ความจริงหรือความคิด
ไพฑูรย์ สุขสิขารมย์
ความจริงหรือความคิด 18 เมษายน 2563

เกือบ 10:00 AM เช้าวันศุกร์ที่ 13 เมษายน เดือนเมษายน จะเป็นเมืองไทยหรือวัดไทยในอเมริกา มีงานสงกรานต์ เด็กๆ เกิดในอเมริกามีงานสงกรานต์ เด็กๆ เกิดในอเมริกา มาเรียนภาษาไทยที่วัดไทย พอกลางเดือนหรืออาทิตย์ที่สองของเดือนเมษายน วัดที่ผมไปประจำ 30 ปี เด็กผู้ใหญ่จะมีการรดน้ำ สำหรับเด็กจะตักน้ำ ด้วยถัง มีบ่อน้ำ สร้างขึ้น เด็กจะวิ่งสาดน้ำกัน ครับสนุก เด็กๆ ลูกหลานของเรา ช่วงเล็กๆจะสนุกกับเพื่อนที่วัด จะบอกผู้ปกครอง ลูกหลานถ้าเราสอนให้เชื่อฟังพ่อแม่ เติบโตย่อมเป็นเด็กดี เพราะพ่อแม่รักลูก เมื่ออบรมสั่งสอน ลูกเชื่อฟัง เติบโตย่อมเข้าใจ ความรักที่แม่พ่อมีเมตตา “ลูกย่อมรู้จักตอบแทน”

เช้าวันนี้ อยากมานั่งอ่านหนังสือ บนโต๊ะถือน้ำส้มแก้วหนึ่ง ติดมือ กระยาสารทใส่ถ้วย ผมเติบโตอยุธยา หน้ากระยาสารทชาวบ้านชอบกวน เป็นขนมที่ผมชอบที่สุด แม่กวนด้วยกระทะใบโต ตั้งนอกบ้าน ใช้พายกวน ใส่ข้าวคั่ว ถั่ว งา มะพร้าว น้ำตาลอ้อย กวนเสร็จ แม่จะแจกญาติที่ตั้งบ้านเรือนใกล้เคียง เรียกว่าหมู่บ้าน คนหมู่บ้าน จะพึ่งพาเกื้อกูลกัน ความรักระหว่างคนหมู่บ้าน เราต้องสร้างให้เกิดขึ้น สำหรับผม ตั้งหม้อบนเตา ใส่น้ำ เอาน้ำตาลปึกลงใส่ ผสมน้ำเคี่ยวจนเหนียวแล้ว คั่วงา มะพร้าว สำหรับข้าวคั่วใช้ Rice Krispy และสารพัดถั่ว หาซื้อมีขายในถุง หรือขายเป็นปอนด์ ใส่ถั่วเยอะ อร่อย หรือ จะเข้า Costco ซื้อถั่วคั่วหลายประเภทในโหลเดียวกันแบบไม่ใส่เกลือ เหลือจากกระยาสารท เย็น เช้า จะหยิบกำมือเดินกิน ครับอร่อยตื่นเช้า ผมจะเอาโยเกิร์ตใส่ถ้วย และตักกระยาสารทใส่รวมกับโยเกิร์ต บ่อยครั้งใส่กล้วยหอมด้วย ทำกาแฟ 3 ช้อนชา เอากาแฟใส่ถ้วยกรองวางบนแก้ว ใส่น้ำร้อนเต็ม ไม่เติมน้ำตาลหรือน้ำผึ้ง แม่บ้านจะใช้น้ำผึ้งแทนน้ำตาลทราย และน้ำมันแม่บ้านใช้น้ำมันมะกอก ส่วนผมไม่มีพิธีมาก ของกินซื้อธรรมดา ดูราคา น้ำมันใช้ Canola ไขมันไม่อิ่มตัว ราคาไม่แพง ซื้อ Costco

แม่บ้านผม ประเภทนิยมสุขภาพ ดูแลตัวเอง กินอาหารจะศึกษาคุณภาพ ออกกำลัง อ่านหนังสือ การแนะนำ บอกกล่าวผม จะย้ำอยากให้มีสุขภาพดี ชอบอ่านหนังสือประเภทสุขภาพ ผิดกับผมชอบอ่านหนังสือประเภทธรรมะ เป็นหลักทางธรรมะนะครับ หลักธรรมะ คือการอยู่ร่วมกัน พึ่งพาเกื้อกูล หลายคนเห็นผมไปวัด ชอบคุยกับพระชอบอยู่ในโบสถ์ คงเดาว่าคงบวชตอนถึงอายุ เปล่าบวชครับ แต่เติบโตกับวัด และออกจากบ้านตั้งแต่จบ ป.4 มาอยู่วัดเรียนหนังสือ พอจบมหาวิทยาลัย ทำงาน 3-4 ปี และมาอยู่อเมริกาเพื่อเรียน นับนิ้วมือ 52-53 ปีแล้ว มีลูก 2 คน หมอและปริญญาเอก

ถึงไม่บวช แต่ก็ศรัทธาในพุทธศาสนานะครับ ผมมีความเข้าใจ ถึงเราไม่บวช รักษาศีล สวดมนต์ แต่เมื่อเป็นฆราวาส ยึดในคุณธรรม เสียงพระสอนว่า เมื่อรักษาศีล สมาธิ และปัญญา ก็เท่ากับบวชเรียน อย่างฆราวาส

