ความจริงหรือความคิด
ไพฑูรย์ สุขสิขารมย์
ความจริงหรือความคิด 22 ตุลาคม 2565

เกินบ่ายโมง เพิ่งออกจาก “การออกกำลังกาย” ที่ วายเอ็มซีเอ ครับจะมีการออกกำลังกายที่นี่ จันทร์-ศุกร์ จะเช้าถึงมืดค่ำ แต่วันเสาร์เพียงครึ่งวัน เที่ยงก็เลิก ครับผมไม่เคยไปออกกำลังวันเสาร์ ครอบครัว ภรรยา ลูกสาว ลูกชาย โหวต เห็นพ้อง ผมต้องไปออกกำลังไม่มีข้อแม้

เหตุผลพ่ออายุมาก อยู่ 2 คน กับแม่พ่อต้องขับรถ ถ้าดูแลตัวเอง อย่างออกกำลังทางกาย ปกติพ่อชอบอ่านหนังสือ การอ่านคิด คือ พัฒนาสมองให้อยู่กับตัว รับใช้ได้นานเท่านาน ผมคล้อยตาม ปกติชอบอ่านหนังสืออยู่แล้ว ช่วยหลายปี จะอ่านหนังสือ “ศาสนามากขึ้น” เหตุผลหลักศาสนา คือ การพัฒนาคุณธรรมทางจิตใจ ให้มีความสงบ ศาสนาเน้นการรับผิดชอบชีวิต คือ ความขยัน อดทน ในทิศทางของความถูกต้อง ความถูกต้องจะสมบูรณ์ได้ คือ ต้องมี ศีลและธรรม ประกอบด้วยเสมอ

ทุกครั้ง ออกจากคลาสออกกำลัง จะยังไม่กลับบ้าน จะแวะหลายที่ สำหรับผม หมดเวลาซื้อสิ่งของเครื่องใช้อย่าง เสื้อผ้าแล้ว จะมีบางอย่างต้องใช้ เพราะหมดสภาพ เกิดจากกาลเวลา ในการใช้คำว่ากาลเวลา คือ ยุคสมัย ทั้งๆที่ความรู้สึกผม ถึงจะไม่พร้อมการปรับตัว แต่สังคมก็หลอมพฤติกรรม ความคิดบอกเน้น เราต้องคล้อยตาม

ผมขับรถมาจอดหน้าร้าน 99 เซ็นต์ ครับร้านนี้เป็นร้านผมชอบพอ ราคาเริ่มตั้งแต่ 99 เซ็นต์ จนถึง 10-20 เหรียญหรือเกินกว่า ร้านนี้ประเภทผลไม้ ผมนิยม อย่างมะม่วง ลูกใหญ่มาก ราคาลูกละ 1.99 ครับไม่เคยเห็นที่ไหนลูกใหญ่เท่าที่ผมเห็น แม่บ้านผมชอบมะม่วงดิบ ส่วนผมชอบมะม่วงสุก แม่บ้านให้เหตุผล มะม่วงสุก รสหวาน “มีน้ำตาลเยอะ” ครับผู้หญิงจะมีความรอบรู้ สิ่งที่ประกอบกับชีวิต อย่างผัก ผลไม้ แม้การดูและต้นไม้ พัฒนาสวน แม้แต่ ประเภทของยา และไวตามิน กินเพื่อสุขภาพ

ความรอบรู้ และห่วงใยของแม่บ้านหลายคนอดคิด “ก้าวล้ำเส้นของชีวิต” คำตอบคือ ความห่วงใย เป็นความถูกต้องของชีวิต ถ้าไม่ห่วงใย ดูแลครอบครัว แล้วจะดูแลใครล่ะ

ระหว่างจอดรถ หน้าร้าน ผมไม่รีบร้อนจะเข้าไปซื้อของ จะนั่งในรถ ครับมองลอดหน้ากระจก บรรยากาศที่สัมผัส คือ บรรยากาศทำให้ชีวิตกระตือรือร้น เกิดความคิดบ่อยครั้ง หัวเราะกับตัวเอง ครับการหัวเราะของชีวิต คือ การดูแลสุขภาพที่สมบูรณ์ที่สุดทางหนึ่งของชีวิต

