ความจริงหรือความคิด
ไพฑูรย์ สุขสิขารมย์
ความจริงหรือความคิด 24 กุมภาพันธ์ 2561

การเดินทางที่เรียกว่าท่องเที่ยวจะเป็นกรุงเทพฯ ซานฟรานซิสโก หรือปารีส ประสบการณ์ที่เราต้องการสัมผัส และได้ความประทับใจคือการใช้ชีวิตตะลอน ชอบพอสิ่งไหนหยุดดึงความสนใจสู่ใจ พิจารณาค่าเป็นของแน่ความสวยงามย่อมถูกตีแผ่ประทับใจ เวลาล่วงเลยยังจำได้ไม่ลืม การท่องเที่ยวที่สามารถสัมผัสด้วยตัวเอง บ่อยครั้งย่ำต๊อก แม้แต่ตลาดสด หลายคนละเลยมองข้ามความสัมพันธ์ พูดจา คุย ซักถามคนท่องเที่ยวด้วยกัน ตัวอย่างการคุยและซักถาม

ผมครอบครัวไปนครพนม ระหว่างนั่งพักผ่อนร้านในโรงแรม มีฝรั่งสามีภรรยา อายุเกษียณ นั่งคุยถามผมไปเที่ยววัดภูท๊อกหรือยัง เป็นแบบภูเขา สร้างเป็นวงรอบๆ ภูเขาตามธรรมชาติ 7 รอบ บางที่สูงชัน ดูแล้วความแน่นหนาน้อย และย่อมอาศัยการเดินขึ้นลงบรรยากาศเป็นเลิศ ไกด์ซึ่งเป็นญาติอยู่นครพนม 30-40 ปี ยังไม่รู้จักวัดภูท๊อก เห็นไหมขอรับ การคุยกับคนจะคนท้องถิ่น นักท่องเที่ยว ประสบการณ์ใหม่ๆ และสิ่งที่ขาดหายผุด

ช่วงที่กำลังกายใจยังฮึกเหิม ไปไหนๆ สามารถเดินได้ยาวนาน ถึงจะเมื่อยบ้าง แต่ความอยากรู้ อยากสัมผัส ไม่เคยทำให้ความเหนื่อยเป็นปัจจัยให้หยุด เพื่อค้นหาและสัมผัส สิ่งที่เราพบเห็น มากครั้งถึงจำเจ เจอเป็นประจำ แต่ขาดความสังเกต หลายสิ่งหลายอย่างเป็นความน่าสนใจ จดจำ เดินผ่าน สิ่งที่เราพบใหม่ๆ แต่ความรู้และความเข้าใจไม่เคยสัมผัสกับความรู้สึก เราอาจเรียกสิ่งนั้นว่าสิ่งแปลกปลอม ใหม่ในความรับรู้ และน่าสนใจเมื่อยืนพิจารณา ความสวยงามเกิดกับใจ

ชีวิตคุณผม ต่างทำงานหนัก ยิ่งช่วงลูกๆ ยังเล็ก ต้องเล่าเรียน เงินได้ถูกใช้จ่ายทางการศึกษา พอลูกเรียนจบ วัยยังมีพลังงาน คือสามารถเดินทางลาดชัน และขึ้นเขา ถึงจะเหนื่อยบ้าง ก็สามารถไปถึงจุดหมายปลายทางได้ ยิ่งทางใจ ความงอกงามที่เราสัมผัส สามารถต่อยอดเป็นจุดประกาย อยากสัมผัสกับสิ่งต่างๆ อีกมากมาย

