ครับกำลังเพลิดเพลิน ชั้น 15 บนเรือ Princess มองดูรอบๆ ตัว เมื่อเรือออกมาไกลจากฝั่ง ภาพของสิ่งที่เราสัมผัส ประเภทวัตถุ บ้านคน รถ ถนน หายจากสายตา มองไกล เห็นขอบฟ้า ตะวันตก ดวงอาทิตย์กำลังจะลับ ครับดวงอาทิตย์เป็นธรรมชาติที่ไม่เคยเกียจคร้าน พักผ่อน หรือหลับนอน ช่วงกลางคืนที่เราไม่เห็นดวงอาทิตย์ จะหมุนไปอีกด้านของโลก ให้แสงสว่าง ให้รังสี แสงอบอุ่น สิ่งมีชีวิตจะเจริญเติบโตด้วยแสงของดวงอาทิตย์

โพล้เพล้ ยังไม่มืดเสียทีเดียว มองกระแสน้ำ ติดเรือ จะเห็นฟองน้ำ แตกกระจายสีขาว ครับหลักวิทยาศาสตร์ “วัตถุสองสิ่งกระทบกัน จะเกิดปฏิกิริยา แตกต่าง แล้วแต่พฤติกรรมของวัตถุแระการกระทบ”

สำหรับมนุษย์ไม่เพียงการกระทบทางกาย คือ วัตถุ จะเกิดความรู้สึก อาจเจ็บ แต่สิ่งที่กระทบออกจากตัวคน ถ้าไม่ใช่วัตถุ อย่าง แขน ขา กาย แต่สิ่งที่กระทบของมนุษย์อีกอย่าง คือ ความรู้สึก อย่างชายและหญิง และสิ่งหนึ่งที่ธรรมชาติ มอบให้ คือ ความพอใจต่อกัน ครับความรู้สึก แปลก สุขภาพใจ อยากสัมผัส

กำลังเพลินกับธรรมชาติ มองดูท้องฟ้า จะมีดวงดาวมากมาย ครับบางครั้งจะเห็นแสงจากท้องฟ้าตกลงมา คนบอกว่าดาวตก ผมไม่เข้าใจ คำว่าดาวตก ดาวหมดอายุขัยหรือไง แล้วดาวที่ตก คนผู้ใหญ่เล่าสืบต่อกัน บอกว่าดาวตก ตกบ้านไหน ผู้หญิงจะตั้งท้อง ครับความเชื่อเป็นเรื่องของแต่ละคน หาทางพิสูจน์เอาเอง

ค่ำคืนเดินไปที่บาร์ สั่งชาโดเน่ย์ เย็นๆ แก้วหนึ่ง ราคาประมาณ 10 เหรียญ ความรู้สึกแพง แต่คิดอีกที เรือยังกักตุนสิ่งเหล่านี้ ให้ความเพลิดเพลินกับการเดินทาง

ส่วนตัว ผมหยุดดื่มประเภทของมึนเมาเกิน 10 ปีแล้ว พอดื่มโรค “เก้าส์” จะกำเริบ เท้าบวม เจ็บปวด ครับแม่บ้านให้เหตุผลเธอบอกว่า ผมดื่มจะมีปัญหาเกี่ยวกับโรค ตามใจ จะดื้อรั้น หรือหยุด เมื่อหยุดดื่มประเภทแอลกอฮอร์ โรคปวดเท้าจากเก้าส์ก็หยุดด้วย สุขภาพสบาย ความรู้สึก สุขโข ผมคล้อยตาม เหตุการณ์ผ่านมา 10 ปีแล้ว แต่วันนี้ ตามใจตัวเอง อยากดื่มสักแก้ว หย่อนใจ

ซิบไวน์ ยืนมองทิศเหนือ เห็นดาวสุกใส สว่าง ผู้เฒ่าเคยบอกว่า นั่นคือดาวเหนือ ดาวบอกเกี่ยวกับการเดินทางของเรือ มองดูทิศจากดวงดาว จะไม่หลงทาง จริงเท็จแล้วแต่ การค้นคว้า หาข้อเท็จจริงเอาเอง

ลมเย็นจากกลางมหาสมุทร สดชื่น ไร้มลพิษ นักวิทยาศาสตร์ เขียนตำรามนุษย์เป็นสิ่งมีชีวิต หายใจ เคลื่อนตัว แต่ปัจจัยเด่นของมนุษย์ คือสติปัญญา รู้จักคิด เห็นสรรพสิ่ง คิด ถ้าสิ่งนั้นดี ก็เก็บไว้กับกายใจ และพัฒนาต่อไป

อย่างการเดินทาง ชีวิตผม คือว่าเป็นคนมียีนส์ของการเดินทางในชีวิต เคยเล่า 1973 เคยดินทางในทวีปยุโรป เกือบ 3 เดือน คนเดียว นั่งเครื่องบินจากนิวยอร์ก ไปลงที่ประเทศโปรตุเกส หลังจากนั้นนั่งรถไฟ ซื้อตั๋ว 3 เดือน รถไฟผ่านประเทศไหนจะหยุดลง หาโรงแรมถูกๆนอน จากโปรตุเกสถึงสเปน ครับระหว่างพักแต่ละประเทศ ทุกเช้ามืดจะไปตลาดซื้อของกินใส่กระเป๋าเดินทาง ประหยัดเงิน สุดท้ายของการเดินทางจะข้ามเรือจากฝรั่งเศสไปอังกฤษ ลงท่าเรือที่อังกฤษ นั่งรถไฟไปลอนดอน ออกจากรถไฟที่ลอนดอน หาโรงแรมถูกไม่มี กลับมาที่วิคตอเรีย สถานีรถไฟ ขึ้นรถไฟไปสก็อตแลนด์ หลับในรถ

