5:30 AM เช้าวันอังคารที่ 9 สิงหาคม พูดถึงเวลาแต่ละวันเวลาผ่านไปเร็ว หลายคนผู้ใหญ่ตอนผมเป็นเด็ก บอกว่าเวลาแต่ละวันผ่านไปเร็วหรือช้า ขึ้นอยู่กับพฤติกรรมของแต่ละคน คำว่าพฤติกรรม ช่วงทำงาน งานสนุก เพลิดเพลิน เผลอเดี๋ยวเดียวสิ้นสุดเวลา อดบ่นกับตัวเอง เวลาผ่านไปเร็ว ช่วงเวลาเหมือนกัน หลายคนทำงานมีความรู้สึกเบื่อหน่าย ถ้าบ่นได้น่าจะพูดว่า “เวลาทำไมเดินช้าจัง”
เหมือนชีวิตผม วันนี้เดินทางของอายุมาถึง 87 ปี เวลาแต่ละวันผมไม่เคยสนใจ จะช้าหรือเร็ว สาเหตุตลอดเวลาผมใช้พฤติกรรมการทำกิจกรรม ทำให้เวลาผ่านไปโดยไม่มีความสนใจ
เช้านี้ตื่น 5:15 AM ทุกเช้าจะตื่นราวๆ 5:00 AM เคยมีเพื่อนถามผม “เอ็งตื่นมาทำอะไร สู้นอนหลับตา ฝันเรื่องราวของชีวิตดีกว่า ผมหัวเราะ ใจคิดกับตัว ผมเป็นเด็กอยุธยา บ้านติดริมน้ำ ที่บ้านมีแพขายของ ยุคโน้น 86 ปีแล้ว บ้านผมค้าขาย สินค้ามีแพลอยน้ำเหตุผลชาวบ้านยุคโน้นการเดินทางจะอาศัยแม่น้ำเดินทาง พาหนะการเดินทางอาศัยพายเรือไปไกลหน่อยก็อาศัยเรือเมย์ คือ เรือโดยสารวิ่งโดยเครื่องยนต์ ชาวบ้านจะพายเรือมาซื้อของที่แพ
ทุกเช้าผมจะตื่นไม่เกิน 5:30 AM เป็นความเคยชินของชีวิต ตั้งแต่เด็ก ช่วงเด็กเรียนประถมศึกษา บ้านที่อยุธยา ยุคโน้นไม่มีไฟฟ้า ใช้ตะเกียงน้ำมันก๊าด เวลาอ่านหนังสือ หรือทำการบ้านเวลามืดค่ำ หรือเช้ามืดใช้ไฟจุดตะเกียง มีควันไฟ ช่วงเรียนมัธยมจากอยุธยา มาเรียนกรุงเทพฯ ช่วงเรียนมัธยม อาศัยหลับนอนที่กุฏิของวัดราชบพิธ อยู่กับสมเด็จพระสังฆราช
ช่วงเป็นเด็กก่อนมาอยู่วัด ผมคุ้นเคยกับสมเด็จพระสังฆราช ท่านเป็นคนอยุธยา บ้านติดกัน เหตุที่ผมคุ้นเคยกับสมเด็จพระสังฆราช เกิดจากช่วงเรียนประถมศึกษา สมเด็จพระสังฆราชจะไปแจกรางวัลเด็กเรียนได้ “ที่หนึ่ง” ทุกปี ผมอดที่จะคุยไม่ได้ ผมได้รางวัลทุกปี จาก ป.1 - ป.4 ได้ที่หนึ่ง
การรับรางวัลจากสมเด็จพระสังฆราชทำให้ท่านรับผมไปเป็นศิษย์วัด ผมอยู่วัด 6 ปี พอจบ ม.6 ผมกราบลาสมเด็จพระสังฆราช ออกไปเรียนครู สอบชิงทุนของกระทรวงได้ ต้องไปอยู่หอของวิทยาลัยครูพระนคร เป็นปีที่ 2 โรงเรียนอยู่กลางทุ่งบางเขน ใกล้สถานีบางเขน ยุคโน้นทุกอย่างแถบโรงเรียนเริ่มพัฒนาจากนากลายเป็นหมู่บ้าน มีบ้านเรือนและโรงเรียนฝึกหัดครู “พระนคร”
