ความจริงหรือความคิด
ไพฑูรย์ สุขสิขารมย์
ความจริงหรือความคิด 6 มกราคม 2561

ผมหายหน้าจากเมืองไทยนานมาก เกินค่อนชีวิต ชีวิตคนโดยปกติ 70 หรือ 80 กว่า ก็ละจากโลกเป็นไปตามกฎของธรรมชาติ ลองมองรอบตัวจะเป็นสิ่งมีชีวิต หรือไม่มี กาลเวลาทำให้เปลี่ยนสภาพ ยิ่งประเภทต้องอาศัยอากาศหายใจ ต้องการน้ำช่วยชีวิตและมากสิ่ง เมื่อยืนบนโลกจากเล็กๆ เติบโต ทำมาหากิน สุดท้ายหมดงานชีวิตเดินตามเวลาและที่สุดก็จากโลกไป

ตอนเด็กๆ พ่อแม่อบรม กวดขัน ให้เรียนรู้ จะด้วยประสบการณ์ที่คลุกคลีกับพ่อแม่ พี่น้องและเพื่อน ทุกสิ่งได้รับคือ คุณค่าที่เติบโตกับชีวิต มีคุณค่าและนอกจากประสบการณ์ตรงที่ได้รับ พ่อแม่ส่งให้เรียนหนังสือ เป็นการมองการไกลเป็นประสบการณ์ของพ่อแม่ ถ้าลูกเกียจคร้านไม่เรียน โตขึ้นเจ้าจะไม่มีภูมิปัญญาทำงาน คงจะเหมือนคนที่เราเห็น ทำงานหนัก อาศัยร่างกายต้นทุนเดิม แล้วโอกาสจะพลิกตัวเอง ย่อมยากที่จะถึงปลายทางของความมั่นคง

ลูกและเมียจัดการซื้อตั๋ว พ่อต้องไปกรุงเทพฯ ไปเยี่ยมญาติพี่น้องและเพื่อน 50 ปี (1967) ที่พ่อมาเรียนต่อ คนที่รักพ่อต่างตายจากไป แม้แต่ปู่และย่า (ลูกสาวพูด) เพื่อนของพ่อหลายคนจากโลก มีชีวิตเป็นปกติ ลูกคิดว่าพ่อต้องไปพบปะญาติและเพื่อน ตอนที่ทุกคนยังมีชีวิตและสามารถคุยได้ ยังมีอีกหลายคนเป็นโรคร้าย มีบ้างชีวิตนอนอยู่บนเตียง ช่วยตัวเองไม่ได้ รอเวลาที่ธรรมชาติมารับจะได้เกิดและปรับตัวใหม่

อดจะคล้อยตามความคิด ชีวิตจริงของคนจะพูดว่าตามธรรมชาติที่จัดสรรมาจึงเห็นได้ว่า อย่างตัวเกิดอยุธยา พอจบ ป.4 แม่ส่งมาเรียนกรุงเทพฯ จบมหาวิทยาลัย พ่อมาเรียนต่อที่ออริกอน ลองนึกดู มันเป็นความมหัศจรรย์ (ลูกสาวเอ่ย) ช่วงเวลาต่างๆ พ่อรู้จักคนมากมาย มาจากท้องที่ต่างกัน นิสัยใจคอ พฤติกรรม แม้แต่ความเข้าใจ อย่างดีแค่คล้ายกัน มันเป็นเรื่องมหัศจรรย์ หลักพุทธศาสนา กล่าวว่าไม่ใช่เรื่องบังเอิญ ทุกสิ่งคือส่วนประกอบของชีวิต ที่พ่อได้สร้างไว้ในอดีตชาติ ทุกสถานที่อยู่นานวันย่อมมีเพื่อน น่าจะรู้จักกันมาก่อนเป็นแน่แท้

มันเป็นสิ่งเหลือเชื่อ หลายคนอาจจะบอกว่าผมเชื่อในสิ่งที่มองไม่เห็น แต่ก็อดคัดค้านในใจ ถ้าเราเชื่อทุกสิ่งของชีวิตเราเคยสร้างมันไว้ในอดีต เหมือนทำคุณความดีมากกว่าสิ่งไม่ดี ชีวิตย่อมดี ถึงจะมองไม่เห็น พิสูจน์ไม่ได้ เมื่อปักใจเชื่อว่าการทำความดี อย่างน้อยสุขกายสบายใจ จะเกิดหรือสูญ แต่ถ้าเชื่อว่าเราเคยตายแล้วเกิดใหม่ เราย่อมรักการกระทำแต่ความดี

ผมเชื่อหมดใจ ความแตกต่างของคนย่อมแตกต่าง เกิดจากสิ่งที่กระทำให้กับชีวิต ชีวิตเมื่อมีครอบครัวลูกหลาน เอาใจใส่ตัวเอง ดูแลครอบครัว ผ่านไปถึงคนคุ้นเคย และมีจิตสำนึกที่เรียกว่าทำบุญทำกุศล ฝึกปฏิบัติจนกายใจมีสิ่งดีๆ เป็นทุนรองรับ เสนอหน้าเป็นส่วนของชีวิต สิ่งที่กระทำดีๆ คือผลที่แสดงออก จะด้วยคิดก่อนทำ หรือทำโดยความเป็นปกติ ผลที่ทำคือมีเมตตา เกื้อกูล เรียกสิ่งดีงาม เป็นความถูกต้อง คือ กุศล ผลของบุญ

