ความจริงหรือความคิด
ไพฑูรย์ สุขสิขารมย์
ความจริงหรือความคิด 17 ธันวาคม 2565

เกือบ 7:00 AM ของวันที่ 1 ธันวาคม 2022 เคยมีคนมากมาย พูดจากคำเชื่อว่า พออายุมากอยู่บ้าน ไม่ทำงาน บอกว่ามีเวลาเหลือเฟือ คำว่าเหลือเฟือจะอธิบายให้ได้ความคือเวลาว่างมาก ไม่มีกิจกรรมที่เป็นงานประจำวันทำ ชีวิตย่อมเบื่อหน่าย ครับคำพูดอนุโลมว่าจริง คำว่าจริงผมหมายถึงชีวิต ที่แตกต่างของแต่ละคน อย่างผม ตื่นก่อนตี 5:00 AM ทุกเช้า ไม่มีวันหยุดที่จะยกเว้น ชอบตื่นเช้า พอตื่นลืมตาก็เริ่มออกกำลังบนเตียง ครับคนสูงอายุทุกคนสุขภาพเริ่มลดคุณภาพในการใช้งานมากมาย เดิน ก้าว ปวดเมื่อย แม้แต่ความคิด แต่สำหรับผม อุปสรรคยังไม่เกิด

อายุผมปลายทางจริงๆของชีวิต ต้องดูแลตัวเอง ครับเป็นเรื่องปกติ ทุกชีวิตก็ยังอยากมีความอิสระ แต่พอถึงวันที่ไม่สามารถช่วยตัวเองได้ดี อย่างต้องขับรถไปซื้อของไปออกกำลัง แม้แต่ใช้ชีวิต บางเวลาแบบปล่อยวาง คำว่าปล่อยวางสำหรับผมก้าวมาถึงจุดที่เรียกว่า เลิกสะสมสมบัติแล้ว เริ่มจัดสรรให้ลูกหลาน เวลานั้นอาจไปอยู่กับลูกและหลาน สำหรับลูกสาว สร้างห้องไว้เป็นความพร้อม

ทุกเช้า ตื่น หลังจากออกกำลังบนเตียง ทุกเช้า ประมาณครึ่งชั่วโมง บีบแขน มือ นิ้วมือ ดัดแขน หลังจากนั้นออกกำลังขา งอเข่าทั้งสอง หมุนซ้ายไปขวา 25 ครั้ง หมุนขวาไปซ้าย 25 ครั้ง ยกเท้าทำมุม 90 องศา บีบ หมุนข้อเท้า ครับสลับขาขวาขาซ้าย หลังจากนั้น ยกเท้า กับ แขน ทีละข้าง อย่างละ 25 ครั้งขึ้นลง สุดท้ายนอนราบ ยกตัวขึ้น 5 ครั้ง

อาทิตย์ละ 5 วัน จันทร์-ศุกร์ จะไปออกกำลัง วายเอ็มซีเอ ครับคลาสแตกต่าง ทั้งเวลาและการฝึกสอนของครู แต่ละคลาสชื่อแตกต่าง และเน้นพฤติกรรมการออกกำลังแตกต่าง การออกกำลังบางประเภท นั่งโต๊ะ ยืน นอน ครับจะออกกำลังชื่ออะไร “ผลได้เหมือนกัน คือ ออกกำลัง ส่วนประกอบของกาย” ในคลาสเต็มห้องผู้หญิงมีมากกว่าชาย

ครับระหว่างออกกำลัง ทางกาย จิต ไม่คิดเรื่องไร้สาระ จะพัฒนาตามพฤติกรรมที่กำลังดำเนินอยู่ อาจจะอนุโลมว่าจิตว่าง คือคำว่าว่างยังรับรู้ คิดในเรื่องออกกำลัง ไม่ออกนอกเรื่องมีพฤติกรรมยุ่งยาก

มนุษย์เรา พฤติกรรม การพัฒนาชีวิต มี 2 ระบบ ทางกาย คือ การออกกำลัง ทางแขนขาตัว แม้แต่สมอง การออกกำลังอีกอย่าง ซึ่งอาจแตกต่างจากชื่อ ที่ว่าออกกำลังทางจิต คืออย่างนี้ครับ ทำ ปล่อยวาง ไม่ยึดถือ โกรธรู้จักให้อภัย ศาสนาสอน โยมรู้จักพัฒนาแม้แต่การมอง รับรู้ในทางถูกต้อง ให้อภัย ชีวิตปกติของคนรู้จักยิ้ม ชีวิตก็งอกงามแล้ว อย่าสะสม วัตถุไม่สามารถนำติดตัวไปด้วย ยกเว้นสิ่งที่จิตสร้างขึ้น

