ความจริงหรือความคิด
ไพฑูรย์ สุขสิขารมย์
ความจริงหรือความคิด 24 ธันวาคม 2565

คำพูดที่ว่า ทุกสิ่งจะมีชีวิต หรือไม่มีชีวิตต่างมีหน้าที่ เวลานี้ประมาณ 6:45AM ของวันศุกร์ ถือกาแฟร้อนๆติดมือ การดื่มกาแฟผมนิยมเลือกแก้วกาแฟตามความชอบด้วย จะใช้แก้วเป็นลวดลาย ไม่มีสี คงเกิดจากการหล่อเป็นรูปร่าง รุ่นเก่า เช้านี้ติดมือมาด้วยคือผลไม้ ที่บ้านแม่บ้านชอบผลไม้ จะมีติดกระจาดไว้เสมอ อย่างแอปเปิล เลือกยี่ห้อที่ชอบพออย่างฟูจิ เหตุผล หวาน กรอบ ส้ม และที่ขาดไม่ได้คือ “อโวคาโด้” แม่บ้านจะศึกษาประโยชน์ของผลไม้ต่อสุขภาพ แต่สำหรับผมไม่สนใจ เพียงสนองความชอบพอ แต่สำหรับผมไม่สนใจ เพียงสนองความชอบพอก็ซื้อมาทาน

การดื่มกาแฟ ผมจะดื่มเฉพาะช่วงเช้า จะถามเหตุผล ก็คือความเคยชิน รับรู้ว่าเช้าตื่นมา กาแฟทำให้ตื่นตัว และที่สำคัญการทำกาแฟ สามารถเริ่มกิจกรรมของชีวิต ชอบกาแฟไม่เติมอะไร หลายคนเรียกว่ากาแฟ “เปลือยล่อนจ้อน”

นำกาแฟและของข้างเคียง มาที่โต๊ะหน้าบ้าน ครับเช้ามืด ก่อน 6:00 AM ยังมืด วันนี้ฝนตก ถนนเปียก เวลารถวิ่งเสียงดังครับอดนึกถึงเวลาเรียนวิทยาศาสตร์ สรรพสิ่งเกิดเสียง เคลื่อนที่ ย่อมเกิดจากปฏิกิริยาอย่างน้อย 2 อย่างกระทบ เสียดสี เหมือนปฏิกิริยาตอบโต้ของหนุ่มสาว มองลอดหน้าต่าง ฝนหยุดพักผ่อน อากาศชื้น ครับวันนี้หนาว มีคุณผู้หญิงเดินจูงหมา ไม่สนใจธรรมชาติรอบตัว จะหนาว ฝน เวลารถวิ่งอาจส่งน้ำจากรถบนถนนได้ ตอนเป็นเด็กอยู่บ้านต่างจังหวัด อยุธยา บ้านมีสุนัขหลายตัว เช้าหน้าที่ของผมนำน้ำข้าว ผสมกับข้าวและของเหลือทานใส่รวมกัน แยกใส่ตามภาชนะให้สุนัข ครับหมาทุกตัวก็มีความสุขกับอาหาร ไม่เคยติว่าไม่อร่อยจากอาหารเหลือ ยังทำหน้าที่คนแปลกหน้าเดินผ่านจะเห่า บอกเจ้าของ บางครั้งแยกเขี้ยว วิ่งเข้าหา เจตนาอาจจะทำร้ายผู้มาเยือน ครับสำหรับหมาไม่มีกฎเกณฑ์มากมายเหมือนมนุษย์ มนุษย์ส่วนมากหวังผลประโยชน์ด้วย แต่หมาการเห่าวิ่งจะทำร้ายคือ หน้าที่ที่มีต่อเจ้าของ ถ้าจะบอกว่าตอบแทนพระคุณที่ให้ข้าว ให้น้ำ เจ็บป่วยดูแลรักษา