อีกไม่กี่วัน ผมกับแม่บ้านก็จะเดินทางไปมิชิแกน จะพบกับทุกคน ลูกชาย ด็อกเตอร์พหล ไปพูดที่มหาวิทยาลัยมิชิแกน ลูกสาวด็อกเตอร์สุภัคร เตรียมบ้าน ห้อง และโปรแกรมเที่ยวไว้เรียบร้อย

เวลาเขียนถึงลูกชาย ลูกสาว ผมชอบการเรียนจบของลูกทั้งสอง คือจบ ด็อกเตอร์ เหตุผล ทางการศึกษาคือกระตุ้นให้บางคนอยากเรียน ส่งเสริมพฤติกรรมที่ว่า “การเรียน คือการมีความรู้ เกิดได้ เพราะความขยัน มานะ และอดทน สิ่งที่มนุษย์มีคือ เสริมต่อ ความขยันให้ตัวเอง”

กำลังเพลินกับธรรมชาติ การเดินทางด้วยเรือ ธรรมชาติที่เราสัมผัส เรียกว่าธรรมชาติ (ล้วนๆ) น้ำ ท้องฟ้า และดวงดาว ไม่นานแม่บ้านขึ้นมาตาม ลงไปทานอาหารเย็น

การท่องเที่ยวทางเรือ ที่เรียกว่าครูซ จะมีอาหารทาน 3 มื้อ และถ้าหิวจะมีอาหารทานได้ตลอดเวลา มีหลายชั้นมีอาหาร อย่างชั้น 15 จะมีอาหารบริการด้วยตนเอง ทางซ้ายและขวาของเรือ แปลกเรือกว้างยาวมาก คิดดูคนเกือบ 5,000 คน อยู่ทีห้องแยกกัน อยู่ อาบน้ำได้ตลอดเวลา ต้องการออกกำลัง ครับมีกิจกรรมหลายอย่าง มีที่ซ้อมหวดกอล์ฟในเต้นท์ อยากตีเทนนิส ครับมีให้เล่น คนชอบออกกำลังกาย อย่างชีวิตผมตอนนี้ จะไป YMCA อาทิตย์ละ 5 วัน ปกติจะเปิด 7 วัน จะไป 7 วันก็ได้ แต่เลือกไป 5 วัน เลือกเข้าคลาสออกกำลัง มีครูสอน ครับคลาสที่ผมไป การเล่น นอน ยืน นั่ง มีเสื่อพลาสติกปู ผ้าห่ม และพลาสติกแบบหมอน

ที่บนเรือมีห้องออกกำลังกาย ผมนิยมไปถีบจักรยาน ยกน้ำหนักบ้าง ถ้ามีเวลาจะยืนบนสายพานเลื่อน

ครับไม่นานเกือบทุ่ม นัดกับแม่บ้าน น้องพร้อมกับที่โรงอาหาร ครับที่บุฟเฟ่ต์ บริการด้วยตัวเอง ชีวิตผมมีหลายช่วงตอนเติบโต ออกจากบ้านตั้งแต่จบ ป.4 แม่สั่งมาเรียนในกรุงเทพฯ ครับช่วง ม.1-ม.6 อยู่วัดทานอาหารร่วมกัน เรียกว่า บุฟเฟต์

พอจบ สอบชิงทุนกลางได้ ปี 2500 มีนักเรียนไม่ถึง 100 คน อยู่หอฟรี เรียนฟรี อาหารฟรี 3 มื้อ ครับทุกเช้านักเรียนประจำ จะยืนเข้าแถวถือช้อนส้อม ส่วนตัวของใครของมัน โรงครัวจะเปิดราวๆ 7:30 AM ครับเดินเข้าตักบาตร แบบบุฟเฟ่ต์

ครับประสบการณ์ ทานอาหารบุฟเฟ่ต์ มีหลายช่วงของชีวิต การทานอาหารประเภทนี้ได้รับการอบรม ตักอาหารแต่พอทานอย่าตักเกินปริมาณ แล้วเหลือทิ้ง สิ้นเปลือง เลือกอาหารที่ตัวชอบ เวลาทานจะได้ไม่เหลือทิ้ง และการเข้าคิวอาจารย์พร่ำสอนเสมอ ชีวิตของทุกคนต้องเรียนรู้ก่อนและหลัง

อาหารในเรือมีให้เลือก ประเภทเนื้อ (หมู, เนื้อ, ไก่) การปรุงแตกต่าง ผมนิยมทานปลา และเลือกสลัดจะเลือกซุปถ้วยเล็กๆ ทุกมื้อจะมีขนม อย่างไอศกรีม ผลไม้ และประเภทอื่นๆ

ครับการทานอาหารในเรือ ผมชอบทานติดกับกระจกหน้าต่าง มองลอดเห็นธรรมชาติ แปลก ไม่เห็นนกบิน คงมีบ้างช่วงใกล้ชายฝั่ง หรือกลางมหาสมุทร นกคงบินย้ายถิ่นไปหาอาหาร นกท่องเที่ยวเหมือนคนไหม สำหรับผมนกคือสัตว์ มีชีวิต มีความกลัว (คืออันตราย) และอาจจะมีความรู้สึกพอใจ คือ ครบเพลิดเพลิน ความรู้สึกพอใจอย่างหนึ่งของนก คือ การเดินทางไปหาอาหาร ตามแหล่งอุดมสมบูรณ์ ตกเย็นก็บินกลับบ้าน คงจะเหมือนผม คงอีกหลายวันจะกลับบ้าน แต่คนจะปรับตัวในที่ใหม่ๆ ให้เข้ากับพฤติกรรมของตัว คือความพอใจ