ความจริงหรือความคิด
ไพฑูรย์ สุขสิขารมย์
ความจริงหรือความคิด 14 กันยายน 2556

เดินหลายบล๊อค หยุดหน้าร้าน ไม่ได้ช็อปปิ้งด้วยตานาน เพียงแต่เดินดูของจับต้อง คิดถึงประโยชน์ที่จะใช้และราคา พอถึงวันนี้ทุกสิ่งด้อยประโยชน์ในการใช้สอยไปในตัว จะซื้อยัดเยียดความเป็นเจ้าของหมดเวลาแล้ว บ่อยครั้งเข้าห้องหลังบ้าน มีอยู่สองห้อง สมบัติมากมาย มากสิ่งซื้อมาเกือบ 25 ปี อย่างโต๊ะแกะสลัก เรือสำหรับใส่ของโชว์ โต๊ะเครื่องแป้ง ชุดรับแขก ถ้วยชามไทย ยังไม่แกะกล่อง เคยคิดขยันทำมาหากิน เคยชอบความร่ำรวย ถึงเดี๋ยวนี้ ถึงกระเป๋าจะแฟ๊บตอนปลายเดือนบ่อย แต่ใจก็ไม่ตื่นเต้นกับเงินมากนัก ถ้าถามว่ายังชอบเงินไหม ยังชอบอยู่ แต่เมื่อหมดโอกาสเป็นเจ้าของ คำพูดที่ฟังแล้วดี “จงพอใจกับสิ่งที่มี”

ที่จริงสิ่งที่มีอยากขาย จะได้ไม่เป็นภาระ แต่มากสิ่งคิดวกจะเก็บไว้ให้ลูก ของมากสิ่งเกิดจากการแกะสลัก เวลาผ่านานปี กลายเป็นวัตถุโบราณ จะมีค่ามากน้อยหมดเวลารับรู้ รู้แต่ว่า อยากมอบเป็นสมบัติกับลูกๆ เป็นตัวแทนของความรัก ความผูกพัน

เดินกลับผ่านร้านไปรษณีย์ คนเข้าออกตลอดวัน เกือบทุกอาทิตย์ จะไปยืนเข้าแถว อย่างวันนี้ถือกล่องวัสดุติดมือ ส่งมาจากเมืองแปซิฟิก้า อยู่คนละฟาก เมืองติดทะเล ส่งมาที่บ้านตามที่อยู่ถูกต้อง แต่คนที่จะรับคนละคน และทุกอาทิตย์จะไปส่งจดหมาย ถึงไทยแอล.เอ. (หนังสือพิมพ์) ส่งบทความ มากคนเขาเลือกการส่งที่สะดวกรวดเร็ว คงจะมีก็คงเป็นผมคนเดียว ที่ต้องพึ่งจดหมาย หลังจากหมดงาน ก็ตัดความสะดวกที่ต้องเสียเงิน อย่างโทรศัพท์ แฟ็กซ์ เคเบิ้ล เพราะชีวิตต้องเดินทางไปอยู่กับลูกครั้งละเดือนหรือสองเดือน เคยคุยกับแม่บ้าน เราเดินทางบ่อย บ้านให้เขาเช่า จะได้มีรายได้เพิ่ม คำตอบแล้วเราจะอยู่ไหนล่ะ ถ้าอาศัยอยู่กับลูกนานๆ ก็เป็นภาระเขา และถ้าลูกกลับบ้านจะได้มีบ้านอยู่ เรื่องภาระเราถึงจะเป็นพ่อแม่ ถ้าพึ่งตัวเองได้ ก็ควรทำ

ไปรษณีย์มีการปรับปรุงตลอดเวลา แสตมป์จะออกแบบแตกต่าง เอาสิ่งสำคัญมาเป็นส่วน เพื่อให้คนได้รับรู้ว่าชีวิตที่ผ่านมายาวนาน คนนี้ได้ทำคุณประโยชน์ จนกระทั่งปัจจุบันผลงานของท่าน พวกเราก็ยังใช้อยู่ อย่างท่านเอดิสันคิดหลอดไฟฟ้า คนคิดที่ยิ่งใหญ่ของโลก เขาคิดจากสิ่งที่เรียกว่า “นามธรรม” คิดให้เป็น “รูปธรรม” ฉลาด ทำงานหนัก และท่านเหล่านี้อ่านภูมิหลัง จะมีเวลาพักผ่อน มีเวลาว่างให้ความสุขกับตัวน้อยมาก

