ความจริงหรือความคิด
ไพฑูรย์ สุขสิขารมย์
ความจริงหรือความคิด 17 กรกฎาคม 2564

มองอากาศวันอาทิตย์ 27 มิถุนายน ถ้าช่วงทำงานเป็นครู ทุกเดือนเงินแต่ละเดือนไม่เคยพอใช้ ทั้งๆที่จบปริญญาตรี ทุกกลางเดือน จะกู้เงินจากกระทรวงศึกษาที่เรียกว่าฉุกเฉิน (ฉ.ฉ.) เป็นความปกติของชีวิต อดคิดถึงอดีตตอนจบปริญญาโท จากวิทยาลัยออริกอน ปริญญาโท ปี (1970) วุฒิ MAT คิดว่าจะรับอาชีพเป็นครู อาชีพครูในอเมริกา เงินเดือนพอใช้ สำคัญทุกเดือนรัฐเก็บเงินสะสม ครับเผลอเดี๋ยวนี้อายุเกือบ 65 ปี เกษียณครับ เงินสะสมที่เรียกว่าบำนาญ พอใช้ไม่เดือดร้อน

แต่ผมก็ไม่เลือกอาชีพการเป็นครู เหตุผลยังกังวลว่าภาษาอังกฤษ ต้องใช้กับเด็กตลอดเวลา อาจติดคำเยสๆ โนๆ คือกลัวความไม่คล่องตัว แต่โดยปกติ ตอนจบอายุไม่มาก ภาษามีความเข้าใจที่เรียกว่าสามารถทำมาหากินได้ แต่ใจไม่สนอาชีพ พอแต่งงาน แม่บ้านเปิดร้านไทย คำตอบ “เยส” ทั้งๆที่เป็นมือใหม่เรื่องธุรกิจ แต่มีคนหนุนหลัง ถ้าผิดพลาดอาจได้รับ ความช่วยแนะนำ ถ้าเป็นเพื่อนคงพูด “ยูโหน” ยังเช้า หลานสองคนอายุ 12 และ 10 อยู่ด้วย ส่วนคนโตอายุ 14 กลับไปกับพ่อและแม่ ต้องกวดวิชาเข้าไฮสกูล ครับทั้งๆที่โรงเรียนที่จะเข้าเป็นโรงเรียนที่กำลังเรียนเกรด 8 เรียนมา 4 ปี และน้องสองคนก็เรียนโรงเรียนนี้ ครับอดคิดโรงเรียนเอกชนดีๆทุกโรงเรียน ทั้งๆที่เก็บเงินแพงผู้ปกครองก็ไม่เคยบ่น ทำงานหนักทุกวันเหมือนผม และแม่บ้าน เงินทำงานจะใช้ แต่ละเหรียญคิดแล้วคิดอีก ครับถึงเวลาสิ้นเดือน ต้องจ่ายค่าเทอม เงินขาดเพียงเหรียญเดียว “งบบัญชียังไม่สามารถปิดได้” จดหมายจากโรงเรียนย่อมเขียนส่งผ่านมือลูกถึงพ่อแม่ “เงินยังไม่ได้รับเน้อสิ้นเดือนแล้ว โรงเรียนไม่อยากพูดว่าเป็นผลต่อเด็ก”

ผมตื่นเช้า วันนี้ประหลาด เอาซีเรียล ใส่ถ้วยเอา นมทำจากถั่ว Almonds ใส่เติมน้ำผึ้งนิดหนึ่ง พอหลานตามคำพูดของผู้ใหญ่ บอกว่าหวาน “ปะแล่ม” ผมอาจเขียนสะกดผิด ช่างเถอะ วัยของผมหลายคนหลงลืม เดินต้องมีคนประคอง ไปไหนก็พึ่งลูกเมีย สำหรับผมยังโอเค ถึงจะไม่ร้อยเปอร์เซ็นต์ ในฐานะอาชีพเก่าเป็นครู ถ้าวิจารย์ให้เกรด อย่างน้อย B+ หรือ A- ผมหมายถึงการดูแลตัวเอง ยังสมบูรณ์

คำว่าหวานปะแล่ม หวานเพียงให้รับรู้รสหวาน ชูรสซีเรียลกับนม วันนี้แม่บ้านชวนไปวัดมงคลรัตนาราม วัดนี้เป็นวัดแรกขอเบย์เอเรีย เป็นวัดในเมืองเบิร์คเล่ย์ คนไทยรุ่นเก่าหรือรุ่นใหม่ ชีวิตรักการเรียน พอจบ High School ส่วนมากเป็นเด็ก เรียนโรงเรียนอินเตอร์ที่อยากมาเรียนอเมริกา หลายคนเลือก มหาวิทยาลัยยูซีเบิร์คเล่ย์ ยิ่งเดี๋ยวนี้ รองนายกรัฐมนตรี ด็อกเตอร์พิษณุ เครืองาน ท่านจบกฎหมายที่นี่