วันนี้ แดดส่องแสงกล้า อากาศอุ่น ปกติทุกวันตอยบ่ายนิด จะออกไปนั่ง บน Deck ยกเท้าพาด หันหน้าออกสู่ทะเลภายใน เกือบทุกครั้งจะมีหนังสือติดมือ เรื่องการอ่านหนังสือ ผมไม่เคยโม้ ชอบอ่านตั้งแต่เด็ก ตอนอยู่มัธยม เลิกเรียนเอาหนังสือ ไปเก็บที่กฎิ แล้วออกเดินไป เสาชิงช้ามีเพิงร้านหนังสือ ชอบอ่าน นั่งใต้เพิง หยิบหนังสืออ่าน โตมาชอบไปห้องสมุดแห่งชาติ ตรงข้ามสนามหลวง ไปห้องสมุดคุรุสภา ทุกอาทิตย์จะไปร้านหนังสือแถววังบูรพา หรือร้านในเซ็นทรัล

ผมรู้ว่าการอ่านหนังสือ หลังจากมีลูก ลูกจะเห็นพ่อแม่อ่านหนังสือทุกวัน พอลูกเข้าอนุบาล (เอกชน) ก็ชอบเล่น อ่าน วาดรูป และเล่นกีฬา

สิ่งหนึ่งที่ครอบครัวปลูกฝังลูกให้เล่นดนตรี ให้ลูกสาวเรียนเปียโน ซื้อเปียโน เดี๋ยวนี้ยังอยู่ด้านหลังโต๊ะ ที่ผมกำลังเขียนหนังสือ ลูกชายให้เล่นกีต้าร์

แต่สรุปว่าทั้งคู่ ไม่มีความกระตือรือร้น คงมาจากพันธุกรรมของผม ไม่มีจิตวิญญาณ เล่นดนตรีได้ แม้แต่อย่างเดียว แต่ชอบยีนส์จากผมและแม่บ้าน

ตอนเป็นเด็ก มีเจ้าของวงระนาดไทย ชอบพอกับพ่อแม่ ผมเรียกว่าพ่อ พยายามชักชวนให้เล่นดนตรีแต่วาสนาไม่มี ไม่สนใจ

มองลอดหน้าต่าง เป็นมุมลงจากทางลาดเขา เห็นคนเดินต่ำกว่าโต๊ะ ปกติถนนข้างบ้านผม ประมาณ ¼ ไมล์ ก็ถึงพาร์ค จะมีที่เล่นฟุตบอล และสนามเด็กมี ปีน สไลด์ 2 ปีมา เติมที่หัดปีน หน้าผา ซึ่งหลานชายผมทั้ง 3 เรียนตอน 5-6 ขวบ และว่ายน้ำเก่ง คนโต 12 ขวบกับคนเล็ก 8 ขวบ เล่นฟุตบอลเกือบทุกวันหลังเลิกเรียน แม้แต่หิมะตก เมืองมิชิแกน จะมีสนามฟุตบอล เล่นภายใน 10 สนามต้นๆ

โรงเรียนหลาน 12 ขวบ กับ 10 ขวบ โรงเรียนให้เล่นดนตรี และกีฬาด้วย

เมืองตอนนี้ 10:00 AM กว่านิด ปกติรถจะลงขึ้นเขาเยอะ คนเดินเยอะ แต่ช่วงโรคโควิด 19 คนนิยมอยู่บ้าน หมอสุภัคร ลูกสาว กับลูกชาย บอกว่าพ่อแม่อายุเยอะ ควรอยู่บ้าน เพราะคนสูงอายุ เวลาเป็นโรคโควิด บวกกับอายุมาก เผื่อมีโรค อย่างเบาหวาน ความดัน และโรคภายใน เผอิญติดโรค ครับโรคปัจจุบันกับโรคใหม่จะเกาะกินปอดอายุไม่ยืน หมอไม่สามารถยื้อชีวิตได้ ครับเป็นความปกติของชีวิต

ผมฟังเรื่องคนไทยในไทยห้ามออกนอกบ้านมากมายไม่เชื่อ และที่สำคัญ หลายคนมีเชื้อ (เป็นโควิด) ปิดปากเงียบ ยังใช้ชีวิตปกติ ไอ จาม แพร่เชื้อไปในอากาศ หมอถาม เงียบเฉย เป็นหรือเปล่าที่ไม่ตรวจ และออกบ้าน ไม่มีสังคมร่วมย่อมนำโรคไปสู่คนอื่น ขาดความรับผิดชอบ บางครั้งกฎหมายลงโทษก็ยังฝ่าฝืนก็ต้องใช้กฎสาบาน

ครับถามดีๆ ถ้าไม่ตรวจก็ไม่รู้ปิดเงียบ สังคมไทยเลยใช้คำสาบาน ถ้าเป็นแล้ว เงียบ ไม่ดูแลตัวเอง แพร่เชื้อ ไม่สารภาพ ไปตรวจ ถ้าอึบขอให้โรคขยายตัว เจ็บป่วย รักษาไม่หาย เป็นภาระกับคนรักรอบตัวในบ้าน

ครับสังคมของชาวพุทธ แปลกนะยังนิยมสิ่งที่นอกเหนือธรรมะ เป็นความเชื่อ ความศรัทธา แต่ถ้าจิตเปิดกว้างสารภาพบอกว่าเป็น ขอให้คำสานบาน ลดหย่อนรักษหาย (เพี้ยง) ผมกับแม่บ้าน ไม่ออกเกือบสองอาทิตย์ แล้วแต่ก็ออกไปเดินแฉลบไปซื้อของ เพียงสองครั้ง ปิดปาก ปิดจมูก ยืนห่าง ขึ้นรถ เอายาล้างมือ เช็ดด้วยกระดาษ บอกร้านบอกว่าไม่ให้นำถุงไปใส่ของ ครับสังคมช่วยกันดูแล ระมัดระวังไม่ประมาท ถึงโรคยังค้นยาไม่พบ แต่ชีวิตเมื่อไม่ประมาท ย่อมเป็นทางกลัวของโรค