ความจริงหรือความคิด
ไพฑูรย์ สุขสิขารมย์
ความจริงหรือความคิด 26 พฤศจิกายน 2565

ออกจาก วายเอ็มซีเอ อาทิตย์ละ 5 วัน วันละชั่วโมง หรือสองชั่วโมง เข้าคลาสออกกำลัง มีครูสอน คนเล่น วัยไล่เลี่ยกับผม แตกต่างอายุกัน แต่พฤติกรรมคล้ายกัน ครับทุกชีวิตในคลาส อยู่ในโลกมานานพอถึงวันนี้ต่างอายุวัยชรา ครับผู้สูงอายุคนเคยกล่าวว่า ทุกสิ่งคือร่างกาย ความคิด ความทะเยอทะยาน สลายลง ชีวิตจะว่าเรียบง่าย ก็น่าจะไม่เกินความจริง ผมไม่สามารถเปรียบเทียบของแต่ละคนของผู้สูงอายุได้ แต่ความจริงคือ ร่างกายสึกหรอ เดินลำบากขึ้น มากมายของคนในห้อง ต้องดูแลตัวเอง

คนในคลาสออกกำลัง แต่ละคลาสคนมากน้อยต่างกัน น่าจะขึ้นกับปัจจัย คือคลาสเหมาะกับสุขภาพตัว ตัวครูผู้สอนและสำคัญ ประเภทของการออกกำลัง วันนี้คลาสผมที่เรียกว่า Core Strength ครูสอนเน้นทางแขนขาเข่าเท้า ครับวัยอย่างผม สิ่งดังกล่าวจำเป็น

คนในห้องหลายเดือนมา แต่ละวันมีผู้ขาย 2-3 คน นอนนั้นผู้หญิงครับ หลักของชีวิต ผู้หญิงจะดูแลตัวเอง ผมหมายถึงสุขภาพ ให้ยังมีประสิทธิภาพการเคลื่อนไหวได้ดีกว่าชาย ยิ่งระบบการดูแลบุตร แม่ทำงานหนักกว่าพ่อ รักห่วงใย โดยเฉพาะด้าน “การศึกษา” แม่จะกล้าลงทุน จากประสบการณ์ทางการศึกษาของแม่ ส่วนตัวผม เห็นคนเป็นแม่ 3 เจเนอรเรชั่นลงทุนกับลูก

อย่างตัวผมเกิดอยุธยา ต่างจังหวัดถ้าจะเรียนมัธยม ต้องนั่งเรือแจวเกินชั่วโมง ไปกลับเกือบ 3 ชั่วโมง เกิดฝนตก ลมแรง ครับความยุ่งยากย่อมเป็นส่วนประกอบ

ผมเคยเล่าตอนอยู่ ป.4 วันหยุด ขอไปเรือข้าวกับแม่ เรือข้าวใหญ่จุข้าวหลายสิบเกวียน เวลาไปซื้อข้าวเปลือก ต้องมีคนงานหลายคน แบกข้าวเปลือกจากบ้านคนขาย ลงเรือ

ระหว่างคนงานแบกข้าว แม่จะนั่งที่หัวเรือ คอยให้ “ติ้ว” ติ้วยาวเท่าตะเกียบ แบน ทำเป็นลวดลาย เวลาคนแบกข้าวมาเทในเรือ แต่ละครั้งแม่จะยื่นตัวให้ เสร็จงานแบกข้าวทุกคนจะเอาติ้วมาให้แม่เปลี่ยนเป็นเงิน

ช่วงแม่นั่งรอให้ติ้ว คนงานแม่เรียกผมไปคุย แม่พูดเอ็งอยู่ ป.4 แล้ว จบ ป.4 ต้องเรียน มัธยม แม่บอกว่าจะส่งลูกไปอยู่กรุงเทพฯ ไปอาศัยเป็นศิษย์วัดราชบพิธ อยู่กับสมเด็จพระสังฆราชองค์ที่ 18 ครับ แม่บอกว่า มัธยมในกรุงเทพฯ ดีกว่ามัธยมในอยุธยา เหตุผลแม่บอกว่า ห้องสมุด ตัวครู เพื่อนนักเรียนและความสะดวกสบาย

