ความจริงหรือความคิด
ไพฑูรย์ สุขสิขารมย์
ความจริงหรือความคิด 2 มีนาคม 2567

เดินออกจาก YMCA ประมาณ 2:15 PM อาทิตย์ละ 5 วัน จันทร์-ศุกร์ จะไปออกกำลังที่ YMCA เมืองอัลบานี่ ครับเมืองนี้ติดกับเมืองเบิร์คเล่ย์ และเมืองเอลเซอริโต้

ภูมิประเทศของ 3 เมืองที่กล่าวจะติดกับทะเลภายใน น้ำทะเลมหาสมุทรแปซิฟิก จะลอดใต้สะพานโกลเด้นเกจ เข้ามาอ่าวเป็นอ่าวทะเลภายใน ภายในอ่าวติดกับหลายเมือง ภายในอ่าวมีสะพานข้ามระหว่างหลายเมือง อย่างสะพานเบย์บริดจ์ เป็นสะพานยาวตรงกลางสะพานมีเกาะเทรชเชอร์ไอแลนด์ เคยมีทหารเรืออยู่ 2-3 ปีมาเกาะนี้มีตึกสูงหลายสิบชั้น ขึ้นโดดเดี่ยวบนเกาะ หันหน้าไปซานฟรานซิสโก มองเห็นสะพานโกลเด้นเกจ

หลังจากออกจาก YMCA วันนี้อากาศสดใส ท้องฟ้าเคลียร์ ฝนหายหน้า 3 วัน ผมเดินเลี้ยวขวา ข้ามถนน Solano Ave เป็นถนนสายธุรกิจ ตรงผมเดินข้ามเป็นเมืองอัลบานี่ ที่นี่วงการวิเคราะห์บอกว่า โรงเรียนมัธยมปลายและมัธยมกลางมีชื่อเสียง เหตุผลมัธยมปลายหลังจากจบเกรด 12 ก็สมัครเข้ามหาวิทยาลัย เขาลือว่า เข้ายูซีเบิร์คเล่ย์ได้เยอะ

สำหรับผม มีความยินดีกับโรงเรียนดี เหตุผลคำว่าโรงเรียนดีๆ เด็กจะเอาใจใส่การเล่าเรียน เรียนจบเข้ามหาวิทยาลัยดีๆ ได้เยอะ ครูดูแลการเล่าเรียนให้การบ้าน ตรวจการบ้าน เด็กมีปัญหา จะดูแลเอาใจใส่ แนะนำ แม้แต่ติวฟรี

ชีวิตส่วนตัว ผมเคยเป็นครู ที่เรียกว่าทิเชอร์บาล หลังจากจบ กศ.บ. (บางเสน) เป็นครูหัวหน้าหมวด คณิตศาสตร์อยู่หลายปีตอนเป็นครูใหม่ๆ เข้มงวด มีเด็กหลายคนไม่เข้าใจ เหตุผลออกจากการสอนของผม “ไม่เข้าถึงความสนใจของเด็ก” โรงเรียนที่ผมสอนอยู่ห้วยขวางบ้านเป็นแฟลต คนรายได้ต่ำเยอะลูกศิษย์ผมหลายคนกลับบ้านต้องเลี้ยงน้อง หลายคนเดินขายพวงมาลัย ตอนหลังผมเริ่มปรับตัวเอง เรียกเด็กมาคุย ติวแนะ เมื่อชีวิตครู เริ่มเข้าใจเด็ก รู้จักเสียสละสอนติว เรียกมาคุย เหลือเชื่อ เด็กจะพัฒนาตัวเอง

