ความจริงหรือความคิด
ไพฑูรย์ สุขสิขารมย์
ความจริงหรือความคิด 26 กรกฎาคม 2568

6:50 AM เช้าของวันพฤหัสบดีที่ 5 พฤษภาคม ปกติผมจะมานั่งโต๊ะตัวนี้ ตั้งอยู่ที่มุมของบ้าน ซิบกาแฟ ยังร้อน ยี่ห้อ “เฟร้นโรส” ผมจะดื่มกาแฟทุกเช้าวันละไม่เกินแก้ว การดื่มกาแฟ ผมเคยเล่าไม่เติมน้ำตาลและครีม การดื่มกาแฟอาจแตกต่างจากทานอาหาร อาหารผมนิยมปรุงต่อ ให้ได้รสตามความชอบ

ถอยหลังเกิน 15 ปี ช่วงทุกเย็นอาหารมื้อเย็น ชอบมานั่งทานอาหารที่โต๊ะตัวนี้ จะมีไวน์ชาโดเนย์เย็นค่อนแก้ว เกิน 15 ปี ผมหยุดดื่มไวน์เพราะดื่มไวน์ ถึงไม่เมา แต่นิสัยเสีย อย่างชอบโต้แย้งเวลาแม่บ้านเตือน เป็นความบกพร่องของชีวิต พอถึงวันนี้ ของมึนเมาเลิกแตะต้อง ตกเย็นจะดื่มหนึ่งแก้ว “นม” เพราะผมเชื่อระบบขับถ่าวยว่า พวกน้ำนมจะช่วยให้ระบบร่างกายดีขึ้น

หยุดเขียนหนังสือ หยิบแก้วกาแฟซิบมองลอดหน้าต่าง ธรรมชาติรอบตัว สวยงาม บ้านตั้งอยู่หัวมุม 4 แยก ที่สูง ถนนชื่อ Stockton Ave. ลาดลงจากภูเขาหลังบ้าน ลาดลงสู่อ่าวเรียก เบย์แอเรีย เป็นความปกติของชีวิต ทุกวันเวลานั่งอ่านหนังสือ จะมานั่งที่โต๊ะตัวนี้ มองลงต่ำจากหน้าต่าง จะมีรถวิ่งไม่มากนัก เพราะเป็นบ้านอยู่อาศัย หลังบ้านเป็นภูเขา ทางลงบ้านของคนอยู่ภูเขา มีหลายทาง ถนนจึงว่าง

มองบรรยากาศด้านหน้า เป็นทางลงบล็อกเดียวจะเห็นร้าน 7-11 อดขอบคุณ ร้านเปิด 24 ชั่วโมง ของใช้ในบ้านเกิดขาดมือ ดึกดื่น ก็สามารถแวะไปใช้บริการได้ อดขอบคุณร้าน 7-11 ถึงผมไม่ได้อุดหนุนบ่อย เหตุผลชีวิตปลายทาง ของบำรุงชีวิตเวลาซื้อจะนิยมกักตุนไว้

แดดวันนี้เช้าสดใส ไร้หมอก มองจากบ้านไม่เกินไมล์ จะเป็นทะเลภายในกว้าง เช้าไร้ “ลม” น้ำสงบ น้ำกับชีวิตผมเกื้อกูลแต่เด็ก ช่วงเด็กเกิดที่อยุธยา บ้านติดแม่น้ำป่าสัก ชอบอาบน้ำในแม่น้ำมากกว่าบนบ้าน อายในแม่น้ำว่ายน้ำ ดำน้ำ งม “หอยกาบ” ชีวิตผมอยู่ใกล้กับน้ำ เกิดอยุธยาติดแม่น้ำป่าสัก เรียนมหาวิทยาลัย “บางแสน” เดินไม่ไกลก็ถึงหาดบางแสน เห็นน้ำทะเลสงบ วันหยุดนักท่องเที่ยวมาจากต่างที่ ลงว่ายน้ำ ผมอยู่บางแสน เรียนจบ กศ.บ. (การศึกษาบัณฑิต) พูดถึงไปเล่นน้ำทะเลนับครั้งได้