ครับแม่ที่ผมสัมผัสจะคิดไกลถึงการศึกษาของลูก

ผู้หญิงอีกคนถึงวันนี้ ผมอยู่เกือบ 50 ปี ผมมีลูกสองคน ผู้หญิงที่เป็นภรรยาผม ทุ่มเทกับลูกมาก ไม่เป็นเพียงความรัก ความห่วงใย “ยังวางแผนทางการศึกษา” คำพูดเราต้องลงทุนทางการศึกษาให้กับลูกเราทั้งสอง เธอบอกว่าถ้าเราสามารถส่งลูกเรียน โรงเรียนเอกชนดีๆได้ เราควรทำ การลงทุนทางการศึกษา คุ้มจะพัฒนาศักยภาพของชีวิต ครับแม่บ้านทำตามเจตนา อดออมส่งโรงเรียนเอกชน ตั้งแต่เล็กจนเข้ามหาวิทยาลัย เอกชนที่เรียน 2 อาทิตย์ที่แล้วผมไป คุยกันกับผู้ปกครองเด็ก เขาถามผมว่าดูแลลูกอย่างไร ลูกทั้งสองคน จบหมอและด็อกเตอร์ ผมบอกว่า แม่บ้านประหยัดการใช้เงิน ส่งลูกเรียนโรงเรียนเอกชน ตั้งแต่เล็ก เขาถามผมว่าลูกพี่เรียนมัธยมปลายชื่ออะไร “ผมบอกว่า” ชื่อ College Prep เขาฟังและเปิดโทรศัพท์ ดูรายการโรงเรียนเอกชนทั่วรัฐแคลิฟอร์เนีย เขาบอกว่า โรงเรียนที่ลูกของพี่เรียน เป็นอังดับที่ 8 ของรัฐแคลิฟอร์เนีย

ผู้หญิงอีกคน คือ ลูกสาวผมด็อกเตอร์สุภัคร ถือว่าพบกับความสำเร็จทางอาชีพหมอ มีหลายคลินิก คนงาน หมอ พยาบาลหลายสิบคน คลินิกเป็นอันดับที่ 1 ของรัฐมิชิแกน

มีลูกชาย 3 คน สั่งทั้ง 3 คนเรียนเอกชน โรงเรียนชื่อ Country Day จ่ายแพง แต่คุ้ม นอกจากเรียนผู้หญิงอย่างลูกสาว ให้ลูกเล่นกีฬา ตั้งแต่เด็กคนเล็ก 12 คนโต 15 ต่างเล่นซ๊อกเกอร์ และทีมชนะเลิศปีนี้ คนที่ 2 อายุ 13 ขวบ แข่งขัน “เรือใบ” ได้ที่ 2

ครับเหตุผล ที่ผมเล่า คือ คุณสมบัติของผู้หญิง ที่เราให้ความเคารพว่าแม่ แม่เพียงดูแล รัก ห่วงใย และสำคัญ แม่อดออม ประหยัด ลงทุนกับลูกทางการศึกษา ครับ ผมภูมิใจกับคำว่าแม่ของทุกคน มองดูภาพของแม่ แม่อดออมส่งทุกคนเรียนคนที่อยู่อเมริกา น้องผมเรียนกฎหมาย คนสุดท้ายเป็นหลาน แม่เลี้ยงตั้งเด็กเล็ก ส่งเรียนปัจจุบันเป็นนายตำรวจยศสูง

ครับผมมองรอบห้อง ผู้หญิงทุกคน เคยเป็นแม่ อดออม เก็บเงินส่งลูก เลี้ยงดู แม้แต่พาเที่ยว แม่บอกว่าการท่องเที่ยวไม่เพียงประสบการณ์ สิ่งสำคัญ กระตุ้นพลังสารให้ตื่นตัว “ไฝ่พัฒนาตัวเอง”

เหมือนกับ 30-40 คน ยืนบนเสื่อนุ่มๆ ออกกำลัง ผมเป็นผู้ชายใน 2-3 คนของคลาส ผมจะมายืนหลังห้อง ติดกับฝาห้อง ครับพอถึงวันนี้ ความสมดุลของผมดูไม่ดี เวลายืนขาเดียวมือต้องจับฝา

มองดูผู้สูงอายุที่เป็นหญิง ยังสนุกคุย ดูพฤติกรรม ยังเจริญงอกงาม สิ่งที่เป็นส่วนของชีวิตสารพัดสิ่ง ยังเสริมต่อครับสิ่งที่ผม สัมผัสรับรู้ และประมวลประยุก ถ้าชีวิตยังพัฒนาดูแลตัวเอง ออกกำลัง อ่าน ดูแลบ้าน แม้แต่หลายคนอยู่คนเดียว ความงอกงามของชีวิตยัง “สานต่อ”