ระหว่างนั่งผมหยิบแก้วน้ำส้ม ระหว่างเดินออกจากวายเอ็มซีเอ และร้านประเภทไอศกรีม ซื้อน้ำส้มแก้ว ครับปกติชอบดื่มน้ำผลไม้ แต่หยุดบ้าง ดื่มบ้าง ซื้อดื่มไม่บ่อย แม่บ้านให้เหตุผล ประเภทน้ำผลไม้ มีน้ำตาลเยอะ พออายุมากออกกำลังกายน้อย และโรงงานในร่างกาย ทำงานไม่เต็มที่ เครื่องเริ่มทำงานไม่สอดคล้องกัน หลายคนเริ่มโรค “เบาหวาน” ช่วงปลายชีวิต “คำบอกเล่า” ผมรับทราบมาจากโรงเรียน เป็นพื้นฐาน การฟัง นำมาคิดและประยุกต์ การนำไปปฏิบัติ ก็แล้วแต่ แต่ละท่านเถอะครับ

ผมยอมรับช่วงนี้อากาศร้อนทุกวัน ผลไม้ ปั่น ใส่ประเภท หวาน มัน ครับพอซิบ ความสุข เห็นได้ชัด ความถูกต้อง จะขัดกัน ในตัวของความคิดเสมอ หลายคนยอมรับว่าหวานมัน ไม่ให้คุณจริงๆกับชีวิต สะสมกลายเป็นโทษได้ แต่ก็ผลัดผ่อนกับตัวเอง เอาน่าคงไม่เกิดโทษหรอก เรานานๆซื้อทานที ครับพอซิบ เย็น หวาน มัน ชื่นใจ หยิบ “ทองม้วน” Coconut Rolls ซื้อมาจาก Costco ราคาลดเหลือ 5 เหรียญกว่า ครับสารภาพ ชอบ หวาน มันด้วยรสมะพร้าว กรอบ คุ้นเคยแต่เด็กแล้วครับ

เหลือเชื่อ อดคิดถึงคุณประโยชน์ของมะพร้าว น้ำตาลสดจากมะพร้าว หวาน หอม มะพร้าว สารพัดให้คุณค่ากับชีวิต จะแกงหรือทำขนม แม้แต่ทานสดๆ อดคิดเจ้าของสวนมะพร้าว ฝึกลิง ปีนเก็บมะพร้าว เก่งอดชมไม่ได้

ระหว่างเคี้ยวทองม้วน มองลอดกระจกรถ ครับเห็นตัวละครมากมาย เดินเข้าออกร้าน จุดหมายเดียวกัน คือ ซื้อของจำเป็น ป้อนให้ชีวิต แต่ความแตกต่าง คือ สิ่งของในตระกร้า แตกต่าง ตามความชอบพอของแต่ละคน ความชอบพอทางรส หรือสิ่งของ มาจากพื้นเพของครอบครัว

สายตาสัมผัส ชาย 3 คน แตกต่าง ย่อมลงความเห็น ไม่รู้จักกันและคุ้นเคยกัน วัยไล่เลี่ย จากการคาดเดา อายุเกิน 30 ปี จะถึง 40 จะเกิน หรือ น้อยก็คงไม่มาก วัยของอายุปกติ กำลังวัยทำงาน รับผิดชอบตัวเองและครอบครัว

