ความจริงหรือความคิด
ไพฑูรย์ สุขสิขารมย์
ความจริงหรือความคิด 5 พฤษภาคม 2561

บ่ายเห็นต้องกลับที่พัก คงจะเหมือนระบบทั่วไปของเมืองทั่วโลก ก่อนเข้างานและก่อนเลิกงานและเลิกงาน ปล่อยช่วงยาวหลังจากเลิกงานจนมืดค่ำคนยังหนาแน่น ถ้าขืนกลับช้านั่งรถเมล์กลับ คนแน่นเบียดเสียด อดคิดคนต่างไม่คุ้นหน้า ไม่รู้จัก เบียดเสียดบนรถเมล์ ถึงเวลารถเบรก เซชนกันบ้างต่างยิ้ม ไม่ถือสา ให้อภัย ถ้าเป็นแบบนี้ในสังคมเพื่อนบ้าน หรือเดินสวนกันบ่อย ยิ้ม ทักทายความเป็นมิตรย่อมมีให้กันและกัน มิตรภาพของคนมีแต่ให้คุณ

ดูได้การไปทำบุญที่วัด ต่างมาจากโพ้นของมุมโลก อยู่ดีๆ วันหนึ่งวัดมีงาน ทำบุญคนมากมาย มุ่งหน้าสะสมคุณความดี ยืนติดกัน รอตักบาตร ความชอบพอ สนิท กลายเป็นเพื่อน มีบางอย่างในใจ จะสุขหรือทุกข์ได้ระบาย

6-7 โมงเย็นหน้าตลาดสด คุณผู้หญิงจะเรียกว่าแม่บ้าน ดูแลอาหารของบ้าน ตอนเช้าจะทำเตรียมไว้ในตู้ ลูกหรือพ่อบ้านกลับก่อนหิว หยิบมาอุ่น ก็มีอาหารทานแล้ว แต่ที่อยู่เลยเวลา เตรียมซื้อผักสด เนื้อ ไว้เตรียมเพื่อครอบครัว

โลกเจริญ คนเปิดใจ ย่อมรับหน้าที่รับผิดชอบ ต่างรู้ว่าผู้หญิง แม่บ้านจะว่าอ่อนแอกล่าวพ่อบ้านก็ไม่ผิด แต่ความรับผิดชอบมากกว่า มีความอึดสูง ที่บ่นบ้างหรือชอบนินทา มันเกิดจากฮอร์โมนธรรมชาติให้มา

เป็นความจริง ลูกๆ ที่มานะเล่าเรียนช่วยรดน้ำผัก ถูบ้าน ถึงเวลาตื่น เข้าห้องน้ำช่วยตัวเอง เข้าส้วมรู้จักกดน้ำ แปรงฟัน แต่งตัวไปโรงเรียน ตรวจการบ้าน คนจ่ำจี้ บอกกล่าวตลอดเวลา คือแม่ เมียเคยบอกว่าผมเป็นพ่อที่ใช้ได้ ขยันทำมาหากิน แต่ไม่ค่อยมีเวลาดูแลลูก ยิ่งช่วงลูกเล่นกีฬา เชิญผู้ปกครองประชุม พ่อหายหน้า พ่อตื่นแต่มืด ออกจากบ้านตีห้า บอกว่าไปตลาด ซื้อของเข้าร้าน แม่ยิ้ม รู้ว่าพ่อจะแวะสนามกอล์ฟ จะตีลูกสักตระกร้า จะหัดชิป หรือพัด และคงจะนั่งดื่มกาแฟ อ่านหนังสือพิมพ์ วันไหนไม่รีบกลับเข้าร้าน จะเล่นกอล์ฟ 9 หลุม แม่ไม่เคยตำหนิ มีบ่นบ้าง เป็นเรื่องธรรมดาของแม่บ้าน ทางการวิจัย เพศแม่จะใช้สมองด้านขวา คือด้านคลุกคลีกับหน้าที่กิจกรรมของชีวิต เย็บเสื้อผ้า ทำขนม พูด บ่น เฮ้ย จะตำหนิอะไรล่ะ เพราะชีวิตคนเกิดมาธรรมชาติมอบ ร่างกายและฮอร์โมน แตกต่างให้กันและกัน