1969 มาเรียนออริกอน วิทยาลัยอยู่ติดเขา แหล่งน้ำจะหาว่ายไม่มี คงอาบแต่น้ำฝักบัว ปี 2500 ผมย้ายไปอยู่หอ โรงเรียนวิทยาลัยพระนคร เป็นรุ่นที่ 2 สอบได้ทุน ไปอยู่หอเวลาอาบน้ำไปที่อาบน้ำ ทุกคนตักน้ำอาบ ยืนเป็นแถว ตักน้ำเป็นอ่างสูงยาว ตอนไปใหม่ๆ อาย เวลาอาบไม่มีผ้า พอไม่นานชิน ทุกคนเหมือนกันหมด “ชิน”

หยุดซิบกาแฟ เริ่มเย็น แปลกกาแฟเวลาทำเสร็จใหม่ๆ ร้อน ค่อยซิบ ความรับรู้กาแฟร้อนๆ ทำให้ตื่นตัว ผมหยิบ “ชีสพัฟ” เข้าปาก ตอนเช้าชีสพัฟ เป็นของชอบ ซื้อจากร้าน Fat Apple ร้านใกล้บ้าน ถอยหลังไปหลายปี ชีสพัฟ ราคาเหรียญเกินนิด วันนี้ราคาเกิน 2 เหรียญ

นักเศรษฐศาสตร์ พูดคล้องเป็นความหมายอันเดียวกัน “สินค้าทุกสิ่ง” ราคาจะปรับตัวแพงขึ้นตลอด เหตุผล ค่าแรงงานจะปรับตัว เมื่อแรงงานปรับตัว สินค้าทุกอย่างต้องปรับตัวด้วย เพราะรอบตัวสินค้า ค่าเช่าห้อง ค่าคนงาน ค่าขยะ น้ำมันรถ แม้แต่คนมาซื้อบริการ ราคาก็ขึ้นตาม ผมคิดก็อดยิ้มกับตัว นี่ดีนะลูกๆ เติบโต ช่วยตัวเองได้ ไม่ต้องควักกระเป๋า ส่งเงินให้เรียน โดยเฉพาะโรงเรียน ขอย้อนตามเวลา ผมกับแม่บ้าน ช่วงมีลูก นิยมส่งลูกแต่เล็ก เรียนโรงเรียนเอกชน เพราะคิดว่าครูโรงเรียนเอกชน เอาใจใส่ สอน ให้การบ้าน ให้คำแนะเรื่องการบ้าน

คงเหมือนพ่อและแม่ผม เกิดอยุธยา พอจบประถม พ่อแม่เห็นพ้องกัน ต้องส่งลูกไปเรียนกรุงเทพฯ เพราะกรุงเทพฯ เป็นเมืองหลวง หลักของเมืองหลวง ยุคผมมากสิ่งพัฒนาก้าวไปไกลเกินอยุธยา อย่างช่วงผมอยู่มัธยมนั่งรถราง แต่ถ้าเรียนอยุธยา ช่วงผมเรียน ไปเรียนต้องนั่งเรือจ้าง หรือเรือเมล์

ทั้ง 2 อย่างเด็กรุ่นนี้พอพูดถึงเรือจ้าง อาจต้องติดเรือจ้าง จะมีคนแจว บางวันจะมีคนช่วยพายหัวเรือ ให้การเดินทางเร็วขึ้น