2-3 ครั้ง เพื่อนเคยชวนไปเที่ยวทางเรือ “ครูซ” ภายในเรือกว้างขวาง มีหลายชั้น ชีวิตมากคนชอบออกกำลังกาย ครับในเรือมีที่ให้หลับนอน เพียงตื่นเช้าหน่อย จะเดิน หรือจ๊อกกิ้งอยู่กับที่ หรือระยะใกล้ ท้ายและหัวเรือมีไว้ต้อนรับ ในเรืออาหารมีเสิร์ฟตลอดวัน โดยเฉพาะอาหารทะเลมีไว้บริการ ยิ่งเก็บเงินไว้ตอนทำงาน สามารถอยู่ห้องมีหน้าต่างติดทะเลและมีประตูเปิดออกไป มีเด็คจะยืนเกาะราวอยู่รอบๆ เรือ หรือเก้าอี้จัดไว้ให้ เชิญตามความพอใจ จะยืดสายตามองดูทะเลกว้างไพศาล ไม่เห็นจุดของพื้นดิน หลายแหล่งอาจมองเห็นฝูงปลาวาฬ ผมเคยนั่งเรือที่รัฐวอชิงตัน เมืองเบลลิ่งแฮม อยู่เหนือซีแอตเติ้ลประมาณ 100 ไมล์ เมืองนี้มีทะเลภายใน ล้อมรอบมีภูเขา มีป่าไม้เยอะ ครับคนอเมริกันยอมรับสิ่งที่คนส่วนมากปฏิบัติ ช่วยกันอนุรักษ์ความเป็นธรรมชาติไม่ทำลายลักตัดต้นไม้ ไม่ลักลอบยิงสัตว์ที่เป็นสัตว์อนุรักษ์ ยิ่งบุกรุกป่าสงวนสร้างบ้านเป็นของตัวเอง ครับทุกคนยึดความถูกต้อง ความศักดิ์สิทธิ์ของกฎหมายคือชีวิตจิตใจของคน เราอนุรักษ์สิ่งธรรมชาติไม่เพียงตัวเราเอง ยังส่งความงดงามถึงลูกหลาน เราสามารถสัมผัสได้ ที่ที่เป็นธรรมชาติติดทะเลติดแม่น้ำ จะยังเป็นของบ้านเมือง เราประชาชนสามารถเดิน นั่ง และมีกิจกรรม ตอนผมอยู่ทุกเช้าจะเดินไปท่าเรือ เรือโดยสารไปอลาสก้า อีกที่เป็นทางเดิน สร้างออกนอกทะเล เรียบชายฝั่ง บ่อยครั้งผมหิ้วแซนวิช นั่งทาน มีเก้าอี้นั่งตามมุมที่มองเห็นธรรมชาติ เคยหยุดมองริมฝั่ง มีสาหร่ายทะเลเป็นแพมากมาย ลมและคลื่นส่วนมากจะสงบ เพราะเป็นทะเลภายใน จะมีปลาเล็กๆ เรียก “สเม้ล” เกิดและเติบโตที่นี่ เป็นอาหารปลาด้วยกัน และยังเป็นอาหารคน โดยเฉพาะการวิจัยมีคุณค่าทางอาหาร

ที่ท่าเรือผมกับภรรยาเคยอาศัยเรือเดินทางไปเที่ยวเกาะ “ซานฮวน” คนอเมริกันนิยมไปพักผ่อน และสามารถนั่งเรือท่องเที่ยวไปดูฝูงปลาวาฬ เกาะนี้มีสวน “ลาเวนเดอร์” กว้างขวาง ร้านอาหารทะเลติดทะเลเยอะ คนอเมริกันชอบเช่าจักรยานขี่ เกาะกลางมหาสมุทร เวลาลมสงบจะสวยงาม ภายในเรือยามค่ำมืด เสิร์ฟอาหารมื้อเย็น เชิญเลือกจะให้คนเสิร์ฟ หรือจะบริการตัวเอง มีดนตรี สามารถเต้นรำ หลายคนอยากเสี่ยงโชค ครับบ่อนเล็ก มีแมชชีนให้โยก หรือจะเล่นโป๊กเกอร์เชิญเถอะขอรับ หลักของการพนัน ถ้าสามารถควบคุมจิตใจของตัวเองได้ เล่นพอสนุกได้เสียที่เรียกว่าผ่อนคลาย ความเดือดร้อนย่อมไม่ยุ่งเกี่ยว แต่สำหรับผม เป็นคนงก ได้นิดหน่อยความรู้สึกน้อยไป สุดท้ายควักกระเป๋า ว่าง หน้าซีด เดินสวนกับภรรยา เธอเดินหนี เปล่าไม่ใช่ไม่ชอบหน้า แต่คงจะเป็นเพราะนิสัยตื้อขอเงิน ถึงแม้การท่องเที่ยวทางเรือจะสะดวก ไม่กังวล สำหรับผมไม่มีตัวเร้าให้เกิดความอยากรู้อยากเห็น ผมติดนิสัยการท่องเที่ยว ต้องซอกแซก ถึงที่พักดูแผนดี โปรแกรมวันรุ่งขึ้น คงเหมือนตอนนี้นั่งพักย่านธุรกิจกรุงเทพฯ นั่งนานความรู้สึกเบื่อ จะใช้วิธีลุกเดิน อาจแวะช็อปปิ้งตามกระจกของร้านมองออกนอกถนน รถเข้าแถวถนน 3 เลน รถจอดเรียงแถว 4 คัน มหัศจรรย์นักท่องเที่ยวออกเสียงเรื่องรถติด กรุงเทพฯ น่าจะเป็นเมืองต้นๆ หลายวันเคยจัดอันดับรถติด แอล.เอ.เป็นอันดับหนึ่ง มอสโคอันดับสอง ซานฟรานซิสโกสาม อันดับสี่นิวยอร์ก