เดินข้ามถนน แวะซื้อกาแฟเย็นติดมือ ครับปกติกาแฟเย็นหลายปีไม่เคยได้ดื่ม ผิดกับตอนอยู่เมืองไทย โอเลี้ยง (กาแฟเย็น) ดื่มเสมอ โดยเฉพาะวันอากาศร้อน กาแฟเย็นขม หวาน ถูกทางของชีวิต ผมสั่งกาแฟทูโกแก้วหนึ่ง แก้วที่ใส่ทูโก หลายปีมาและเริ่มทูโก ยาวนาน จะใช้แก้ว “โฟม” ปัจจุบันจะใช้แก้วกระดาษแทน ดื่มหมด หย่อนลงถังขยะ จะเอาไป “รีไซเคิ้ล” กลับมาใช้ใหม่ คำว่า รีไซเคิ้ล คือเอาเข้าเครื่องหลอมแล้วใช้ทำแก้วใหม่ นำมาใช้ จะประหยัดทรัพยากร

เหมือนบ้านทุกหลังจะมีถังสำหรับของใช้แล้ว 3 ถัง ถังแรกเป็นถังขยะสำหรับทิ้งของเหลือใช้สามารถบูดเน่า มีกลิ่น ถังขยะ เมืองผมถังไม่ใหญ่ สีดำ อีกถังสีเขียว สำหรับทิ้งพวกเศษไม้ อย่างอาทิตย์นี้ผมตัดกิ่งไม้ ตัดต้นที่รั้วและใบไม้ กิ่งไม้ผมจะตัดสั้น ในถังนี้รถเก็บจะนำไปส่งบริษัทขยะ หลอมนำมาใช้ใหม่ กลายเป็นปุ๋ย

อีกถังหนึ่งสีเทาใส่เศษกระดาษและพลาสติก ครับริษัทจะแยกกระดาษและพลาสติก กระดาษหลอมเป็นกระดาษ กระดาษที่ผมเขียนหนังสืออยู่น่าจะเกิดจากการนำไปรีไซเคิ้ล หนังสือพิมพ์ไทยแอล.เอ. ที่ให้ความรู้ ข้อคิด กระดาษน่าจะเกิดจากกระดาษที่ใช้แล้ว นำไปหลอมใหม่ ขวดพลาสติกบรรจุน้ำขายราคาไม่แพง น่าจะเกิดจากการนำไปหลอมใหม่ ต้นทุนย่อมถูกกว่า ไปขุดจากธรรมชาติอยู่ใต้ดิน

พูดถึงธรรมชาติเหมือนตอนนี้ นั่งเขียนหนังสือ ผมนั่งโต๊ะหน้าบ้าน เป็นห้องเล็กๆ กระจกล้อมรอบ บนโต๊ะมีต้นไม้ดอก 3 กระถาง แม่บ้านชอบดอกไม้ บ้านจะมีไว้ประจำ กระถางที่ใส่ต้นไม้ 3 ต้น เป็นกระโถนลายไทย 2 กระถาง อีกกระถางเป็นลายใบไม้สีเข้มและมีโอ่งมังกร (ตุ่มน้ำ) ใบใหญ่มีต้นไม้ (ต้นแก้ว) มีลำต้น 7 ลำต้น กิ่งใบติดหลังคา อีกกระถางลายไทยเป็นแบบแจกัน สูงเกือบ 3 ฟุต ผมวางพระพุทธรูปนั่ง ยกมือขวาแบ แขนซ้ายวางทับขาด้านซ้าย

ส่วนตัวผมเติบโตกับพุทธศาสนา พ่อแม่จะตื่นเช้า หุงข้าว แกง ไว้ตักบาตรทุกเช้า ส่วนตัว ผมตอนอยู่มัธยมอาศัยวัดราชบพิธ เป็นศิษย์สมเด็จพระสังฆราช วัดราชบพิธอยู่ 6-7 ปี สังฆราชสอน เรียกไปอบรมทุกอาทิตย์ การอบรมเน้นเรื่องการเรียน ความประพฤติ สอน-อบรม เรื่องความดี ความถูกต้อง เคยพูดเรื่องการพนัน คงรู้ว่าผมมีสายเลือดการพนัน พ่อแม่ เป็นเจ้ามือหวย (กินรอบ) เหลือเชื่อผมไม่เคยเล่น ซื้อหวยไม่กี่ครั้ง และช่วง 40-50 ปี ช่วยปลายทาง ไม่เคยซื้อล็อตเตอรี่ เพราะคิดว่าไม่น่าจะมีโชคลาภ ถึงเงินไม่มาก รู้จักประหยัด ก็น่าจะเพียงพอ

