ความจริงหรือความคิด
ไพฑูรย์ สุขสิขารมย์
ความจริงหรือความคิด 30 กันยายน 2560

ยังนั่งปล่อยใจสบายๆ เป็นจริงของชีวิต ความสุขในชีวิตโดยปกติ หาได้ไม่ยาก จะง่ายเสียด้วยซ้ำ เพียงรู้จักปรับตัว แบบอย่างดูได้จากเด็กๆ ช่วงปิดภาคยาวของเด็กๆ วันอังคาร ถึงศุกร์ จะไปนั่งอยู่วัดมงคลรัตนาราม เมืองเบิร์คเล่ย์ ไปอยู่กับหลานชาย 3 คนมาเรียนภาษาไทย ภาษาที่พูด สื่อสารถึงจะแตกต่าง นั่นคือพื้นเพของแต่ละคน มีวัฒนธรรม และศาสนา ลงรากลึกคือประสบการณ์ และพฤติกรรมแตกต่าง ถึงจะแตกต่างแต่โลกปัจจุบันมีความเป็นเสรีภาพ การแสดงออกในความคิด ถึงจะผิดแปลกจากวัฒนธรรม ก็ถือว่าเป็นส่วนดีของคน พอถึงจุดสุดท้าย คือเลือกและยอมรับสิ่งที่ถูกต้อง

เบิร์คเล่ย์ ตรงที่ผมนั่ง เป็นเมืองหนึ่งของเบย์แอเรีย เมืองแถบนี้รวมทั้งซานฟรานซิสโก 2 วันมาข่าวขายบ้าน เมืองซันนี่วีล ข่าวเข้าหูคน เมืองนี้เป็นเมืองหนึ่งอยู่ทางใต้ของซานฟรานซิสโก มีบริษัทยักษ์ของคอมพิวเตอร์ลงรากอยู่ มีคนงานเยอะ รายได้งาม พอถึงวันนี้ รถติดทุกที่ ถ้าเดินทางจากบ้านไปที่ทำงาน เกิน 10 ไมล์ จะเจอปัญหารถติดเสมอ เสียเวลา สร้างพฤติกรรมทางลบ คือหงุดหงิด บ่น กลัวไม่ทันปั๊มเวลาเข้างาน เมื่อบ้านตรงข้ามกับบริษัทงานเปิดขาย ราคาถึงจะแพงหน่อย ถ้ามีเงินก็อยากเป็นเจ้าของไปทำงานสะดวก บ้านในข่าวขายได้ราคาสูงกว่าราคาประกาศขายหลายแสนเหรียญ ครับคนทำเงินได้ดี คือเจ้าของบ้านและนายหน้าขายบ้าน

อดคิดเมื่อซื้อบ้านล้านกว่าเยอะ เงินดาวน์ต้องมาก และเงินกู้จากแบงค์ก็ต้องสูง เกิดในอนาคตตกงาน ไม่มีเงินจ่ายธนาคาร บ้านต้องถูกยึด ประกาศขาย ธนาคารจะมีปัญหาไหมหนอ เพราะการกู้ซื้อราคาสูง ธนาคารย่อมชำนาญระบบ ไม่เสียเปรียบเกิดมีกรณีไม่มีเงินจ่าย ก็ยึดและขาย เคยมีบ้าน ที่วอลนัทครีก เกิน 10 ปี หมูบ้านแบล็คฮอค ราคาล้านเกิน คนมีเงินจากการทำงานบริษัท พวก CEO เยอะ พอหลายปีผ่านตกงาน บ้านถูกยึดขายทอดตลาด

เคยคุยกับนักลงทุน ซื้อขายบ้าน บ้านทุกระดับอย่างราคาแพง ราคาเฉลี่ยขายง่าย เหตุผล ส่วนมาโรงเรียนรัฐเป็นโรงเรียนดี บ้านอยู่ใกล้กับศูนย์กลางกิจกรรม อาหาร สถานี รถไฟฟ้า ห้องสมุด บ้านราคาต่ำบอกว่าขายไม่ง่าย เหตุผล บ้านราคาต่ำ สังคมของคนรอบๆ ต้องมีชีวิตระวังความปลอดภัย ขโมย ตกเย็นคนนั่งยืนเป็นกลุ่ม มากรายติดยา

ก็คงจะเหมือนประเทศชาติ ถ้ามีข้าราชการนักการเมือง โกงประเทศชาติเป็นความปกติ คำว่าโกงไม่จำเป็นตัองโกงเงิน แม้แต่ใช้อำนาจ หน้าที่มีอภิสิทธิ์ ย่อมกวาดรวมเป็นสิ่งทำร้ายระบบการเติบโตของชาติ และเด็กๆ

