ความจริงหรือความคิด
ไพฑูรย์ สุขสิขารมย์
สตมวาร 100 วัน ตอนที่ 10

เดินออกจากสถานที่ ที่จัดงานสตมวาร คือ ครบ 100 วันของพ่อแผ่นดิน ตลอดระยะเวลาการเกิดของโลกจะหาพระเจ้าแผ่นดินเคียงข้างประชาชน ทำงานหนักเพื่อประชาราษฎร์และประเทศชาติตลอดระยะเวลาเกิน 70 ปี ยังไม่เคยรับรู้ ชีวิตผมและครอบครัว รวมทั้งประชาชนที่มีจิตรับรู้ความถูกต้อง ย่อมพูดเป็นคำพูดเดียว จิตเดียว พระองค์ท่านทำงานไม่เหน็ดเหนื่อย คงจะเป็นองค์เทพเป็นแน่แท้ เท่าที่รับรู้มีเพียงพระองค์ท่านเท่านั้นที่ทำงานหนักเพื่อทวยราษฎร์

ซานฟรานซิสโก ค่าจอดรถแพงมาก คงจะเหมือนเมืองใหญ่ๆ ทั่วไป คนเยอะ รถเยอะ ต่างแย่งกันจอด เป็นโอกาสหนึ่งที่ซิตี้จะหาทางทำเงิน มิเตอร์ให้เวลาจอดระยะสั้น หยอดเหรียญชั่วโมงละ 3-5 เหรียญ จะวันหยุดหรือวันทำงาน ถ้าซิตี้เปล่าบอกว่าจอดฟรีวันนี้ ย่อมต้องเห็นรถให้ตั๋ว วิ่งไปกลับตลอดเวลา เคยถูกตั๋วมิเตอร์หมดเวลาจี๊ดเดียว ตั๋วปิดภายใต้ที่ปัดน้ำฝน จะบอกราคา เวลา ยิ่งคนทำเฉยเมย ให้เวลาล่วงเกิน ราคาตั๋วอาจเพิ่มเป็นสองเท่า หลายคนฉุน เพียงบ่นระบายความหงุดหงิด เชิญเถอะขอรับ ผมคือคนตัวเล็ก ทำมาหากินเพื่ออยู่รอด พ่อแม่ไม่ร่ำรวยเหมือนสังคมไทย ไม่มีตำแหน่ง และวาสนา จะกดขี่ ซ้ำเติม กระผมยอมได้ ถึงผมจะไม่ยอมและเห็นด้วย คนตัวเล็กไม่น่าจะมีโอกาสเลือก ผมเพียงรับทราบ เดินหลังคุ้ม ก้มหัว ในเมืองไทย คู่กรณีกับคนบิ๊ก เวลาการตัดสินประวิงเวลา จากผิดมากเหลือจี๊ดเดียว มากรายการมีโมฆะบ้าง

วันนี้ “วีคเอน” รถไม่มาก แต่เผอิญมีการเดินขบวน ประท้วงประธานาธิบดีคนใหม่ โดยเฉพาะพวกผู้หญิง ขอสิทธิหลายอย่างที่สังคมมองน่าจะได้ และสำหรับชาวต่างชาติ