พัสดุส่วนมากจะส่งถึงมือผู้รับภายในวันเดียวได้ เหมือนจดหมายแต่ต้องไปถึงไปรษณีย์ก่อนเที่ยง ชีวิตผมส่งกล่องของกินของใช้ไปต่างเมืองบ่อย ตอนลูกสาวเรียนหมอที่อังกฤษ ส่งของกินเป็นกล่องให้ ลูกชายซึ่งเรียนปริญญาเอกวิชาสุดท้ายตอนนี้ ก็ส่งกล่องของกินให้หลายครั้ง เรื่องของกินถึงเมืองลูกเรียนจะมี แต่สิ่งของที่ให้ด้วยความรักความผูกพัน ความคิดถึง ย่อมหาไม่ได้ในตลาด ถึงแม้จะมีเวลาหาซื้อ มีเงินในกระเป๋า บางครั้งเคยคิดคุ้มไหมถ้าคิดค่าเป็นเงิน ชีวิตถ้าเรามีโอกาส ทำสิ่งดีๆ ให้กับลูกได้ จะเป็นเวลาไหนเมื่อไหร่ จะเสียเวลามากน้อย กระทำเถอะ

เหมือนกับครอบครัว เราอยู่ด้วยกัน 20, 40 ปี หรือเกินกว่านั้น พึ่งพา ช่วยเหลือ เกื้อกูล แต่การกระทำทุกวัน จะพูดว่ามันคืองานประจำ งานในหน้าที่ ความตื่นเต้นของชีวิตไม่มี ถ้าจะกล่าวคำว่ารักเธอนะ หรือมีของกำนัลติดมือ ขนมอร่อยๆ ดอกไม้ ต้นไม้ สิ่งใหม่ๆ คือสิ่งต่อเติม ความเกื้อกูลของชีวิต คู่ชีวิตคงเกิด ความรู้สึกฟูกับใจ

เดินผ่านร้านผัก ชื่อ เฮ็ปปี้โปรดิ้วส์ ตั้งมานานมาก ร้านผมตั้งมาสามสิบปี ร้านนี้ตั้งก่อนผม สิบห้าปีที่แล้วเสียชีวิต เจ้าของร้านเป็นคนจีนใต้หวัน ยังหนุ่มกว่าผม ขยันทำงาน เป็นเจ้าของตึกหลังนี้ อาทิตย์อย่างน้อยสองวัน จะมาอุดหนุน ครับเป็นสูตรสำเร็จ แม้แต่ร้านคนไทยด้วยกันใกล้ๆ บ้าน ขายของราคาอาจแพงกว่าที่อื่นบ้าง คนขายบ่อยครั้งขายไม่ดี หน้าตาอาจบูดบึ้ง ไม่ยิ้ม แต่เมื่อเราไปอุดหนุน หาเรื่องคุย ยิ้มออก แปลกนะจะเป็นคนพื้นเพ และได้รับการอบรม แตกต่าง แต่พอยิ้ม ความสุขมีได้คนยิ้ม และคนยืนตรงหน้า ทุกคนที่เติบโตก่อน ได้สอนผมทุกคน ร้านเล็กๆ เป็นทั้งเพื่อน และเป็นที่พึ่งยามขาดสิ่งของ ถ้าช่วยให้ยืนอยู่ได้ จะเป็นประโยชน์แก่ทุกคน และด้วยใจลึกๆ เจ้าของร้านไม่คิดถึงความร่ำรวยและความสุขเกินตัวมากนัก เพียงแต่ให้ครอบครัวได้มีเงินจับจ่ายใช้สอย ลูกๆ มาช่วยงานร้าน รู้ค่าของงาน เรียนรู้จากสายตา พ่อแม่ของเราท่านทำงานหนักทุกวัน มากสิ่งลูกต้องการค่าใช้จ่ายเกินตัวท่าน ท่านก็รีบหามาให้ ลูกเรียนรู้โดยไม่ผ่านตำรา ไม่ผ่านห้องเรียน ไม่ต้องบังคับ รับรู้จากการสัมผัส ถ่ายทอดจากความอดทน ขยัน มานะ ความคิดดีงามจากพ่อแม่สู่จิตใจของลูก