เช้านี้ ผมถือกาแฟร้อนๆ ติดมือ ครับการดื่มกาแฟของผม คงจะเหมือนกับคนอื่น จะแตกต่างในรายละเอียด ผมไม่ใส่น้ำตาลและครีม ชอบกาแฟขม เป็นความเหมือนของทุกคน ชอบดื่มกาแฟร้อนๆ คงมีบ้างชอบกาแฟอุ่นไปทางเย็น ครับจะชอบอย่างไร หลักจิตวิทยาบอกว่า ถ้าเป็นเรื่องไม่ทำให้คนอื่นเดือดร้อน “ย่อมถูกต้องเสมอ”

ปี 2500 ผมเป็นนักเรียนทุนกระทรวงศึกษาแผนกเรียนครู ทุนต้องสอบ เรียนฟรี อยู่หอฟรี กินฟรี นักเรียนมี 3 ห้อง มีปีหนึ่ง และปีสอง เวลาอาบน้ำ อาบในห้องรวมกัน ตักอาบ ทุกคนแก้ผ้า ผมรู้สึกกระดากอาย พอ 2-3 วันผ่าน โลกของชีวิต อีกมุมหนึ่ง เปิดกว้าง สามารถแก้ผ้าเดินในหอได้ ครับทุกสิ่ง ทุกอย่างต้องปรับตัว คือการพัฒนาให้อยู่ร่วมกันได้ เหมือนดื่มกาแฟ “แต่ข้อแม้ ต้องเป็นระบบที่ถูกต้อง อยู่ภายใต้ความดีงาม ไม่ก้าวก่ายคนอื่น ไม่ทำร้าย และสำคัญโดยเฉพาะสังคมปัจจุบัน” คือ “ไม่เอาเปรียบ”

เช้า 7:00 AM ยังมองอะไรไกลๆ ไม่ชัดโต๊ะทำงานตัวนี้ของผม สามารถ มองเห็นสะพานเบย์บริดจ์ ตัวเมืองซานฟราน และทะเลภายใน ครับคำว่าทะเลภายใน คือทะเลอยู่ภายใน แต่มีส่วนติดกับทะเลใหญ่ อย่างทะเลภายใน ติดต่อทะเลใหญ่โดยลอดสะพานโกลเด้นเกจ ทะเลภายในสงบ แล่นเรือใบ มีเกาะ หลานชายผมอายุ 14 ปี แล่นเรือใบ ชนะที่ 2

เช้าวันนี้ ฝนตก ครับดีใจ ฝนหายหน้านาน เดือดร้อน ฝนธรรมชาติ คือแหล่งได้น้ำฟรี ฝนหลังจากตกได้ขณะหนึ่ง ความปลอดสาร จากฝุ่น ละออง ควัน หมดตัว น้ำฝนย่อมบริสุทธิ์ เคยสงสัย แหล่งน้ำที่สกปรก มีสารเคมี เวลาแดดร้อนน้ำระเหยกลายเป็นไอ ไปรวมตัว เป็นเมฆและตกมาเป็นฝน การระเหยสารเคมีจะติดกับไอน้ำไหม ครับทุกคนรู้และเข้าใจ คำตอบเป็นสิทธิ์ โดยชอบธรรมของแต่ละคน

ส่วนตัว ผมยึดมั่นในเรื่องการถ่ายทอดพันธุกรรมของคน พันธุกรรมคือยีนส์ 3 อาทิตย์ ผมไปทำบุญที่วัด หลังจากทำบุญ เข้าแถวทานอาหาร ทานอาหารเสร็จ มานั่งคุยกันเด็กรุ่นน้อง ตอนมีลูกสองคน พามาเรียนภาษาไทยที่วัด นอกจากเรียนภาษาไทย ทางวัดยังอบรมคุณธรรม ครับจำเป็น คนถึงจะแตกต่างในพฤติกรรม อย่างก้าวร้าว แต่เมื่อได้เรียนได้รับการอบรม ในสิ่งถูกต้องดีงาม พฤติกรรมก้าวร้าวก็จะหมดไป (แต่ทุกอย่างขึ้นกับตัวบุคคลด้วย) ตัวผม ครอบครัวลูกสาว กล้าลงทุน ส่งลูกเรียนเอกชนมีชื่อ