ซานฟรานซิสโก คนผสมผสานมากเชื้อชาติ มีพวกยุโรป เอเชีย และคนเม็กซิกกันเยอะ แน่นอนการอยู่อาศัยย่อมต่างที่ ถ้าอยู่กลางใจเมืองตึกสูงๆ มองดูเถอะ แม่น้ำ สะพาน อ่าว วันหยุด อากาศ ปลอดโปร่ง ใสสะอาด ลมเย็น จะเห็นเรือใบมากมายหยอกล้อลมเล่น มากลำปล่อยเรือ ลอยลงสมอ ก่อนเที่ยงคล้อยบ่าย ล้อมวงรับประทานอาหาร ครับสังคมของคนจะมีเงินหรือมีน้อย ย่อมสมสู่กับของมึนเมา เบียร์ ไวน์ และเหล้า หลายรายนิยมใช้ยาเป็นเครื่องกล่อมประสาท มีความชอบพอทางเนื้อหนัง นัยบอกเป็นเหตุผล ความรู้สึกจะพูดอย่างไรถึงจะเข้าใจและรับรู้ เป็นหน้าที่ของท่าน ลองให้คำจำกัดความเอาเองก็แล้วกัน หลังจากยาออกฤทธิ์ ความรู้สึกสบาย ปลอดโปร่ง ปัญหาต่างๆ หยุดรบกวน ความสุขเล็กๆ น้อยและกับพฤติกรรมที่ทำร้ายตัว โดยไม่รู้ว่ายาที่เสพติด คือต้นของเหตุกระทำโดยไร้เหตุผล แน่นอน เมื่อชีวิตตกเป็นทาสของยาเสพติด แอลกอฮอล์ ถ้าจะหยุดเว้นเพียงวัน ความรู้สึกชีวิตอยู่ไม่ได้ ต้องเสพ องค์กรช่วยเหลือคนติดยาเสพติด เน้นจะให้เลิกด้วยตัวเอง หักห้ามใจ องค์กรบอกว่าถ้าจะอดได้มีคนเพียงนิดเดียว เหมือนกำมือเดียว ภายในบ้านกว้าง ถ้าจะเลิกต้องอาศัยศูนย์กลางช่วยเหลือ ไปค้างแรมหลายวัน จะได้รับการดูแล ค่อยๆ ลด และสุดท้ายเลิกได้ แต่เมื่อหลุดเป็นอิสระ หลายคนกลับมานิยมความชอบพออย่างเดิม ความรู้สึก โพล่งออกมา เออตอนเลิกสูบความรู้สึกขาดมากสิ่ง คนที่เลิกได้เด็ดขาด ความรู้สึกคุณค่าของชีวิตดีๆ กลับคืนมา สามารถมีชีวิตด้วยสติปัญญาเดิม

ผมถือว่ามีโชค คนหนึ่งในกลุ่มของคนมากมาย ได้ไปเมืองที่มีตึกสูง อย่างซานฟรานซิสโก นิวยอร์ก ชิคาโก้ แม้แต่ พอร์ตแลนด์ ตอนผมแหยมไปเรียนเมื่อเกือบ 50 ปี มีตึกเตี้ย แต่ตอนนี้ตึกสูง จากหนังสือแม็กกาซีน เมืองนี้คนขาวอยู่มากที่สุด เมื่ออาทิตย์ที่ผ่านมา ไปนอนค้างคืนที่โทรอนโต้ แคนาดา ตึกสูงสวย หลาน 10, 8, 6 ชอบบอกว่าโรงแรมที่นี่ รูมเซอร์วิสดีที่สุด สั่งปุ๊บมาถึงไม่ทันที แต่ก็ไม่นาน

ครับถอยหลังหลายสิบปี ในซานฟราน ภายในตัวเมือง ช่วงตึกระฟ้ายังมีไม่มาก คนมีรายได้ดีจากการแบกจ๊อบ จะชอบอาศัยนอกเมือง เช้าขับรถออกจากบ้าน เข้าเมืองทำงาน เลิกงานขับรถออกจากเมือง กลับบ้าน ระหว่างอยู่อาศัย ธรรมชาติยังอยู่ล้อมรอบ อากาศเป็นพิษจากรถถึงมีก็น้อย ผมอดพูดแบบเหน็บแนม พฤติกรรมคนแตกต่าง คืออยู่นอกเมืองหนีสาปคนยากจน ลูกเยอะ มากคนไม่สนใจทำงาน แบมือขอรัฐ

แต่ปัจจุบัน คนมีเงินชอบอยู่ในเมือง ห้องในตึกสูงราคาเกินล้านเหรียญ สิ่งของใช้รอบๆ ในตัวเมืองราคาแพง โรงเรียนอยู่ไกล ปั๊มน้ำมันราคาสูงกว่านอกเมือง แกลลอนละ 30-40 เซ็นต์ สังคมคนในเมืองตึกสูง แต่งตัวดี คล่องแคล่ว ส่วนมากชอบชีวิตใฝ่รู้ เข้าร้านหนังสือ แวะร้านแซนวิช มีเก้าอี้ที่บังคานี่ รับลม มองวิว มองคนสวย คนหล่อ และลึกถึงกระเป๋ากางเกง ระบบชีวิตเท่ากับขับไล่ คนมีรายได้ต่ำ ออกไปอยู่ไกล ครับบ้านเมืองเจริญของคน วิถีการขับไล่คนก็อาศัยเพิ่มราคา ค่าการใช้จ่ายของชีวิต ไม่นิยมเผาบ้าน ขู่เข็ญแบบบ้านเมืองที่เรียกตัวเองเป็นประชาธิปไตย และที่สำคัญยกเลิกสถานที่จำเป็นกับชีวิต

