอังกฤษ มาลอนดอนหาโรงแรมถูกๆ ไม่มี ตัดสินใจกลับมาที่สถานีรถไฟ วิคตอเรีย สำหรับการนั่งรถไฟ ในทุกประเทศยุโรปผมซื้อตั๋วแบบนั่งฟรีได้ทุกประเทศ
ลารถไฟที่ลอนดอน เดินหาโรงแรมราคาประหยัดไม่มีนั่งรถประจำทางมาสถานีวิคตอเรีย นั่งรถไฟไปสก๊อตแลนด์ ครับหลับในรถไฟ เช้าลงรถไฟที่สก๊อตแลนด์ เป็นรัฐทางเหนือของอังกฤษ โรงแรมราคายุติธรรม ว่าง ผมตกลงขอค้างคืน 2 คืน เหตุผลอยู่ 2 คืน จะได้มีเวลาท่องเที่ยว หาประสบการณ์ใหม่ๆ
เหมือนกับลูกผม สอนเรื่องการเรียนควรเลือกมหาวิทยาลัยห่างจากบ้าน เพื่อสัมผัสกับสิ่งใหม่ๆ เกิดการเรียนรู้ “การเรียนรู้ที่ดี ไม่เพียงอ่านจากตำรา หรือฟังคนเล่า สิ่งจำเป็นคือเราสัมผัสโดยตรง”
ผมอยากกลับมาตามที่เคยสอนตัวเองเรื่องประสบการณ์ ผมมีลูกสองคน คนโตจบหมอจากเคมบริดจ์ ตอนลูกสาวเข้ามหาวิทยาลัย อยากให้คำนึงถึงมหาวิทยาลัย และประสบการณ์ที่เราจะได้
ลูกสาววันหนึ่งเคยเล่า ตอนเด็กไปวัดพุทธานุสรณ์ เมืองฟรีมอนต์ ห่างจากบ้านเกือบชั่วโมง พาลูกไปเรียนภาษาไทยที่วัด วันหนึ่งลูกสาวกับเพื่อนวิ่งเล่น เพื่อนหกล้ม เข่าเป็นแผล ลูกสาวเข้าไปเอายาและสำลี ชุบน้ำทำความสะอาดให้เพื่อน หลังจากกลับบ้าน ลูกสาวเล่าเรื่อยช่วยเพื่อน เกี่ยวกับแผลและบอกว่า โตขึ้นจะเป็นหมอ
ครับลูกสาว สานฝัน จบไฮสกูล คอลเลจเพร็ป (เอกชน) ตั้งใจเรียนหมอ เข้ายูซีเดวิส เป็นมหาวิทยาลัยห่างจากบ้านราวๆ 50 ไมล์ เป็นมหาวิทยาลัยระบบยูซี ของรัฐแคลิฟอร์เนียใกล้บ้านผม มีมหาวิทยาลัยมีชื่อ ชื่อยูซีเบิร์คเล่ย์ แต่ไม่มีสาขาเรียนแพทย์ ลูกสาวเลือกจะเรียนหมอ เลยไปสอบเข้าเรียนมีสาขาแพทย์ คือยูซีเดวิส
การเรียนหมอในอเมริกา หลังจากจบไฮสกูล เรียนต่ออีก 11 ปี หลังจากจบไฮสกูลสอบเข้าเตรียมแพทย์ที่ยูซีเดวิส เรียน 4 ปี จบสอบเข้าเรียนหมอที่มหาวิทยาลัย เคมบริดจ์ ประเทศอังกฤษ อีก 4 ปี เหตุที่ลูกสาวเลือกไปเรียนมหาวิทยาลัยในประเทศอังกฤษ คือต้องการสิ่งรอบตัวใหม่ๆ อย่างอากาศ สิ่งแวดล้อม สังคม