ผมเป็นนักเรียนทุนรุ่น 2 ของวิทยาลัย ระบบอยู่หอของวิทยาลัย ผมต้องปรับตัวหลายอย่าง อย่างแรก นักเรียนทุกคนเป็นนักเรียนทุนของกรมฝึกหัดครู เด็กทุกคนมาเรียนอยู่หอฟรี เรียนฟรี กินฟรี เด็กมาจากจังหวัดต่างๆ การอาบน้ำ ยืนกับเป็นแถว รอบๆ คอนกรีต ยาวกว้าง มีเด็กๆ หลายสิบคน ยืนอาบน้ำ ใช้ขันตัก การปรับตัวจากการนุ่งกางเกงในอาบอาทิตย์ผ่านไป ทุกคนเริ่มเปลือยกาย ใช้ขันตักอาบ กลายเป็นความปกติ แก้ผ้าอาบ หมดความกระดากอายจากความเคยชิน แก้ผ้าอาบน้ำ หลายคนทีแก้ผ้าเดิน หลังจากตื่นนอนลงจากเตียง
มีช่วงหนึ่งตอนผมโต ตอนนั้นเรียนปริญญาโท ที่ออริกอน ไปนู๊ดบรีซกับเพื่อน ทุกคนต้องแก้ผ้า ตอนแรกๆ อาย นานชั่วโมงกลายเป็นความรู้สึกธรรมดา หญิงชายทุกคนแก้ผ้า แม้แต่เดิน วิทยาลัยและแก้ผ้าทรี “บรีซ” มันคือความปกติ “ของชีวิต” ความแตกต่างขึ้นอยู่กับ “เหตุ”
หยุดเขียน หยิบกาแฟ “ซิบ” ความรู้สึกกาแฟเย็นกับร้อน รสแตกต่างมองลอดหน้าต่าง บ้านผมอยู่ที่สูงทางลาดจากภูเขาลงต่ำ โต๊ะที่ผมนั่งเขียนบทความ หยุดมองลอดหน้าต่าง เห็นรถวิ่ง บ้านตรงข้ามเป็นบ้านสองชั้น หลังบ้านมีสนาม เจ้าของบ้านใช้บ้านเป็นที่สอนเด็ก และรับเลี้ยงเด็ก
มองดูผู้ปกครองต่างจอดรถ จูงมือลูกลงจากรถ เดินไปเคาะประตู ครูเดินออกมารับ ครับโรงเรียนรับดูแลเด็ก เป็นที่นิยม เด็กวัยไล่เลี่ยมาเล่น มาเรียน และกิจกรรมทำให้เด็กๆ เรียนรู้สิ่งใหม่ๆ คุ้นเคย รู้จักแบ่งปันสิ่งของ ช่วยเหลือ เกื้อกูลกัน
ผมมองดูเด็กๆ ยังไม่กี่ขวบ พ่อแม่พามาส่ง บางครั้งครูจะออกมารับ มองดูเด็ก รับรู้ได้ คงชอบโรงเรียน เหตุผล มีเพื่อนวัยเดียวกัน หญิงชาย เริ่มคุ้นเคย สนิทสนมรู้จักเล่นด้วยกัน การแชร์สิ่งของเด็กๆ เริ่มเข้าใจ เป็นสิ่งดีงาม นอกจากแชร์สิ่งของ ยังเล่นด้วยกัน คำสอนจากครู “แชร์ของเล่น”