หยุดเรียน มองลอดหน้าต่าง เวลา 7:33 AM ตรงห้องมองลอดหน้าต่าง มีคนเดิน ครับแถวบ้านผู้สูงอายุมาก เด็กๆ มีไม่มากเหมือนผมกับแม่บ้าน อยู่บ้านหลังนี้เกิน 40 ปี ตอนมาอยู่ใหม่ๆ มีลูก 2 คน ยังมีโอกาสขับไปส่งโรงเรียน พอจบไฮสกูล ลูกก็ย้ายไปเมืองมหาวิทยาลัย พอจบมหาวิทยาลัย เด็กๆ ทุกที่จะเหมือนกัน การไปเรียนมหาวิทยาลัยต้องไปเมืองอื่น อยู่หอพัก เรียน เรียนจบหางานทำ ช่วงออกจากบ้านไปมหาวิทยาลัยเกือบทุกคน จะไม่กลับมานอนบ้านกับพ่อแม่อีก

อย่างผมเคยเล่า พอลูกจบไฮสกูลก็เข้ามหาวิทยาลัย ก็ออกจากบ้านไปมหาวิทยาลัยพอจบ 4 ปี ลูกสาวสอบเข้าเรียนหมอมหาวิทยาลัยแคมบริดจ์ ประเทศอังกฤษ ก็ต้องไปอยู่หอที่มหาวิทยาลัย พอจบหมอ 4 ปี ต้องไปเรียนเรสซิเดนซี่ ที่มิชิแกน อีก 3 ปี หลังจากไฮสกูลไปมหาวิทยาลัยยูซีเดวิส อยู่หอ 4 ปี ไปเรียนหมอ 4 ปี ฝึกอาชีพหมอ 3 ปี ครับความคล่องตัว ความเป็นอิสระของชีวิต เป็นการย้ายอยู่ที่ใหม่ถาวร

เหมือนลูกชาย จบไฮสกูล ก็ไปเรียนยูซี ซานดิเอโก้ แล้วไปต่อด็อกเตอร์ที่ฮาวาย ปัจจุบันอยู่แถวซานดิเอโก้ ถาวร ผมจำคำสอนของสมเด็จพระสังฆราช พระพุทธโฆษาจารย์ วัดราชบพิธ สอนผมตลอดเวลา ผมอดที่จะคุยแบบที่เคยไม่ได้ ตอนเรียนประถมที่อยุธยา สังฆราชจะไปให้รางวัลเด็กเรียนได้ที่หนึ่งของโรงเรียน ผมจะได้รางวัลทุกปี เหตุที่คุยเป็นผลที่ท่านรับผมเป็นศิษย์ มาอยู่วัดราชบพิธ อาทิตย์ละ 2 คืนท่านจะเรียก ผมไปคุยถามการเล่าเรียน เกร็ดความชอบพอ

พอจบ ม.6 ผมสอบได้เรียนครู ได้ทุน ค่าเทอม ค่าอยู่หอ อาหารฟรี ก็ย้ายออกจากวัด

ครับชีวิตทุกคน ต้องพัฒนา สังฆราชบอกว่า ทุกชีวิตต้องพัฒนา ให้เป็นความถูกต้อง และดีงาม พอถึงวันนี้ ผมมีลูกสาวและลูกชาย หมดห่วง ลูกสาวจบหมอจากแคมบริดจ์ หมอในอเมริกาเรียน 11 ปี หลังจากจบไฮสกูล

ลูกชายจบ PhD ด็อกเตอร์ ชีวิตตอนนี้ก้าวหน้า ทำงานในมหาวิทยาลัย

เหตุผลที่เล่าเรื่อง ครอบครัวเป็นเรื่องส่วนตัว แต่ที่เล่าเป็นเรื่องของการเรียน คือรากฐานการพัฒนาชีวิต เดือนที่ผ่านมา หลานชายคนโต เริ่มเข้ามหาวิทยาลัย ได้ทุนมหาวิทยาลัยหลายที่ เห็นบอกว่าจะเลือกไปเรียน ประเทศแคนาดา

ผมสนับสนุนการเรียนที่สมบูรณ์นอกจากความรู้ จากการเล่าเรียน ความรู้จากประสบการณ์ สำคัญมากของชีวิตด้วย