เหลือเชื่อ ดาวน์ทาวน์ซานฟรานซิสโก เป็นเมืองท่องเที่ยว คนทั่วโลก ถ้าชอบท่องเที่ยว เกิดชีวิตไม่เคยมาซานฟรานซิสโก เห็นสะพานโกลเดนเกต ถนนงู ฟีชเชอร์แมนวอร์ค มีปูต้มดังกานีช ใส่กระทงขาย ช็อบร้านเมย์ซี่ ขึ้นรถราง ภายในตัวเมือง มีภูเขาเตี้ยๆ หลายลูก คนร้อยพ่อพันแม่ สารพัดอาหาร คนอยู่ด้วยกันสงบสุข รอบๆ ตัวซานฟรานมีเกาะ น้ำทะเล ล้อมรอบเป็นอ่าว มองฝั่งตรงข้าม เห็นหอนาฬิกา มหาวิทยาลัยยูซีเบิร์คเล่ย์ หลายคนตั้งความหวังจบไฮสกูลจะเข้าเรียน มหาวิทยาลัยเบิร์คเล่ย์มีระบบเสรีภาพที่มหาวิทยาลัยส่วนมากไม่มี คือการเดินขบวน ถกเถียงที่เรียกไฮปาร์ค เผาตึก

ครับภายในตัวเมืองซานฟรานซิสโก มีคนนอนข้างถนนเยอะ (โฮมเลส) โดยความเป็นสัตย์จริง เจ้าเมืองจำต้องยอมดูแลหางทางช่วยเหลือ พยายามเต็มที่สร้างบ้านแบบ “ลัง” เล็กๆ แคบซ้อน แต่ละลังคือห้องนอน มีครัว ห้องน้ำ และถกเถียงว่าพวกนี้จะรักษาความสะอาดได้ไหม ดูได้จากนอนตามถนน ของกิน ของใช้ วางเกลื่อน ตกลงโดยแต่ละคนในใจก็ต้องยอมรับ ช่วยได้ตามที่เงินภาษีจะอนุญาต

เป็นไปตามคาดคะเน วันนี้ต้องมีเดินขบวน การเดินขบวนจะด้วยสาเหตุอะไร เหตุผลต้องการส่งข่าวถึงเจ้าของธุรกิจ รัฐบาล แม้แต่มหาวิทยาลัย นัยว่าของความยุติธรรม การเดินขบวนจะแตกต่างกับการสไตร์คหยุดงาน การสไตร์คเรียกร้องเจ้าของงาน ขอเพิ่มรายได้ สวัสดิการ ยิ่งถ้าเป็นการสไตร์คของคนงานเกี่ยวกับสื่อสาร อย่างรถไฟฟ้า เครื่องบิน ประชาชนอย่างผมคิดเข้าข้างตัว เดือดร้อน สุดท้ายราคาค่าโดยสารขึ้น คนจ่ายคือคุณกับผม การสไตร์คที่สมบูรณ์ต้องเดินขบวนด้วยเสมอ

ตอนนี้รถติด คุยกับแม่บ้าน วกรถกลับไปอีกทางถึงไกลหน่อย เท่ากับสบายใจ รถไม่ติด ครับผมอยู่แถวเบิร์คเล่ย์ ไม่ข้ามสะพานเบย์บริดจ์ ก็ไปทางสะพานโกลเดนเกต หรือจะเลือกขับล่องใต้ข้ามสะพานซานมาเท็ล แน่นอนระยะทาง เวลา ย่อมเพิ่ม แต่ความรู้สึกปลอดโปร่ง แลกกับความหงุดหงิด เผอิญชีวิตช่างไม่มีอะไรต้องวุ่นวาย ทำมาหากิน เลือกวิถีทางเดิน สุขกาย สบายใจ เข้ากับความคิดเป็นเหตุเป็นผล เดินทางเปลี่ยนทิศ รอบๆ ทางผ่าน วิถีชีวิตคน ภาพบ้านเรือน ธรรมชาติของสิ่งแวดล้อม จะไปทางไหน ย่อมต้องผ่านทะเลภายใน ภูเขามีทุกที่ ถึงจะสะดวก ชีวิตคนรีบร้อนก็สัมผัสได้ตลอด ขับรถตัดหน้าขอให้ปลอดภัยนะโยม