ชาย 3 คน ไม่น่าจะเป็นเพื่อนต่อกัน หรือ รู้จัก ชายคนแรก ตั้งแต่ผมจอดรถยังเห็นยืนที่เดิม คือที่จอดรถสำหรับซื้อของ คือรถ “เข็น” สิ่งที่ผมเห็น คนจะเดินผ่านหลังจากซื้อของ หรือกำลังจะไปเอารถ เข้าร้านซื้อของผมมองดู ทักทาย พูดคุยกับลูกค้า หลายคนควักเงินส่งให้ มากมายเดินผ่าน ยิ้มให้ ไม่พูดไม่ให้เงินที่แบมือ อาจจะคิดอนุโมทนา ขอให้ มีโชคเกิดนิมิตรเกิดกับจิตใจ อยากเดินหางาน และทำงานเป็นพื้นของชีวิต ผมเคยหยิบเงินส่งให้ แต่ไม่มากนัก พอเป็นน้ำใจ อีกคนยืนไม่ไกลกัน คงไม่รู้จักกัน เหตุผลไม่ทักทาย ไม่สนทนา ตรงเท้ามีถุงพลาสติก ใส่ของวางอยู่ ยืนพูดคนเดียว ไม่นานนักก็หยิบถุง ถุงที่ผมเห็น คือกระป๋อง ขวด ครับเป็นรายได้ไม่มาก ยังดีกว่ายืนแบมือ ยังหาเงินเป็นรายได้ ครับมากมายชีวิต ผูกพัน เปลี่ยนไป เขาแบกถุง เดินไป ถึงทางข้ามอีกถนน เขาหยุดเดิน วางถุง ปากพูดครับ มากคนที่เป็นนักพูด พูดแล้วคนซื้อบัตรเข้าฟัง หลายครายการ คนพูด มีคนบริจาค แต่ชายคนยืน เขาพูดไม่มีคนฟังไม่มีคนสนใจ ความรับรู้ เขาถ่ายทอดและรับรู้เอง

อีกคนแต่งตัวเรียบร้อย เดินออกจากร้านไปรอบๆลานจอดรถ เอารถซื้อสินค้ามาหลายคัน ครับหน้าที่ คือ ทำงานให้ร้าน บางวัน ผมมาเช้า ชายคนนี้จะเข็นกล่องมีอาหาร ผัก ผลไม้ เต็มรถเข็น ค่อยๆแกะกล่อง และวางผัก ผลไม้ที่เป็นอาหาร ครับเป็นหน้าที่ อาจทำหลายอย่าง เกิดห้องน้ำ กดน้ำไม่ลง คงจะถือเป็นหน้าที่ด้วย

ครับผม ทุกชีวิตของคน ต่างดิ้นรน เพื่อปากท้อง ผมเคยมีชีวิต ดิ้นรน ออกจากบ้านแต่เช้า ช่วงเรียนที่ออริกอน ถือหนังสือเดินไปมหาวิทยาลัย ความรู้สึก ไม่หนัก ไม่รับรู้ ผ่อนคลาย ทุกวันคือการดิ้นรนของชีวิต หาความรู้ให้ตัว พอถึงวัยทำงานจะได้หาเงินได้ และเป็นหนทางเจริญของชีวิต คือ ชีวิตสามารถช่วยตัวเอง ทำงานตามความถนัด ที่เรียกว่าคุณภาพชีวิต

ผมเปิดประตูรถ หยิบแก้วกาแฟ ว่างเปล่า ถือติดมือไปหย่อนในถังขยะ ครับการเรียนรู้ การช่วยกันดูแลความสะอาด เป็นสิ่งจำเป็น ทำบ่อย ประจำ จะเรียกว่าความเคยชิน ที่ถูกต้องหรือเรียกว่า เป็นความรับผิดชอบที่เจริญก็ไม่ว่ากัน

ผมเดินไป หยิบรถซื้อของ เซโชคดีกับคนขอเงิน เดินเข้าร้าน มีสินค้ามากมาย ผมหยุดหลายที่ ดูสิ่งของ แต่ไม่จำเป็นต้องซื้อเพียงคิดว่า ถ้าจำเป็นจะได้มาซื้อถูก ครับวันนี้ผมหยิบองุ่น อโวคาโด้ และสบู่ล้างจาน เดินมารอแถว ครับการเรียนรู้ ก่อนหลังจะสอนความเจริญงอกงามให้ชีวิต กลายเป็นความเคยชินที่เรียกว่า “ดี”