ผมเปลี่ยนสายตามมองดูถนน ตรงห้องผมเขียนหนังสือ เป็นห้องหัวมุม สูงจากพื้นดินประมาณหลายฟุต เหมือนชั้น 2 ของบ้าน ตรงห้องผมเป็นสี่แยก ห้องผมเป็นกระจก 3 ด้าน ด้านของโต๊ะที่เขียนหนังสือ ข้างหน้าเป็นถนนชื่อ Stockton Ave เป็นทางลงจากภูเขาของเมืองเอลเซอริโต้ (El Cerrito Ave) ที่ห้องกระจกข้างหน้าต่างติดกับโต๊ะ จะมองเห็นรถวิ่งไปมาเป็นทางสี่แยก ผมมองลอดกระจกหน้าต่าง เป็นทางลาดลงจากภูเขา จะมองเห็นเมืองซานฟรานซิสโก ทะเลภายใน สะพานเบย์บริดจ์ (Bay Bridge) และสะพานโกลเด้นเกจ
ถ้าไปยืนหลังบ้านจะมองเห็นเกาะทะเลภายใน และเมือง เป็นบรรยากาศธรรมชาติที่งดงาม
ตรงซ้ายมือของห้องมีต้นมะกรูดสูงถึงชายหลังคา ผมปลูกตอนย้ายมาอยู่บ้านเกิน 40 ปี มะกรูดใบเขียวสด ต้นสูง บางวันตัดไปวัด ส่วนตัวผมกับแม่บ้านแทบจะไม่ได้ใช้ใบมะกรูด เพราะสองคน กินง่ายอยู่ง่าย ข้างต้นมะกรูด ติดหน้าต่างมีต้นไม้ อีกต้นสูงกิ่งมากมาย
บ้านผมธรรมชาติสวยงาม หลังบ้านมีต้นเรดหวูดสูงใหญ่ 3 ต้น บ้านที่อยู่หลังบ้านผมขออนุญาตจ่ายเงินทริมต้นไม้ไม่ให้บังวิว ผมอนุญาต
นอกจากวิวธรรมชาติสวยงาม ชาวบ้านก็น่ารัก บ้านทางซ้ายมือ ฝั่งถนนอีกด้าน มีสามีเกษียณย้ายมาอยู่ เคยเป็นอาจารย์มหาวิทยาลัยยูซีเบิร์คเล่ย์
บ้านผมกับมหาวิทยาลัยไม่ไกลกัน ยูซีเบิร์คเล่ย์ มีนักเรียนไทยได้ทุนจากรัฐบาลมาเรียนเยอะ อย่างด็อกเตอร์พิษณุ เครืองาม
ผมเคยฝัน อยากเรียนมหาวิทยาลัยยู่ซีเบิร์คเล่ย์ ไม่สมดุล ช่วงเรียนปริญญาโท ผมไปเรียน วิทยาลัยที่รัฐออริกอน วิทยาลัยที่ไปเรียนปริญญาโท ปี 1969 ชอบวิทยาลัยที่ไปเรียน วิทยาลัยชื่อ Eastern Oregon อยู่รัฐออริกอนเหนือตะวันออก เมือง La Grande ชอบวิทยาลัยเป็นเมืองเล็ก วิทยาลัยอยู่เนินเขา
ตอนผมเรียน 1969 ค่าเล่าเรียน 164 เหรียญต่อควาเตอร์ กว่าจะได้ 164 เหรียญ พ่อแม่ผมคงประหยัดตัวลีบ แต่ช่วงซัมเม่อร์ ผมไปทำงาน ช่วงปิดภาคที่รัฐ Washington State ไปทำงานโรงงานอยู่เดือนกว่านิดหน่อย จะเลิกทำงานพอมีเวลาพักผ่อนก่อนวิทยาลัยเปิด
มีเวลานั่งรถเกรฮาว จากที่ทำงานเป็นด้านตะวันออก ไปด้านตะวันตก ที่ซีแอตเติ้ล พักโรงแรมถูกๆ ไปท่องเที่ยวโดยนั่งเรือโดยสารไปตามเกาะต่างๆ ระหว่างเรือโดยสารวิ่งผ่านบรรยากาศมหาสมุทรช่วงยังมีก้อนหิมะ สโนว์ลอย ครับธรรมชาติงดงาม