ความจริงหรือความคิด
ไพฑูรย์ สุขสิขารมย์
ความจริงหรือความคิด 11 ธันวาคม 2564

คืนที่ 23 พฤศจิกายน คืนนี้นอนค้างที่ Carmel Valley Ranch ลูกสาวพาหลานชาย 3 คนมาเยี่ยม ครับคนเป็นพ่อแม่ มีลูกอย่างผมและภรรยา ลูกสาวอยู่มิชิแกน ปกติปีละอย่างน้อย 2 ครั้งๆละ 2 เดือนจะไปอยู่กับลูกสาว ผมไปช่วยเหลือลูกเล็กๆน้อยๆ ผมนิยมถือเป็นความปกติของชีวิตจะตื่นราวๆตี 5:00 วัย 81 ต้องออกกำลัง แขน ขา บีบหัว ตามลำตัว ครับเมื่ออยู่ 2 คน ก็ต้องดูแลตัวเอง ผมไปอยู่กับลูก ทุกเช้าจะลงครัวทำอาหารเช้า นิสัยชอบทำอาหาร ทำความสะอาดครับ แต่เด็กจบ ป.4 แม่ส่งมาอยู่ที่วัดราชบพิธ กับ สังฆราช องค์ที่ 18 แม่บอกว่า ถ้าจะเรียนที่อยุธยาลำบาก กรุงเทพฯ น่าจะดีกว่า ต้องช่วยเหลือท่านและดูแลตัวเอง ครับแม่

ทำอาหารเสร็จ หลานๆ ทานเสร็จผมจะขับรถไปส่งที่โรงเรียน ช่วง 2 ปี โควิดไม่ได้ไปมิชิแกน แต่ครอบครัวของลูก นอกจากโทรมาอาทิตย์ละหลายครั้ง และจะพาหลานมาเยี่ยม หลานชายทั้ง 3 ชอบที่เบย์เอเรีย ครับคำว่าเบย์เอเรีย คือเมืองรอบๆ อย่าง ซานฟรานซิสโก เซ้าซาริโต้ โอ๊คแลนด์ เบิร์กเล่ย์ และเอลเซอริโต้ เมืองจะเต็มไปด้วยภูเขา บนภูเขาจะมีต้นไม้ มีทะเลภายในที่เรียกว่า เบย์ ทะเลภายนอก คือ มหาสมุทรแปซิฟิก ธรรมชาตินอกจะมีต้นไม้ ถ้าคนอยู่อาศัยมีระเบียบวินัย ความน่าอยู่อาศัยย่อมบังเกิด

คืนนี้ 23 เราค้างที่คาเมล โรงแรม ห่างจากตัวเมือง บ้านพัก อยู่ตามหน้าผา มีต้นไม้เรียกว่าต้น “โอ๊ก” ลำต้นห่างจากดินไม่กี่เมตร จะมีลำต้นแยก กิ่งก้านเป็นพุ่ม ให้ความร่มรื่น ครับสังคมของคนที่พัฒนาจิตใจ จะมีความรู้สึก ชอบพอธรรมชาติ ดูแลรักษาไม่ทำลาย ธรรมชาติ รอบตัวเรา มีมากสิ่ง อย่างต้นไม้ แหล่งน้ำ

ผมดอกนึกถึง บ้านที่อยุธยา ผมเกิด เติบโต บ้านติดแม่น้ำป่าสัก รอบๆบ้านมีต้นมะขาม มะขามเทศ เป็นต้นไม้ทรงเดียวกับต้นโอ๊คที่คาเมล แต่คุณสมบัติของต้นไม้ธรรมชาติที่อยุธยา อย่างมะขาม และต้นมะขามเทศ จะมีดอกมีผล เป็นอาหารของคน หลังบ้านจะมีกอไผ่ ครับไม้ไผ่สารพัดคุณประโยชน์ หน่อนำมาประกอบอาหาร ต้นไผ่จักสานเป็นกระบุง บุ้งกี๋ กระจาด ใช้ทำฝาบ้าน พื้นบ้าน โครงสร้างหลังคา

ช่วงผมเรียนปริญญาโท (1969) ที่ออริกอน วิทยาลัยผมมีภูเขา เรียก Blue Mountain วันหยุดผมจะเดินขึ้นมีต้นไม้ป่าหลายประเภท อย่างแอปเปิ้ล เชอรี่ ถือวิสาสะ เด็ดทาน