ลูกส่วนมากจะสนิทสนมกับแม่ อ้อนแม่มากกว่าพ่อ สิ่งที่ลูกกระทำคือเหตุผลและผลเด็กจะฉลาด การอ้อนคือเพิ่มพูนความรักจากพ่อ-แม่

รถเมล์มาจอดหน้าเซ็นทรัลบางนา เบียดคนลงรถ ครับพอวันนี้ ความสมดุลของขา และร่างกาย หดหาย จะก้าวลงบันไดก่อนโน้นเดินลงเพียงโค้งตัวนิด ไม่ต้องอาศัยจับราวก็มั่นใจในความปลอดภัย แต่ตอนนี้ถ้าประมาท รีบลงไม่มองหาที่เกาะจับ อาจก้าวพลาดล้มลงได้ เป็นความจริง คนสูงอายุกระดูกเปราะ ล้มอาจกระดูหัก ครับยากที่ติดกันได้ง่าย ชีวิตย่อมต้องระมัดระวังเพื่อนรุ่นไม่ห่างกัน มีปัญหาเรื่องสุขภาพเยอะ

ทางเข้าเซ็นทรัล มีหลายทางแต่ยังไม่เข้าเดินเลยไปที่ซอยของเซ็นทรัล ช่วงเช้า เย็น ริมถนนขายของเยอะ คนมากมาย มีเจ้าประจำซื้อกลับบ้าน ราคายุติธรรมเสมอ คนขายของไม่ต้องเช่าที่ ไม่ต้องจ้างแรงงาน ช่วยหั่น ช่วยปลอก คนขายคือคนเดียวกัน เป็นผู้หญิงวัยกลางคนเป็นส่วนมาก เลิกขาย ซื้อ วัตถุดิบ เข้าบ้านเตรียมเป็นอาหารขายวันรุ่ง ครับขายเสร็จ ก็หาบกระจาดกลับบ้าน หลายคนเดินไกล ที่เดินไม่ถึงก็ต้องนั่งรถกลับบ้าน ถึงจะเจ็บบ้าง ไม่เคยบ่น คำพูดเดียวออกจากจิต แม่คือคนรับผิดชอบ

หลักของชีวิต เราพูดกันเสมอ ชีวิตสามารถเลือกได้ จะถึงจุดไหนก็อยู่ที่ต้นทุนชีวิต สำหรับผมมาจากครอบครัวชั้นกลาง แม่เป็นหลักในความคิด พ่อจะตามและเห็นด้วยกับแม่ แม่บอกว่า ถ้าสามารถให้ลูกได้เรียนหนังสือ ได้มากเท่าไหร่ ความอยู่รอดของชีวิต และความเจริญเติบโตก็มีมากเท่านั้น

แม่สั่งทุกคนเรียน ลงทุนให้ไปได้ตามความสามารถและสติปัญญาของลูกเอง พ่อแม่ และแม่บ้านผม มีความคิดตรงกัน การศึกษาจำเป็น น่าจะลงทุน ถ้าพอมีช่องทำมาหากิน สามารถมีเงินส่งเรียนเอกชนดีๆ ควรทำ เงินลงทุนทางการศึกษา เท่ากับเราให้ลูกเป็นปัญญา ดีกว่าเก็บไว้ให้ตอนเราชรา เมียลงทุนกับลูกมากตอนลูกสาวเรียนหมอ ลูกถามมีเงินส่งเรียนไหม แม่บอกจำเป็น แม่ขายสมบัติ ผมเดินดูของริมถนน ผมยอมรับ เป็นเพียงนักบริโภคทางสายตา และจิตวิญญาณเท่านั้น เพียงดูให้ชีวิตสัมผัสกับความมานะ ขยันอดทน อดคิดเลย หลายปีมาพวกเทศกิจ คนดูแลขายของตามริมถนนจะมาขับไล่ คนยากจนหากินเพื่อชีวิตและครอบครัว จิตใจมีหนึ่งเดียว อยากช่วยเหลือตัวเอง ไม่ต้องการให้รัฐมีภาระ สังคมจะมีคนจนหรือคนรวย แม้แต่คนชั้นกลาง ถ้ารัฐบาลเปิดใจกว้าง “ประกอบด้วยปัญญา และเมตตาธรรม” สิ่งที่ชาวบ้านมาขายของริมทางถนน อาจเกะกะบ้าง แต่ทุกคนไม่เคยมีจิตเป็นอาชญากรรม ต้องการส่งต่อลูกเป็นคนดีของสังคม