เหมือนกับคนไทย เปิดร้านอาหาร ตอนแรกๆ เป็นลูกจ้าง ล้างจาน ถูร้าน พอผู้ช่วยคนครัวขาด หยิบยื่นมือให้ ขยันและจิตสำนึก อยากมีความก้าวหน้าในชีวิต สองคนผัวเมียทำงานหนักทุกวัน อาทิตย์ 5-6 วัน บางอาทิตย์คนงานขาด เจ้าของร้านอยากให้มาช่วย ครับเต็มใจมาก ทำงานเจ็ดวันไม่มีวันหยุด คนเคยคุยกับผมว่าเขาสอนคนคิดว่าคงไม่นาน จะเปิดร้าน เดินตามรอยคนไทย ที่มีชีวิตมั่นคงกับการเปิดร้าน อย่างน้อย จะมีอาหารกินตลอด มีญาติ ลูกหลายก็มีงานให้ทำ เป็นที่พึ่งได้เมื่อมาจากเมืองไทย พอถึงวันนี้ ผมอยู่อเมริกา 46 ปี มาเรียนหนังสือ พบประคนมากมาย “คนเราถ้าไม่ทิ้งความเพียร ขยันมานะ อยากมีธุรกิจเล็กๆ ต่างก็เป็นเจ้าของได้ และหลายเมืองอย่างแอล.เอ. ธุรกิจร้านอาหารไทยเยอะมาก การแข่งขันย่อมเกิดขึ้น ถ้ายึดหลักราคายุติธรรม คุณภาพดี มีปริมาณถึงกำไรน้อย แต่มีแต่เจริญ ครับชีวิตก็สุขสบาย

คงเหมือนคนอยู่ไม่ถูกต้อง เมื่ออดทนต่อสู้ เดินตามทางของกฎหมาย ปลายทางชีวิตคนไทยทุกคนก็สำเร็จทั้งนั้น อยู่ถูกต้องปลายทางชีวิตมีเงินใช้จ่าย

สิ่งที่ผมอยากเห็น สังคมของคนไทยอยากให้มองประโยชน์ของคนไทยที่อยู่ใกล้ตัวก่อน คนไทยเยอะเลยที่ไม่มีประกันสุขภาพ แม้แต่พระสงฆ์ เรานิมนต์ท่านมาอยู่ ท่านทำหน้าที่ของท่านในทางดีตลอด แต่เรื่องสุขภาพ ฆาราวาส (กรรมการ) ควรคิดเรื่องประกันสุขภาพด้วย

เจ้าของร้านแฮ๊ปปี้โปรดิ้วส์ ได้วางรากฐานไว้ให้ลูก เติบโตให้เรียนจบมหาวิทยาลัย พอตาย สมบัติตกถึงลูก และได้ปลูกฝังให้เรียนรู้เรื่องของอาชีพ

ผมชอบอ่านเรื่องปลา “เซลม่อน” มีสองพวกด้วยกัน ฝั่งตะวันตก คือมหาสมุทรแปซิฟิค โดยเฉพาะจะอยู่ทางเหนือ ออริกอน ซีแอตเติ้ล แวนคูเวอร์ และอลาสก้า เวลาจะออกลูกจะว่ายขึ้นเหนือแม่น้ำ ไกลเป็นหลายร้อยไมล์ ตัวเมียจะทำรัง ใช้หางโบกดินเป็นหลุมวางไข่ ตัวผู้ปล่อยน้ำเชื้อ จะอยู่ในน้ำจืดหลายเดือน พอเติบโตก็มาอยู่ทะเล อาหารที่กินมีปลาเล็กๆ ปลาหมึก กุ้ง พอจะวางไข่ ก็ว่ายขึ้นแม่น้ำ คงจะโดยสัญชาติญาณ พอวางไข่เสร็จไม่นานก็ตาย ธรรมชาติอยู่ได้ทั้งน้ำจืดและน้ำเค็ม คงเหมือนคนมากมายย้ายตัวมาอยู่ในอเมริกา แสวงหาที่ที่เจริญกว่าเพื่อฐานมั่นคงให้กับลูกหลาน

แต่แอตแลนติค ฝั่งตะวันออกจะออกไข่ 2-3 ครั้งแล้วจึงตาย

ครับเซลม่อนเป็นอาหารที่ดีของมนุษย์เติบโตง่าย ตัวเดียวเป็นอาหารคนทั้งครอบครัว ให้ประโยชน์มากมาย แต่สำคัญคือกระบวนการการเติบโตขยายพันธุ์ และคุณค่า ไม่เคยเปลี่ยนแปลง ยังคงสิ่งดีๆ ให้กับมนุษย์