ชีวิตคนพอสายหน่อยหนาตา คำพูดที่ว่าชีวิตคือการเดินทาง จริงแท้ การเดินทางตามความเข้าใจน่าจะมีสองทาง คือกายเดิน ตื่นเช้าลุกเข้าครัว เปิดน้ำทำกาแฟ เอาขนมเข้าเตาอบ ระหว่างรอ จะเดินวนในบ้าน แต่สำหรับผม หยิบลูกกอล์ฟ 5 ลูก เอาหมอนวางหัวและท้ายพรหม เอาพัทมาพัดกอล์ฟ ครับตอนนี้ต้องอาศัยการคิดของใจ คือการเดินทาง เวลาลากแขนตรงมาข้างหลังและไปข้างหน้าเป็นเส้นตรงเสมอ หน้าก้มตรงมองลูก ร่างกายสงบจิตอยู่ที่พัท มองออกนอกถนน ชีวิตคน ต้องดูแลตัวเอง ชีวิตเมื่อต้องล้อมรอบด้วยหมู่คนก็ต้องรู้จักคิด ทำอย่างไรให้ชีวิตเรายืนอยู่เป็นคนมีคุณค่า ไม่ทำให้สังคมวุ่นวายมีปัญหา ทุกวันเราฟังข่าว ดูทีวี อ่านหนังสือพิมพ์ จะทราบปัญหาที่คนกระทำให้เกิดปัญหาทางสังคม เหมือนชีวิตเดินข้ามถนน ผมเห็นคนมากมาย เดินด้วยเท็กซ์หาคนอื่น เดินทอดน่องไม่สน รถ คน คงจะคิดอิฉันมีสิทธิเสรีภาพ เข้าใจระบบเสรีภาพ และประชาธิปไตยถูกหรือเปล่า ตอนกฎหมายออกห้ามโทรศัพท์ในรถ ยิ่งกดเป็นข้อความถกเถียง ยิ่งห้าม กฎหมายออกแรกๆ ตำรวจจับการใช้โทรศัพท์ระหว่างขับรถ “หายหน้า” เดี๋ยวนี้พอกฎหมายหมดความสนใจ คนเริ่มใช้หนาตา หลายคนเซี้ยวมาก จอดๆ ขับๆ พูดโทรศัพท์ การปรับครั้งแรกเริ่มแพง ครั้งสองสามเพิ่มขึ้นเพื่อให้คนเข็ดจำ เพียงหวัง

อีกอาทิตย์เดียวโรงเรียนก็เปิด เด็กๆ ย่อมตื่นเต้น โรงเรียนคือสถานที่หลอมเด็กให้เติบโตในทิศทางที่ถูก เด็กเริ่มเข้าโรงเรียน ประถมหนึ่งได้ฝึกอ่านหนังสือ เขียน ครูอบรมเรื่องมารยาทที่จะเล่นกับเพื่อน รู้จักแบ่งบัน และสอนเรื่องการรอถึงคิวตัวเอง ตอนผมเรียนวิชาครูที่ออริกอน มีวิชาหนึ่งที่ด็อกเตอร์เกร็น ดอร์แมน เขียน เด็กเราสามารถสอนได้ตั้งแต่อยู่ในท้อง ครับถึงพ่อแม่ชาวไร่ชาวนา ยุคโน้นไม่เรียนหนังสือ แม่ก็ลูบคลำท้อง และคำพูด “แม่รักลูกนะ” ขอให้เป็นเด็กดี พอเกิดการสอนคือการคุย การแสดงความรู้สึก ปากยิ้ม หน้าบาน พอโตหน่อยเราสามารถสอนให้อ่านได้ ถึงจะยังอ่านไม่เป็น เห็นโฆษณาอย่าง “นม” แม่อาจสอนอ่านว่านม อาจจะคุยถึงคุณประโยชน์เล็กน้อย พอคราวต่อไปเด็กเห็นจะอ่านว่า “นม”

เด็กเริ่มเรียนแต่เยาว์วัย พ่อแม่ไม่บังคับ ไม่หวัง แต่เพียงสะสมความรักการอ่าน เหมือนทุกวันพ่อแม่อ่านหนังสือ ทำงานบ้าน รับผิดชอบครอบครัว ลูกๆ จะเรียนรู้ ดูพ่อแม่ ดำเนินชีวิตดีงามเป็นแบบอย่าง จะซึมซับเข้าสู่กายใจของลูก การเรียนโดยประสบการณ์ สัมผัสด้วยตัวเอง โดยไม่มีคนสอนเป็นการเรียนรู้ที่สามารถพัฒนาคุณสมบัติด้วยตัวเด็กเองและจะจดจำไปนาน การเรียนด้วยตัวเองไม่มีคนสอน คือการเรียนด้วยการสัมผัส อย่างท่องเที่ยว แม้แต่เข้าก๊วนเล่นกับเพื่อนแบ่งปัน อดกลั้นรอคิว