ทุกวันนี้คนนิยมเลี้ยงสุนัขรองมาคงเป็นแมว สำหรับผมไม่เคยรังเกียจสุนัข แต่ชีวิตไม่อยากต้องรับผิดชอบพาไปหาหมอ ตัดขน เจ็บป่วยไปหาหมอสัตว์ ดูแลตัวเอง คุยกับลูกหลาน ชีวิตก็สุโขแล้ว ผมมีความเชื่อการลงทุน เงินและเวลากับลูกหลานประเทศชาติเจริญ ครับระหว่างผมนั่งบนโต๊ะ เสียงรถมาเก็บขยะ เริ่มทำงานแต่เช้า ทุกบ้านจะมีถัง 3 ประเภท ประเภทหนึ่งคือขยะที่ไม่มีประโยชน์แล้ว สองใบไม้ถังสีเขียว ครับจะนำไปรีไซเคิ้ล กลับมาเป็นปุ๋ย อีกถังหนึ่งสีเทา ของใช้ ที่สามารถนำไปพัฒนาใหม่ สร้าง ขายในตลาดได้ อย่างประเภทกล่องกระดาษ ขวด และพลาสติก

มองดูบ้านตรงข้าม ตอนผมมาอยู่ใหม่ๆ เกิน 40 ปี บ้านตรงข้ามเป็นหญิงพื้นเพ เชื่อสายเป็นชาวญี่ปุ่น อยู่คนเดียว บ้านสองชั้น ชั้นบนคงสามารถมองเห็น เบย์สะพานโกลเด้นเกจ ตัวเมืองซานฟรานฯ เกาะต่างๆ ยิ่งช่วงวันหยุดฤดูร้อน สายหน่อยเรือใบมากมายออกมา วิ่งให้ลมพาเรือไปตามทิศทางที่เจ้าของชอบ เพียงนั่งท้ายเรือ

คอยควบคุมหางเสือเรือ ให้ไปตามทิศทางที่ตัวปรารถนา กลางวันและบ่าย อาจมีไวน์เป็นส่วนของชีวิต ชีวิตผมยอมรับชอบดื่มไวน์ ดื่มเฉพาะช่วงอาหารมื้อเย็น กลางวันและเช้าจะไม่แตะต้อง หลายคนเย้าจะดื่มเวลาไหนก็ขัดกับหลักของพุทธศาสนาทั้งนั้น ผมฟังแล้วยิ้ม คิดกับตัวเอง “โนคอมเม้นท์” คือไม่ตอบโต้ ยอมรับว่าประเภทแอลกอฮอล์จะปรับพฤติกรรมของมนุษย์ เรื่องเรือ อดนึกถึงชีวิตตอนเป็นเด็ก บ้านติดแม่น้ำป่าสัก ทุกปีน้ำจะท่วมพื้นดินต้องพายเรือไปโรงเรียน พ่อแม่หากินกับแม่น้ำ คือการค้าขายข้าว มีเรือใหญ่ไปซื้อข้าวตามบ้านคน มีคนงาน พอถึงวันนี้ แม่น้ำลดความสำคัญทางคมนาคม แม่น้ำเคยเป็นที่อาบน้ำของชาวบ้าน ซักผ้า และหลายอย่าง ทุกวันนี้ แม่น้ำคลองเป็นเพียงบรรยากาศเสริมต่อชีวิตเท่านั้น แต่ต่างจังหวัดแม่น้ำก็ยังเป็นที่หากิน จับปลา ทำโป๊ะเลี้ยงปลา

วันนี้ บ้านตรงข้าม เพื่อนบ้าน ละโลก หลานชายและครอบครัวย้ายมาจากฮาวาย ครับมีต้นไม้ผลัดใบหลายต้น ผมมองลอดหน้าต่าง บางต้นใบจะเปลี่ยนสีเป็นสีเหลืองทั้งต้น มีบางต้นเปลี่ยนจากสีเหลืองแห้งเป็นน้ำตาล เริ่มร่วงทับถมบนดิน ไม่นานใบสีน้ำตาลก็จะร่วงหมดต้น ปล่อยให้กิ่งก้านว่างเปล่า ฝนทำหน้าที่หลังจากนี้ถึงฤดูกาลใบไม้ผลิ ใบอ่อนก็ออก ความเขียวสวยงาม ใบที่แห้งหมดสภาพ ทับถมปล่อยไว้ เบื้องต้นรักษาความชื้นของน้ำ นานวันสลายกลายเป็นดิน ปุ๋ย ธรรมชาติให้คุณเสมอ