ศาสนาเน้น เมตตา และเกื้อกูลต่อกัน โลกจะน่าอยู่ เมื่อสองวันผมนั่งดูทีวี หมออเมริกัน และพยาบาลอุทิศกายใจ เดินทางทางเรือ เรียกเรือว่า Mercy Ship จะแวะไปยังเมืองต่างๆ เด็กประเทศแอฟริกา เด็กขาโก่ง เดินผิดปกติเยอะ คนเป็นต้อตาบอดมีเยอะ แม้แต่สังคมคนต่างจังหวัดของไทย ผู้ใหญ่เยอะเป็นโรคคางบวม ขืนปล่อยเนื้อที่บวมจะทับหลอดลม และตายที่สุด ประเทศเหล่านั้นขาดหมอ เรือลำนี้แวะไปที่ไหน คงจะเหมือนพระผู้เป็นเจ้าทรงมาโปรดเมตตา ดูแลช่วยเหลือ แท้จริงแล้วทุกคนสามารถทำตัวเป็นพระเจ้าได้ เพียงมีจิตเมตตา รักคนพิการ เพื่อนร่วมโลก สละเงินเล็กๆ น้อยๆ

ช่วยเหลือ ซื้ออุปกรณ์การรักษา ยา อุปกรณ์ ผ่าตัด หมอ พยาบาล ทุกคนต่างเสียสละอยู่แล้ว เราสามารถใช้วัด เป็นศูนย์กลางรวบรวมปัจจัย ส่งให้ถึงมือผู้บริโภค หลายคนกลัวเปรตจะแบ่งบุญ พอผมดู อดคิดคนไทยชาวพุทธโดยปกติมีจิตเป็นเมตตา และอเมริกามีวัดมากมาย วัดคือศูนย์รวมน้ำใจ คนไปวัดจะมีจิตเข้าถึงความเสียสละ ผมคิดเลยขอบของการเป็นวัด ถ้าวัดรวมตัว ประกาศของบริจาค เงินเพื่อช่วยคนไทยที่ยากจนดูแลและให้พักพิงใจ ช่วยออกเงินบริจาครักษาโรค เน้นเรื่องพิการของกายเกิดจากโรค

สำหรับผม บุญจะครบวงจรของบุญ หมายความอย่างไร คนไปทำบุญบริจาค คือ ผู้ให้ พระคือผู้รับ พระประกอบด้วยจิตเมตตาเป็นปกติ เมื่อเงินรวบรวมได้ ส่งต่อถึงผู้เดือดร้อน เจ็บป่วย ยากจน “กำลังจะพิการด้วยโรคภัย และขัดสนเงินทองรักษา”

ครับเชิญเถอะขอรับ จะทำให้สิ่งดีๆ ซึ่งเกิดจากจิตใจ เป็นแบบอย่างที่ดีงามของสังคม สำหรับผมเราสามารถดูแลและรักษาตัวเองได้ ถ้าช่วยคนไม่สามารถปล่อยให้ตาบอดทั้งๆ ที่สามารถรักษาได้ คิดอย่างไรครับ