7:30 AM เช้าวันพุธที่ 16 เดือนกรกฎาคม ครับวัย 86 ปี ปกติจะตื่นหลัง 5:30 AM การตื่นเร็วไม่ใช่วัยสูงอายุอย่างเดียว เหตุผลอีกอย่างจะเข้าห้องนอนก่อน 8:00 PM ทุกคืน ก่อนโน้นปี 1968 ช่วงเรียนปริญญาโท ที่วิทยาลัยของรัฐออริกอน จะนอนก่อนเที่ยงคืน เหตุผลต้องอ่านหนังสือ ทำการบ้าน การบ้านช่วงเรียนมัธยม ต่างจากเรียนมหาวิทยาลัย มัธยมการบ้านคืองานครูสั่ง อย่างทำเลข อ่านหนังสือ เขียนรายงาน พอโตเรียนมหาวิทยาลัย การบ้านคล้ายๆ กัน แต่เพิ่มการอ่านหนังสือ ค้นคว้าทำรายงาน และมีบ่อยต้องพูดหน้าห้อง และสำคัญอีกอย่าง คุยกับเพื่อน
ผมวางปากกา หยิบกาแฟ ซิบ แปลก กาแฟแก้วเดียวกัน ช่วงดื่มตอนกาแฟเย็นกับกาแฟร้อนๆ ต่างกัน ผมจะดื่มกาแฟทุกเช้า แก้วเดียว ไม่เติมน้ำตาลและครีม ชอบกาแฟรสธรรมชาติ “ขม” ซิบกาแฟ มองลอดหน้าต่าง บ้านอยู่ 4 แยก ทางลงจากภูเขา ช่วงเวลานี้ รถวิ่งน้อยมาก เพราะเป็นที่อยู่อาศัย รอบๆ บ้านทุกหลังสูงอายุ เกษียณ
มองไกลเห็นทะเลภายใน น้ำจากมหาสมุทรแปซิฟิก เป็นอ่าวลอดใต้สะพานโกลเด้นเกจ เป็นสะพานชั้นเดียว ทาสีแดง เป็นสะพานมีชื่อของเบย์แอเรีย คำว่าเบย์แอเรีย มีหลายเมือง อย่างตีนสะพานโกลเด้นเกจจากห้องผม มองไกลตีนสะพานทางซ้ายมือเป็นเมืองซานฟรานซิสโก อีกฝั่งเป็นเมือง “เซ้าท์ซาริโต้” เมืองหลายเมืองมีทะเลภายในรอบๆ
ช่วงมาอยู่เบย์แอเรีย ชอบไปสะพานโกลเด้นเกจ ข้ามสะพานแถวบ้านผมนอกจากสะพานโกลเด้นเกจ ยังมีสะพานยาว มีเกาะ ชื่อสะพาน “เบย์บริดจ์” เป็นสะพานยาว 2 ตอน ผ่านเกาะชื่อเทรชเชอร์ไอแลนด์ เลยสะพานโกลเด้นเกจจะมีอีกสะพาน ชื่อ “ริสม่อนบริดจ์”
พูดถึงสะพาน อดนึกตอนวัยเด็ก เกิดอยุธยา ที่บ้านอยู่แม่น้ำป่าสัก บ้านทุกหลังจะปลูกติดริมน้ำ เหตุผลง่าย ชาวบ้านยุคโน้นใช้อาบน้ำในแม่น้ำ น้ำกินน้ำใช้ ตักจากแม่น้ำ การคมนาคมใช้แม่น้ำ บ้านผมเคยเล่า มีแพ แพปลูกลอยน้ำ เป็นร้านค้า คนมาซื้อของจะพายเรือมาซื้อ
หยุดเขียน ยกแก้วกาแฟ ปรุงด้วยกาแฟของยี่ห้อ French Roast ผมดื่มกาแฟทุกเช้า แก้วเดียวไม่เติมน้ำตาลและครีม แม่บ้านผมไม่ดื่มกาแฟ ดื่มชาแทนกาแฟ
ผมนั่งเขียนหนังสือ เกินครึ่งชั่วโมงไม่มีเด็กนักเรียน หรือ คนเดินถนน ปกติจะมีผู้สูงอายุชอบเดิน 2-3 คู่