แต่ปัญหามากมายที่เกิดกับปลาคือมนุษย์ อย่างอลาสก้า โรงงานคอปเปอร์ สารตกค้างทิ้งลงทะเล หรือขุด ย่อมเป็นอันตรายต่อปลาเซลม่อน และย่อมเชื่อมโยงถึงมนุษย์

เดินกลับมายังรถที่จอด วายเอ็มซีเอ มาดูอักษร ชอบการออกแบบ ตัววายแยกเป็นสองส่วน อันแรกเหมือนเครื่องหมายบูมเมอร์แรง อันที่สองเหมือนเพชร (สามเหลี่ยม) รวมเป็นวาย เมื่ออ่านออกเสียงคำว่าวาย แปลได้ความว่า “ทำไม” ครับ คำว่าทำไม เกิดกับความคิดเราตลอดเวลา หลักทางการศึกษา ถือเป็นความเจริญทางความคิด เมื่อคนมีความคิด แตกต่างกับความขัดแย้ง ความขัดแย้งเมื่อเกิดจะทำให้ความคิดขาดความเติบโต ระบบในร่างกายติดขัด ถึงจะผ่านไปได้ เข้าสู่ความเป็นปกติ ระบบที่เป็นปกติที่เป็นส่วนดีของชีวิตจะก้าวไม่ถึงขีดความเจริญสูงสุดที่มนุษย์ปกติควรได้รับ แต่ถ้าเป็นความคิด ร่างกายจะกระตือรือร้น สมองหลั่งสารพัฒนา ช่วงระยะการเติบโตของชีวิตที่จะเดินทางปลายทางสูงสุดย่อมไปถึง ระหว่างจะพบสัมผัสสิ่งที่งอกงาม และเจริญมากมาย

เปิดประตูรถ เอาลูกกุญแจใส่ บิดกุญแจเปิดกระจก สายตาสัมผัส พ่อและลูกสาวอายุไม่น่าเกิน 2-3 ขวบ ลูกสาวสะพายเป้ แน่นอนเป็นของเล่นเด็กขนาดนี้ เด็กหญิง เด็กชาย สนใจของเล่นแตกต่าง เด็กชายชอบรถ จับวิ่งมีเสียง ความเร็วตื่นเต้น มากคนมีบล๊อคอักษร เด็กหญิงจะมีตุ๊กตา เด็กเล็กจะชายหรือหญิงสนในหนังสือแล้วพ่อแม่จะพาลูกไปร้านหนังสือ ร้านหนังสือที่นี่จะมีแผนกของเด็ก เด็กวัยรุ่นจะมีนิยายให้อ่านเยอะ นิยายเป็นเรื่องจินตนาการ ฝัน และยึดเป็นแบบอย่าง ประเทศเจริญกับประเทศด้อยพัฒนาเนื้อหา และความคิดเห็นปลูกฝังเด็กแตกต่าง ก็มาจากผู้ใหญ่ซึ่งมีความเห็นแตกต่าง ผมเคยสัมผัสกับผู้ใหญ่ดื้อด้าน เรื่องหลายอย่างเกี่ยวกับชีวิตประจำวัน พอพูดคุยปฏิเสธ ไม่สน ยิ่งเกี่ยวกับความเจริญเติบโต การเป็นพลเมืองมีความคิดเท่าทันกับโลกเจริญย่อมหดหาย

พ่อกำลังหวี และสางผมให้ลูกสาว แม่คงเข้าไปออกกำลัง พ่อและลูกสาวต่อเติมความรักและความใกล้ชิด เป็นความจริง คนในครอบครัวอย่างน้อยวันละมื้อทานอาหารร่วมกัน คุยเรื่องประสบการณ์ชีวิตประจำวันที่ตนประสบ ยิ่งประสบการณ์ใหม่ ถ้าทำเป็นแบบอย่างนำมาเล่า ต่อเติม ภาษาไทยบอกว่าสานคือเชื่อมสิ่งดีๆ ให้เป็นส่วนของชีวิตจริง ชีวิตย่อมเดินไปในแนวทางถูก

เมียเดินหน้ามีรอยยิ้ม กับคนร่วมคลาส น่าจะแก่กว่า เพราะดูหน้าตา และการเดิน แต่ความคิดค้านไม่จริง บางคนอายุน้อยแต่ดูแก่กว่า จะสรุปว่าการดูแลตัวหรือเบื้องบนเป็นคนจัดสรร