ครับทุกที่ ที่สัมผัสกับธรรมชาติ อดขอบคุณที่เจ้าหน้าที่รัฐ ประชาชน ที่อนุรักษ์ธรรมชาติ คำว่าอนุรักษ์ ยังรวมกับความเจริญทางความประพฤติ ปฏิบัติของคนไม่ทิ้งเศษสิ่งของบนถนน ช่วยกันดูแลเป็นหูเป็นตาให้ธรรมชาติ อยู่เป็นส่วนของชีวิต

เช้าประมาณ 8:00 AM ผมและครอบครัว ลงมาห้องอาหาร ครับมีโต๊ะภายในห้อง หรือจะเลือกโต๊ะนอกห้อง ตั๋ว ภายในหลังคากันแดด ไม่มีฝา ปล่อยให้อากาศ “สด” พัดผ่าน คำว่าอากาศสด คือ ธรรมชาติของอากาศที่หายใจ จะปลอดสาร ถ้าทุกคนต่างดูแล ไม่ทำลายสิ่งแวดล้อม อากาศย่อมเป็นไปตามปกติ ครับสำหรับอาหารเช้า มีทางเลือก จะสั่งเป็นจาน หรือจะทานแบบบุ๊ฟเฟ่ต์ ราคาหัวละ 30 บาท หลานๆอายุ 15, 13, 11 ต่างเลือกอาหารแบบบุฟเฟ่ต์ ครับเด็กวัยนี้กำลังเจริญ ไม่ว่าจะเป็นร่างกาย หรือจิตใจ อาหารที่มีโอกาสเลือก น่าจะเป็นความพึงพอใจ

ผมแบ่งอาหารกับแม่บ้าน ก่อนออกจากโต๊ะ จะให้คนบริการ เติมกาแฟเต็มแก้ว ผมดื่มน้ำส้มหมดแก้ว หยิบถ้วยกาแฟ ยังเต็มถ้วย ลุกจากโต๊ะ ผลักประตู ไปนั่งโต๊ะ ผิงไฟ ที่นี่จะมีที่ผิงไฟ สร้างด้วยคอนกรีต รูปวงกลม ตรงกลางมีฟืนเทียม ไฟลุกด้วยแก๊ส มีโต๊ะล้อมรอบ 8 ตัว ผมเลือกโต๊ะห่าง เหยียดเท้าพาดกับขอบเตาไฟ ซิปกาแฟ ครับถือได้ว่าเป็นช่วงผ่อนคลายชีวิต คนวัยผมเป็นวัยช่วงสุดท้ายของชีวิต ไม่ต้องดิ้นรน หาซื้อวัตถุให้ตัวแล้ว จะใช้เงินเพียงเพื่อความมีชีวิต แปลกวัยนี้ เราก็ต้องวางแผนชีวิต เงินที่ได้รับแต่ละเดือนทุกคนต่างมีบิลล์ ภาษีบ้าน ค่าไฟฟ้า ค่าน้ำ ค่าประกันสุขภาพ (ไกร์เซอร์) ยา ทุกเดือน ค่าประกันบ้าน ค่าประกันรถ ยิ่งเดี๋ยวนี้น้ำมันรถแพง ครับเติมเต็ม กระเป๋าโหวงเหวง ลูกสาวเพิ่งซื้อรถไฟฟ้าให้ตอนผมยังไม่ได้ เรียนรู้เรืองชาร์จไฟฟ้า จะชาร์จตามความพอใจ พอบิลล์มาตกใจ PGTE เขียนจดหมายบอกว่า ใช้ไฟมากผมโทรคุย บอกว่าผมซื้อรถไฟฟ้า เขาบอกวิธีชาร์จไฟ ช่วงคนใช้ไฟน้อย คือหลังเที่ยงคืน จนถึง 3:00 PM ช่วงหลัง 3:00 PM ถึง 12:00 PM คนอยู่บ้าน ดูทีวีเล่นเกมส์ ทำอาหาร อาจจะเปิดฮีตหรือแอร์ ผมร้องอ๋อ

ปกตินั่งผิงไฟ อดคิดถึงหนังสือ ลูกสาวถามพ่อเอาหนังสือติดมือมาด้วยไหม ครับหนังสือจะเป็นอุปกรณ์ ช่วงชีวิตสงบ การอ่านคือการพักผ่อน การอ่านหนังสือ ถ้าจะคิดว่าการทำสมาธิน่าจะไม่แตกต่าง