แต่สำหรับผมกับแม่บ้านไม่เดิน สายหน่อย แม่บ้านจะออกไปหลังบ้าน ชอบเดินหลังบ้าน หลังบ้านเป็นพื้นที่ 2 ชั้น สูงราวๆ 2 ฟุต – 3 ฟุต แม่บ้านชอบไปหลังบ้าน จะมีโต๊ะนั่ง 2 ที่ ลงจากบันไดบ้าน ชั้นแรกกว้างยาว มีเต้นท์ผ้าใบ สูง กว้าง และยาว แม่บ้านชอบนั่งอ่านหนังสือ หันหน้ามองไกล เห็นเกาะ ทะเลภายใน เมืองริสม่อน สงบเงียบ งามด้วยธรรมชาติ
อาทิตย์ละ 5 วัน ผมไป YMCA ไปออกกำลัง คงคล้ายเดิน
พูดถึงธรรมชาติ รอบๆ ตัว ตอนเรียนมหาวิทยาลัยบางแสน วันเสาร์-อาทิตย์ ชอบเดินไปชายหาด ตอนเรียนออริกอน มหาวิทยาลัยอูยู่เนินเขา เมือง ลาแกรนด์ (La Grande) ผมจะเดินขึ้นลงทุกวัน เพราะช่วงเรียนเช่าบ้านอยู่ ห่างจากวิทยาลัยประมาณไม่เกินไมล์ จะเดินขึ้นลง การอยู่หอนอกวิทยาลัยสะดวกเรื่องกิน และไปเดินเล่น
ผมอาจพูดได้ว่า ผมอยู่ใกล้ชิดกับธรรมชาติ หลังบ้านผมราวๆ 100 เมตร เป็นเนินเขา มีบ้านเต็ม ตอนมาอยู่ใหม่ๆ หลายสิบปี ช่วงโน้น ยังนิยมเล่นกอล์ฟ จะขับรถขึ้นเนินเขาสูง ไปเมืองเบิร์คเล่ย์ เป็นสนามกอล์ฟ สามารถเล่นได้ 18 หลุม หรือปกติผมจะไปซ้อมพัด และซ้อมตีกอล์ฟ ชอบสนามซ้อมกอล์ฟ ยืนตีเนินที่สูง ลงสนามต่ำที่ลูกกอล์ฟลงไป
ชีวิตคนกับธรรมชาติ เป็นส่วนเกื้อกูลกัน ตรงหน้าต่างห้องผมเขียนหนังสือ ซ้ายมือติดถนน ลงจากเขา ตรงหัวมุม ผมมีต้นมะกรูดเจริญงอกงาม ยอดสูงเกินห้องผม เป็นพุ่มใหญ่ ใบมะกรูดเขียว ลูกเต็มต้น ใต้ต้นมีลูกมะกรูดเยอะ ติดกับต้นมะกรูด มีต้นไม้ ต่างสายพันธุ์ 2 ต้น สูงเป็นพุ่ม มีดอกสีขาวโต อีกมุมของหน้าบ้าน มีกอข่าเป็นพุ่มใหญ่ ครับช่วงนานมาไม่เคยเด็ดมาแกงเลย เหมือนหลังบ้านมีต้นมะนาวสูงใหญ่ แบบลูกมะนาวสีเหลือง ลูกโต กิ่งบางกิ่งย้อยต่ำ ลอดศาลา นั่งโต๊ะ กิ่งมีลูกสีเหลืองใหญ่ งดงาม ความเป็นจริงที่กล่าวว่าธรรมชาติ มากประเภทอยู่รอบบ้านและตัวเรา ให้ความงดงามสดชื่น และมีมากประเภท สามารถนำมาประกอบ ปรุงอาหารได้
หลังบ้านเป็นทางลง ก่อน 30 ปี ตอนลูกยังเรียนมัธยม ให้สร้างศาลาทรงไทย และทำอ่างน้ำกลมใหญ่ น้ำอุ่น หมุนรอบตัว ตอนเด็กอ่างอาบน้ำ ลูกชายลูกสาวหลังจากโรงเรียน จะชอบไปลงแช่น้ำอุ่น น้ำหมุนรอบๆ ตัว