ทุกวันอาทิตย์วัดมงคลรัตนาราม เปิดร้านอาหารไทย เปิดมาหลายปี คนเบิร์คเล่ย์นิยม โดยเฉพาะเด็กมหาวิทยาลัย เด็กรุ่นนี้ ความคิดไม่เพียงอาหาร มากสิ่งพัฒนา เด็กรุ่นนี้พัฒนาตัวเองเรื่องอาหาร อาหารทุกยี่ห้อจะตีตราของชาติไหน คนรุ่นนี้ไม่เคยรังเกียจที่จะลองทาน ยิ่งอาหารไทย ที่ขายในวัดมงคล มีก๋วยเตี๋ยวเนื้อ มีคนยืนต่อแถวตลอดเวลา ชามละ 8 เหรียญ ข้างๆ ขนมครกคนยืนต่อแถวตลอดเวลา ขนมครกหาทานยาก ปกติขายออเดอร์ละ 8 เหรียญ มีขนมครก 9 คู่ ผมอดจับติดต่อ น่าจะขายออเดอร์ละ 8 เหรียญ 8 คู่ แต่ทุกออเดอร์แถมให้หนึ่งคู่ เป็น 9 คู่ สิ่งที่ผมพูดเป็นเพียงระบบธุรกิจการค้า เท่ากับคืนกำไรให้ผู้อุดหนุน

ครับมีไก่ย่างกับข้าวเหนียว ฝรั่งทานไก่กับข้าวเหนียว ไก่ย่างที่ขายตามท้องตลาดอเมริกาสั่งเต็มออเดอร์จะมากับ แมชโปเตเต้ หรืออาจจะมากับสลัดทำจากกระหล่ำปลี ผมถามหลาน 2 คน ไก่วัดกับไก่ของท่านเคอร์เนิล ของใครอร่อยกว่ากัน หลานตอบว่าของวัดมงคล ผมยิ้มเห็นพ้องช่วงชีวิตเป็นหนุ่ม ชอบไก่ย่างสนามมวย

อดนึกถึงวันอดีตมีเพื่อนสนิทอีก 2 คน อาจารย์สนอง และอาจารย์สวัสดิ์ ทั้ง 2 ท่านสอนมหาวิทยาลัยในเมืองไทย ช่วงทำงานด้วยกัน ช่วยปลายเดือนรวบรวมเงิน ควักกระเป๋า กลับกระเป๋าได้เงินไม่มาก รวมหุ้นซื้อไก่ งวดนั้นซื้อคอไก่ราคาถูกด้วย และข้าวเหนียวหิ้วถุงไปนั่งทานที่ศาลาของโรงเรียนช่วงวันหยุด ครับความสุขเกิดจากความใกล้ชิด ไก่เป็นเพียงตัวผสม ครับวัดมงคลวันนี้ คนมาตั้งแต่ 10:00 AM ช่วง 11:00 AM แถวทั้ง 3 ขนมครก ก๋วยเตี๋ยว และประเภทข้าวแกง แถวยาว คนมาทานได้อาหาร หลายคนหนุ่มสาวเลือกนั่งกับพื้น แทนที่จะเป็นโต๊ะ คงนิยมคลุกคลีกับธรรมชาติของชีวิต ครับเป็นสูตรสำเร็จ การมีชีวิตถ้ารู้จักระบบการมีชีวิตแบบปกติ เรียบง่าย ไม่ฟุ้งเฟ้อ อาหารทุกอย่างส่วนผสมเรียบง่าย ผมว่าร่างกายก็พอใจ แต่หลายคนบอกว่าไม่จริง ร่างกายต้องการของกินอร่อย ส่วนผสมและคนทำต้องประยุกต์ เหมือนกับเกรดน้ำมันรถ มี 1.ปกติ 2.มีเดี้ยม 3.และซุปเปอร์ ผมอดติงคนที่เข้าเติมน้ำมัน ส่วนมากเหมือนผมเติมน้ำมันปกติ ราคาปกติ เครื่องรถย่อมปกติ ระยะเวลารถรับใช้ ก็นานเท่ากับคุณภาพน้ำมันเกรดสูงขึ้น

ครับผมไม่มีข้อวิจารย์ ความพอใจในแต่จิตวิญญาณ การชอบพอ ยึดมั่นของแต่ละคน แตกต่างหลายท่านบอกว่าการฝึกให้มีใจเติบจะมีผล ผมเดินไปร้านขายชาเย็นของวัดแก้วละ 2 เหรียญ คนขายคือคุณอุ้ย ชื่อเรียกเล่น ชื่อจริง ธุติพร ด่านสว่างกุล เดินยิ้มรับ รับชาเย็นกี่ถ้วยคะ หลานมาด้วยวันนี้ ครับคุณอุ้ย จิตใต้สำนึกผูกพันกับวัด งานวัดต้องการแรงงาน ทั้งๆที่อยู่ไกล จะมาหยิบยื่นแรงงาน กายใจให้วัด ผมมองรอบๆ คนมากมาย อยู่หลังยืนให้บริการต่างอุทิศ กาย ใจ แรงงานให้วัด และเป็นความจริง การอุทิศแรงงาน กายใจ สิ่งที่เห็นคือรอยยิ้ม กระตือรือร้นในงาน พี่คะเติมครีมอีกนิดนะ ชาจะได้หวานและมัน ขอบคุณครับผมตอบ