แต่รถติดแล้วเป็นความมหัศจรรย์เมืองไหนๆ ไม่สามารถเทียบกรุงเทพฯ ได้ กรุงเทพฯ มีมอเตอร์ไซด์เยอะ เหตุผลรถมอเตอร์ไซด์เป็นรถรับจ้าง ถ้าคิดว่าไปตามนัดไม่ทัน หลายคนคิด รถมอเตอร์ไซด์รับจ้างช่วยได้ คนโดยสารนั่งท้ายสองมือโอบรอบเอว สวมหมวกกันน็อค การสวมหมวกเป็นกฎหมาย เพราะมอเตอร์ไซด์มีอุบัติเหตุบ่อย เกิดถูกชนรถล้ม คนขับและผู้โดยสารจะล้มตาม หมวกป้องกันศีรษะ เพราะศีรษะคือหัวใจทางความคิด การเคลื่อนไหวของร่างกาย สมองด้านล่างเกี่ยวกับระบบการหมุนเวียนภายใน

ผมมองในแง่ดี รถรับจ้างอย่างแท็กซี่และรถมอเตอร์ไซด์ น่าจะมีประกัน มากน้อยคุ้มกันอุบัติเหตุ เกิดแขนขาหัก ผมว่าคงจะจ่ายให้ได้ เกิดพิการตลอดชีวิต การค้ำประกันจะสามารถส่งเสียตลอดไปได้หรือเปล่า

ผมชอบดูเวลารถหยุดรอไฟแดง รถจะเรียง รถมอเตอร์ไซด์รับจ้างจะแซงขวาแซงซ้าย แม้แต่ทางแคบ สำหรับผมเคยพนันกับความรู้สึกจะผ่านไปได้ไหม สุดท้ายจะมาจอดรถแถวข้างหน้า เก่งครับ แต่ระบบการใช้รถ ลูกสาวลูกเขยย้ำควรซื้อรถใหญ่ อุบัติเหตุเราปลอดภัยมากกว่าเจ็บกาย เพราะถ้าโชคร้ายพิการ ความปกติของชีวิตหาย

กรุงเทพฯ เดือนพฤศจิกายน กับธันวาคม แดดจ้า ไม่เคยรู้สึกหนาว เวลานอนประหลาด ผมจะห่มผ้า แต่เปิดแอร์ทั้งคืน ค่าไฟเมืองไทยเทียบกับรายได้ แพงมาก

วันนี้ตั้งใจจะนั่งรถเมล์ และรถไฟฟ้า จะหยุดลง พอเที่ยวเป็นที่พอใจก็มานั่งรถต่อ ครับจะรถเมล์ รถไฟฟ้า จะตีตั๋วยืน เวลาเลิกงาน งานเข้า ตั๋วยืนเบียดเพิ่ม เคยคิดราคาน่าลดช่วงนี้ สังคมไทยยุคนี้จิตใจของคนหนุ่มสาวที่อาศัยรถสาธารณะ ที่เห็นรู้สึกเมตตาเด็กและคนชรา จะลุกแล้วเชิญให้นั่ง ทางตรงกันข้ามถ้าคนโกงชาติรู้จักอาย ประเทศไทยนอกจากจะน่าอยู่ ยังสามารถตะโกนได้คนไทยหมดคนโกงกิน แล้วผมจะรอ เสียงคนกระแซะ รอไหวเหรอ