พอวันนี้อ่างถูกปิดเงียบศาลาของอ่างน้ำเป็นศาลาทรงไทย ปัจจุบันกลายเป็นสถานที่โชว์ภาพ (อาร์ทแกลเลอรี่) สวยงาม อีกมุมด้านติดวิวทะเลภายใน ผมทำเป็นที่พัดกอล์ฟ ตรงติดกับด้านพัดกอล์ฟ มีต้นเรดหวูดใหญ่ 3 ต้น แม่บ้านชอบไปนั่งใต้ต้นเรดหวูด อ่านหนังสือ มองดูวิวมหาสมุทรแปซิฟิก ช่วงเป็นอ่าวมีเกาะ เห็นสะพาน วันเสาร์-อาทิตย์ อากาศดี คนออกเรือใบวิ่งโต้ลม
ชีวิตคนกับธรรมชาติ อยู่ด้วยกันเสมอ ธรรมชาติมีแต่ให้คุณ ร่มเย็น งดงาม ที่โต๊ะผมนั่งเขียนหนังสือ พื้นสูงจากถนน กระจก 3 ด้าน ด้านหน้าถนนลาดลงอ่าว มองเห็นวิวสะพานอย่างเบย์บริดจ์ สะพานโกลเด้นเกจ
มองไปรอบๆ บ้านและถนน เป็นธรรมชาติถึงแม้จะไร้ชีวิต แต่ความงดงามของต้นไม้บ้าน รถวิ่งขึ้นลง คนสูงอายุหลายคู่เดินจูงมือ เป็นการออกกำลังกาย การจูงมือถึงอายุจะมากไม่พูดจา แต่พฤติกรรมการจับมือคุยกัน ข้ามถนนดูแลกัน มันคือ ความรัก และความอบอุ่น เป็นคู่ชีวิต เกื้อกูล ดูแลและรักใคร่
ถนนตรงข้ามมองเห็นผู้ชายจูงรถจักรยาน มือซ้ายอุ้มลูก เดินมาเคาะประตูบ้านตรงข้ามฟากถนน เป็นบ้านยาว 2 ชั้น เจ้าของบ้านเป็นคนญี่ปุ่น ให้เช่า คนมาเช่า ทำเป็นโรงเรียนเลี้ยงเด็ก เพราะบ้านเช่ากว้าง 2 ชั้น หลังบ้านกว้างมีอุปกรณ์การละเล่นของเด็ก
เด็กๆ ถ้าช่วงเยาว์วัย ถ้ามีพฤติกรรมมีเพื่อนเล่นหลายคน มีครูสอนการอ่านและแนะพฤติกรรม เด็กจะมีพฤติกรรมการดูแลทางคุณความดี
อย่างช่วงผมเป็นเด็ก หลังจากจบประถม 4 อยู่อยุธยา แม่นำไปฝากเป็นเด็กวัดราชบพิธ เป็นศิษย์ “สมเด็จพระสังฆราช สมเด็จพระพุทธโฆษาจารย์” ช่วงผมเรียนประถม ประถม 1-4 ที่จังหวัดอยุธยา เรียนโรงเรียน “วาสนานุกูล” เป็นนามสกุลของสมเด็จพระสังฆราช ท่านเกิดที่อยุธยา สร้างโรงเรียน ดูแล อุดหนุน อดคุยผมเรียนได้ที่ 1 ทุกปี พ่อแม่เลยฝากเป็นศิษย์วัดราชบพิธ อยู่กับสังฆราช ชีวิตวันนี้ ผมเจริญเพราะสังฆราช แม้แต่ช่วงเรียนปริญญาโท ก็มาเรียนอเมริกา รัฐออริกอน การศึกษาของผมและแม่บ้านเคยได้มาเรียนอเมริกา ได้ทุน การศึกษาทำให้ผมพัฒนาลงทุนการศึกษากับลูก 2 คน ลูกสาว ลูกชาย เรียนเอกชนดีๆ มีชื่อของเบย์แอเรีย ลูกสาวจบ MD (จบหมอ) จากมหาวิทยาลัยเคมบริดจ์จากอังกฤษ ลูกชายจบด็อกเตอร์ (PhD) จากมหาวิทยาลัยมานัว (รัฐฮาวาย) การบอกเล่าที่ผมแชร์ ผมคิดแบบครู “กระตุ้นพฤติกรรม” ของคนอ่าน