เรื่องยิงไฟ 3 เดือน ลูกชาย ลูกสาว หลานมาพร้อมหน้า ช่วงค่ำจุดไฟที่เตาหลังบ้าน ผมปิ้งลูกชิ้นและกุ้ง เสียบเหล็กยาวๆ ให้หลาน ครับเป็นชีวิต ที่ผ่อนคลายอีกแบบ ผมว่าคนมีลูกหลาน หรือไม่มี บางช่วงของวัน ฤดูกาล อาจชวนเพื่อน มานั่งผิงไฟ อาจจะปิ้งปลา เนื้อ มีไวน์ ตั้ง ครับความรู้สึกรับรู้ถึงความชอบพอ สนทนา

ช่วงเป็นเด็ก หน้าฤดูหนาว ชาวบ้าน จะนวดข้าว การนวดข้าวคือเก็บเกี่ยวข้าว พอแห้งจะขนเข้าบ้าน เวลานวดดินที่วางข้าวจะทำให้เรียบ ยาด้วยขี้ความผสมน้ำ เกลี่ยให้แห้ง คุณภาพเหมือนคอนกรีต จะเอาฟ่อนข้าวที่มัดเป็นฝ่อนวางเรียงเป็นวงกลม เอารวงข้าวขึ้น ใช้ควาย ย่ำบนฟ่อนข้าว ครับพอข้าวหลุดจากรวง ชาวบ้านจะแยกซัง (เรียกฟางข้าว) ออกจากเม็ดข้าว ครับซังข้าว ชาวบ้านจะนำมาสุม จุดไฟนั่งผิงไฟ เด็กๆอาจปิ้งข้าวโพด การผิงไฟของชาวบ้าน คล้ายวงสนทนา ใกล้ชิด

ผมลุกจากเตาไฟ ถือถ้วยกาแฟ วางบนโต๊ะ ผมเดินรอบๆบริเวณ มีที่พักแยกกันหลายครั้ง มีสระว่ายน้ำ และติดกับรั้ว จะมีสระน้ำร้อน มีควัน เช้านี้ไม่มีคนใช้บริการ อาจจะรอเวลา สาย หรือ เย็น ผมเดินไปที่รั้วเป็นทางลาด เต็มไปด้วยต้นโอ๊ก ทางลาดจาดสูงถึงต่ำ ส่วนสูงเหมือนหน้าผา เป็นบ้าน ข้างล่างมีสนามกอล์ฟ เป็นสนามที่น่าเล่น ล้อมรอบด้วยต้นไม้ที่ดินสนามสูงต่ำ มีฝูงไก่งวง ครับบ้านผมที่เอลเซอริโต้ ก่อนแท๊งค์กิฟวิ่ง จะมีฝูงเตอร์กี้ เดินให้เห็น อาจจะเตือนความรับรู้ ใกล้วันทานพวกเขาแล้ว

ปีนี้ลูกสาวสั่งไก่ ทาน 8-10 คน เครื่องเคียงพร้อม มีพาย

เห็นสนามกอล์ฟอดนึกถึง ช่วงชีวิตช่วงที่ทำมาหากิน มีร้านอาหาร ชื่อโบราณ อยู่เบิร์คเล่ย์ คนออกแบบคาร์ด เป็นเพื่อนชื่อองอาจ เฉลยชีพ จบสถาปัตย์ จากมหาวิทยาลัย “สแตนฟอร์ต” ร้านอาหารผมทำทุกวัน เก็บอดออมส่งลูกเรียนเอกชนดีๆ ตั้งแต่เด็กผมเชื่อมั่นทางการศึกษา พอถึงวันนี้ ลูกชายจบด็อกเตอร์ กำลังจะไปทำงานวิจัยให้ บริษัทสร้างหนัง (พาราเม้าส์) ลูกสาวจบหมอ มีคลินิก หลายแห่ง ส่งลูก 3 คน เรียนเอกชน

ทุกเช้าผมจะออกจากบ้าน แต่ตี 5:00 AM บอกแม่บ้านไปซื้อของเข้าร้าน แวะสนามกอล์ฟ บางวันตีลูก บางวันออกรอบ ชีวิตเคยเล่น “เป็บเปิ้ลบรีส” กับสมาคมไทย ได้รางวัล เคยได้รางวัล ชุดกอล์ฟ ได้พัท ได้ถ้วย เมียเห็นรางวัล “ยิ้ม” คุ้มกับการลงทุน “เปล่า” แม่บ้านมองหน้าเป็นเหตุผลเข้าร้านสาย