ผมมีหลานชาย 3 คน อายุ 12-14-16 คนอายุ 12 กับ 16 เล่นซ็อกเกอร์ ทีมเล่นดี ปีนี้ไปแข่งขันที่รัฐ Indiana ชนะ ส่วนคนกลางอายุ 14 ปี เคยเป็นแชมป์ยูโด แต่ 2-3 ปี เล่นเรือใบ แข่งขันได้รางวัลที่ 2 วันนี้โทรคุยบอกว่าซัมเมอร์จะมาอยู่กับตายาย เล่นเรือใบ ครับเขาชอบให้ผม สอนคุ้กอาหาร วันนี้เขาคุยกับยาย อาทิตย์หน้า ตอนไป “ตาฮิติ” เช่าบ้านอยู่กัน จะเป็นลูกมือตาคุ้กอาหาร ครอบครัวชอบการเดินทาง

ผมหยุด ซิบกาแฟ กาแฟเริ่มเย็น คนดื่มกาแฟ พูดเหมือนกัน ต้องดื่มกาแฟร้อนถึงจะได้ความรู้สึก กาแฟเริ่มอุ่นไปทางเย็น ผมไม่สนใจมากนัก แม่บ้านแต่งงานกันมาเกือบ 50 ปี บอกว่าผมมีชีวิตเรียบง่ายไม่สนใจอะไร

ผมละสายตาจากการเขียนหนังสือ มองลอดหน้าต่างไกลสุดสายตา ตึกซานฟรานซิสโก ถึงฝนยังตก แต่ถ้าท้องฟ้าไม่มี เมฆ หมอก จะเห็นแสงไฟ หลากสี สูงต่ำ ตามสภาพความเป็นจริงของตึก สวยงาม ครับชีวิตคน ทุกสิ่งที่สัมผัสจะชอบหรือไม่ชอบ แต่ถ้ารู้จักปรับ “ทัศนคติ” มองตามสภาพความเป็นจริงชีวิตที่เป็นกระแสความคิด ออกจากตัวเราสัมผัสกับวัตถุ จะเป็นสิ่งที่รับรู้ พอใจ ไม่เป็นความทุกข์

ช่วงชีวิตผมเติบโต เรียนมัธยมอยู่วัด สิ่งที่สังฆราชสอน มองทุกสิ่งด้วย “สติ” คำว่าสติ คือใช้ความคิดพิจารณา ศาสนาสอนให้จิตมีความสงบ น่าจะเป็นจิตคนละด้านกับความหดหู่

ละสายตาจากซานฟรานซิสโก มองดูร้านค้า 7-11 ระยะห่างช่วงบล็อกเดียว โลโก้ของงานสีเหมือนธงไทย โลโก้ความยาวแบ่งเป็น 6 ส่วน ส่วนบนและล่างสีแดง ถัดลงมาจากบนและล่าง สีขาว ตรงกลางใช้ 2 ส่วนเป็นแผ่นเดียวกัน สีน้ำเงิน ครับตรงกับสีธงของไทย แดง ขาว น้ำเงิน ไทยเราสีธงชาติมีความหมาย ชาติ ศาสนา และพระมหากษัตริย์

สำหรับผมได้รับการอบรม ยึดมั่นในคุณความดี คือความถูกต้อง ซึ่งเป็นคุณค่ากับชีวิต เป็นความดีงาม ผมส่งต่อลูกหลาน ทุกสิ่งกระทบกับกายใจ ย่อมได้รับการตีความชีวิต รู้จักพิจารณา ด้วยความรู้ สรรพสิ่งย่อมออกจากจิต กาย น่าจะงดงาม สะอาด บริสุทธิ์