ผิดกับการเล่าเรียนจากครูบอกเล่า เอามาจากความรู้คนอื่น เด็กอ่านหนังสือ ยอมรับเด็กรู้เข้าใจ แต่ถึงเวลาใช้ความรู้ ก็เพียงทำได้ แต่อาจจะขาด ความศรัทธาต่องาน เพียงจำ

เราจึงเห็นสังคมของผู้ใหญ่ ส่วนมากละเลยการเป็นพลเมืองดี อย่างไม่ทิ้งเศษสิ่งของบนถนน รู้จักเข้าแถวซื้อของ และเข้าแถวจ่ายเงิน ถึงจะเป็นปกติอยู่แล้ว แต่ก็มีบ้างที่ตัดคิวเวลาไปตลาด แม้แต่ร้านโกรเซอรี่ เวลาเจอเพื่อนยืนคุย เต็มทางเดิน ไม่รู้จักแอบ หลายคนเวลาพูดโทรศัพท์เสียงดังเหมือนตะโกน บ่อยที่ผมเข้าร้านเทรดเดอร์โจ จะมีกาแฟบริการฟรี มากคนจะรินกาแฟ เติมครีม น้ำตาล พอได้ มายืนขวางซิบกาแฟ หลายวันมาผมขับรถ เจอ 3 รายเป็นผู้หญิง ขับช้ามา พอแซงเห็นโทรศัพท์ อีกรายขับๆ จอดๆ ครับโทรศัพท์

ที่โรงพยาบาล ห้องน้ำ จะมีกระดาษทิ้งไม่ลงถังขยะเยอะ แม้แต่อ่างน้ำก็ปล่อยให้ความสกปรกจากเศษอาหาร ยืนยันละเลยการเป็นพลเมืองประเภทต่อท้าย ครับมากสิ่งคือการเรียนรู้ มากคนมีชีวิตแค่อยู่ไปวันๆ ขาดการปรับปรุงตัว แล้วสังคมที่เห็น ย่อมต้องสอนแนะ เรื่องปกติของชีวิต หมดเวลา เติบโต หอบหิ้วสิ่งที่ใกล้ตัวเป็นสิ่งดีงาม เป็นแบบอย่าง ถ้าจะถามว่า สิ่งไม่ถูกต้องกระทำแล้วไม่เป็นผลร้ายโดยตรง “บาปไหม” ครับเมื่อเป็นส่วนหนึ่งของหมู่ชน สร้างความเดือดร้อน ความไม่ถูกต้องย่อมบังเกิด คำว่าทุกข์ คำว่าบาป รวมถึงความไม่เจริญทางความคิด มันคือปัจจัยร่วมกัน คือเหตุและผล น่าจะเข้าช่องบาป

ทุกวันช่วงนี้ พ่อแม่ถือถุงมากถุงกลับบ้านเพื่อลูก หลาน โรงเรียนใกล้เปิด หนังสือ สมุด ดินสอ เสื้อ กระโปรง กางเกง ครับชีวิตพ่อแม่ต้องทำงานหนักหาเงิน และสำคัญต้องรู้จักบริหารเงินด้วย “อดคิดถึงในหลวง” คำสอนของท่านรู้จักดำเนินชีวิตพอเพียง มีรายได้มากน้อย เมื่อใช้ก็ต้องรู้จักเก็บ แม่บ้านผมบอกเสมอถึงจะไม่มีเงินมาก แต่ก็ต้องมีเงินเก็บบ้าง เพราะทุกชีวิตมีสิ่งไม่ปกติเกิดขึ้นกับตัว ต้องใช้เงินทอง ถ้ามีเงินสำรอง ชีวิตย่อมสุโขขึ้น

เด็กหลายคน พอช่วงเปิดเทอมใหม่ ถึงรองเท้าเพิ่งซื้อก่อนปิดภาค แต่ช่วง 2-3 เดือน โรงเรียนเปิด สูง โตขึ้น กางเกง รองเท้า เสื้อ ต้องซื้อใหม่ คับใส่ไม่ได้

หลานชายผมคนที่สองที่สาม บอกกับพี่เลี้ยง (เด็กออร์แพ) มาอยู่ดูแลหลาน 2 ปี พาไปโรงเรียน ขี่จักรยานเล่น สอน ให้ความรัก หลานสองคนบอกกับพี่เลี้ยงว่า เขากับน้องโชคดี มีพี่ เสื้อผ้ากางเกงพี่ใส่ไม่ได้ตกมาถึงพวกเขา