คนคุยกับผมรุ่นน้อง ถามผมว่า มีลูกกี่คน ผมบอก 2 คน ลูกสาวจบหมอ ลูกชายจบปริญญาเอก เขาถามผมว่าลูกๆ พี่น่าจะมาจาก พ่อแม่ คือตัวพี่และภรรยา เขาถามผมว่าพี่เรียนอะไรครับ ผมบอกว่า ผมมาอเมริกาปี 1968 ปี 1969 ขึ้นไปเรียนปริญญาโทที่ออริกอน แล้วภรรยาพี่ละ ผมบอกว่า เขามาก่อนพี่ ได้ทุนมาเรียนเกี่ยวกับ Fashion น้องเขามองหน้าผมแล้วพูด “ผมเชื่อเรื่องยีนส์” แล้วครับไม่น่าจะเป็นเรื่องบังเอิญ

ผมถือโอกาเล่าเรื่องเด็กต่อ ชีวิตเด็ก โรงเรียนและการอบรมจำเป็น เหมือนแม่ผม ลูกๆ จบ ป.4 ก็ให้มาอยู่วัดราชบพิธ เป็นศิษย์สมเด็จพระสังฆราชองค์ที่ 18 เหตุผลการเรียน เริ่มต้นที่โรงเรียนรับผิดชอบ เด็กๆ จะพัฒนาคุณภาพของตัวเอง อย่างการส่งเรียนโรงเรียน “เอกชน” ดีๆ หรือโรงเรียนรัฐบาลที่มีชื่อ ผมยกกาแฟมาจิบ ยังอุ่น ครับกาแฟ แม้แต่ครัวซองที่อยู่บนโต๊ะ เป็นส่วนประกอบของสุขภาพทางความคิด อย่างน้อยไม่มีความคิดไร้สาระ แม่บ้านเคยบอกดื่มกาแฟมาก เข้าห้องน้ำบ่อย

วางแก้วกาแฟ มองลอดหน้าต่าง ห้องโต๊ะผมสูงกว่าพื้น 7-8 เมตร เพราะทางลาดลงจากภูเขา บ้านติดถนน ทำให้มองอะไรๆ ไกลๆ ได้ดี ฝนตกหนาเม็ด รถวิ่งลงขึ้นเปิดไฟ ครับฝนตก ความระมัดระวังจำเป็นต้องเพิ่มมากขึ้น ผมมองเห็นคนจูงหมา กางร่มรีบเดิน ครับเหลือเชื่อที่เห็นคนพาสุนัข เดินช่วงฝนตก คงจะออกจากบ้านก่อนฝน “ลงเม็ด” มีคนเดินกางร่ม เดินลงทางลาดของถนน อีกมือถือกระเป๋า ครับฝนจะตก หรือหายหน้า ทุกวันมากคนต้องเดิน 3-4 บล็อกไปขึ้นรถไฟฟ้าที่นี่เรียกรถไฟฟ้าที่วิ่งบนราง จำได้มีคนไทยหลายคนเป็นวิศวกร สร้างรถไฟฟ้า อย่างพี่สมเกียรติ์ หน้าที่คือไปทางาน ฝนไม่เคยเป็นอุปสรรค ที่จะเดินไปขึ้นรถ เพียงกางร่ม เดินระมัดระวัง เพราะรถวิ่งลงอาจวิ่งเร็ว สาดน้ำได้

ผมเงยหน้าจากกระดาษเขียนหนังสือ หยิบครัวซองใส่ปาก ครับเกือบทุกเช้า ประมาณ 6:00 AM กว่านิดหน่อย จะเปิดน้ำทำกาแฟ หยิบครัวซองทั้งอัน บิ 5 ชิ้น เข้าเตาอบ ครับทุกเช้ากาแฟกับครัวซอง น่าจะบอกว่าเป็นส่วนของชีวิต ชอบครัวซอง ทำจากเนย ซื้อจากคอสโก้ หลายเดือนมาราคาเพิ่มจาก 4.99 เหรียญ เป็น 5.99 คิดราคาเพิ่ม 1 เหรียญ เท่ากับเพิ่ม ร้อยละ 20 ครับช่วงนี้อะไรก็ขึ้นราคาทั้งนั้น เพราะสรรพสิ่งเดินทางไกล ใกล้ ต่างขึ้นจากองค์ประกอบ อย่างน้ำมัน คน และสำคัญคือ ผลประโยชน์ เสียงสาธุจากความรู้สึกของผม สาธุคือปัจจัยของสรรพสิ่ง 2 อย่าง