ตอนทำงานมีลูกใหม่ๆ ลงทุนเป็นส่วนมากทางการศึกษาของลูก ผมศรัทธาทางการศึกษา ตัวเองปี 1968 แม่เก็บเงินให้ บอกว่าใช้ประหยัด เงินอาจไม่พอ ทำงานด้วย ตอนไปเรียน “ออริกอน”

สำหรับครอบครัวผม จากพ่อแม่ผมกับภรรยา ลูกสาวหมอสุภัคร และสามีหมอมานิช ต่างประหยัด ส่งลูกตั้วแต่เล็ก เรียนเอกชนดีๆ การเล่าเรียนที่โรงเรียน เอาใจใส่ตัวแต่เด็ก เชื่อว่า “เป็นการพัฒนาความคิด” และปัญญา

ผมเดินซิบกาแฟร้อนๆ เดินมาที่รถ ครับที่จอดรถของเมืองอัลบานี่ที่มาออกกำลังกาย จะบอกว่าจอดได้ 90 นาที ชั่วโมงครึ่งจอดฟรี ถ้าจอดนาน คนให้ตั๋วมา ดูที่ล้อรถ มีชอล์กสีขาวขีด แสดงว่าจอดเกินกำหนด ย่อมมีกระดาษ (ตั๋ว) ปิดที่ใต้ที่ปัดน้ำฝน หน้ากระจกรถ ครับราคาตั๋วแพงขึ้นมาก ราคาจะแตกต่าง แต่ละเมืองอาชีพ คนให้ตั๋ว จะวนเวียนหลายชั่วโมงรอบบริเวณจอดรถบนถนนที่กำหนดเวลาก่อนไปรถ และร้านขายของมือสอง (ผมหมายถึงร้านขายเสื้อ-กางเกง-ของใช้) ที่คนใช้แล้วบริจาค นำไปซัก ทำความสะอาด ใส่ถุงมาให้ร้านมือสอง ร้านมือสอง หลายที่เป็นของเมือง รายได้น่าจะทำประโยชน์ต่อประชาชนได้มาก อย่างใกล้ๆ มีห้องสมุดของซิตี้

ผมเดินรอบร้านมือสอง เสื้อผ้า รองเท้า ของใช้มากมาย คุณภาพยังดี ราคายุติธรรม เชิญเถอะขอรับ มีร้านแตกต่างมากมาย ถ้าจะบอกว่าสามารถทำให้ความคิดวุ่นวายของเราสงบได้

เดินออกจากร้านกาแฟที่ซื้อ เหลือแต่แก้วกระดาษว่างเปล่า เดินไปที่ถังขยะมี 2 ใบ ใบหนึ่งใส่ขยะ อีกใบสำหรับรีไซเคิ้ล ใบที่ใส่พวกเศษใบไม้ กิ่งไม้ ไม่มีความจำเป็น จึงไม่เห็น

ครับหมดเวลาข้างนอกวันนี้ของชีวิต เดินไปยังรถ ครับที่ไหนก็ไม่สุขสงบการมีกิจกรรมเท่ากับบ้านได้ ผมจะนอน อ่านหนังสือ ดูทีวี ทีวีที่ดู ทุกวันชอบประเภท “กฎหมาย” โดยเฉพาะผู้พิพากษาชื่อ “จูดี้”

เคยคิดจะเรียนกฎหมาย ผมเป็นปีสุดท้ายที่เข้าธรรมศาสตร์โดยไม่ต้องสอบ แต่แปลกกลับเดินผ่านไปสอบเข้าเรียนครู ครับแม่บอกว่า อาชีพครู เราต้องวางตัวเป็นแบบอย่างให้เด็กขยันอ่านหนังสือ แม่ยังบอกว่าเวลาเกษียณ “เงินพอใช้”