มากคนรอบตัว ถึงมีไม่มาก ไม่สามารถพึ่งตัวเองได้ ต้องพึ่งพารับความช่วยเหลือจากญาติ ครับคนที่ดูแลช่วยเหลือ แม้แต่พูดจา ให้ความสุขทางใจกับคนพิการ เสียงพระท่านบอกว่า มันคือ “บุญ”

โลกปัจจุบันมากประเทศออกกฎหมายสำหรับคนป่วยที่นอนแล้วลุกไม่ได้ หมอลงความเห็น “พ้อง” โรคที่เป็นไม่สามารถรักษาได้ จะยังนอนขอพึ่งพาดูแลจากญาติ จนกว่าจะถึงวันสิ้นสุดของชีวิต มีมากคนนอนลุกไม่ได้ ความรับรู้ สูญหาย ยังหายใจ

มากเมืองลงความเห็น ทั้งๆ ที่ยังสามารถมีลมหายใจ มากรายยังนอนหายใจ แต่หมดความรับรู้ หมอลงความเห็น หมดโอกาสของความเป็นปกติของชีวิต คงจะหมายถึงลืมตา ลุกเดิน พูดคุย เข้าส้วมช่วยตัวเองได้ ไม่ต้องอาศัยคนป้อนอาหาร เช็ดตัว ทำความสะอาด

และมีอีกมากคน นอนบนเตียง อาจดูแลตัวเองได้บ้าง แต่โรคร้ายคุกคามตลอดเวลา เจ็บปวดทรมาน หมอลงความเห็นโรครักษาไม่ได้ ความเจ็บปวด และทรมานจะยังอยู่ต่อไป จะสิ้นสุดของโลกมีทางเดียว “ตาย”

จะพึ่งพาสิ่งศักดิ์สิทธิ์ หรืออภินิหารให้ชีวิตคืนมาสู่สภาพช่วยตัวเองได้ ทุกคนมองไม่เห็น แต่ทางเลือกหมอแนะ จะฉีดยาหรือกินยา ละโลกก่อนกำหนด สิ้นสุดของการทนทุกข์

การตัดสินใจตายก่อนธรรมชาติเป็นผู้กระทำ คำถามบาปไหม ถ้าเราเชื่อการทำลายสิ่งมีชีวิตให้ตาย จะสัตว์หรือแม้ตัวเองน่าจะบาป แต่เป็นเรื่องปกติ การกระทำเกิดจากเหตุผล ซึ่งพิจารณาเห็นพ้องกับคนรอบกาย ถึงจะบาปบ้างก็น่าจะจี๊ดเดียว ซ้ำร้ายอาจจะไม่บาปกรรม เพราะเรายุติบ่น ทำร้ายความสงบของคนรอบตัวได้ และความเป็นจริงเราอาจสรุปว่า “ยุติความทุกข์ทรมาน อาจเป็นสาเหตุทำให้เกิดสิ่งไม่ดี บ่น กลายเป็นบาปกรรม”

ตกลงรับคำ มองดูสมบัติรอบตัว ตอนมาอเมริกาใหม่ๆ กระเป๋าใหญ่ใบเดียวก็โหรงแล้ว พอถึงวันนี้ทำไมสมบัติมันจึงเยอะ บ้าน 4 ห้องมีสมบัติไม่ได้ใช้มากมาย แม้แต่ทีวีมีเกือบทุกห้อง ก่อนซื้อทีวีไว้ในห้องนอน ก็รบตัวเองอยากดูข่าว หรือหนังจะได้สะดวกสบาย แต่จริงแล้ว เพียง 7 วัน หนึ่งอาทิตย์ ไม่เคยเปิดมีเป็นประจำ ยิ่งหลังบ้านมีต้นไม้เยอะ ต้องรดน้ำเก็บกวาดใบ โดยเฉพาะต้นไม้ใหญ่ 3 ต้น หน้านี้ใบร่วงเยอะ ถ้าหายหน้าไปหลายอาทิตย์ กลับมาจะร้องเสมอ แม่เจ้า “ใบร่วงจนมองไม่เห็นพื้น” พูดจริง เปล่าพูดเกิน แต่ก็เป็นโชคมีน้องชายอยู่บ้าน 3 บล็อกมาดูแล ช่วยรดน้ำต้นไม้ กวาด สตาร์ทรถ

อดคิดถึงเวลาของชีวิต ควรเก็บสิ่งของไม่ใช้ไปบริจาค การบริจาคจองใช้ ยอมรับว่าดี สิ่งของถึงยังดูดี มากรายการเกือบใหม่ แต่เมื่อไม่ใช้ เราบริจาค ย่อมมีคุณค่าของคนอีกมากมาย สังคมปัจจุบันรณรงค์ให้ ดูแลสุขภาพ ด้วยการบริจาค ผมเชื่อทุกคนในโลกชีวิต คุ้นกับการให้ที่เรียกว่าบริจาค โดยเฉพาะชาวพุทธ ถ้าจะเรียนรู้บริจาคให้กับสังคมรอบตัวด้วย น่าจะดี สุดท้ายสุขภาพจิตย่อมประกอบมองเห็นจากหน้าตา ท่าทาง แม้แต่พฤติกรรมในการปฏิบัติ อีก 2-3 วันเดินทาง เมียรบเร้าให้จัดกระเป๋า มีของฝากคนเมืองไทย โดยเฉพาะยาแก้ปวดเข่า เดี๋ยวนี้โรคปวดเข่าเป็นกันทั่วโลก พอถึงวัยชรายืน เดิน วิ่ง แบกของ ทำงานมากไม่เคยดูแล หลายรายร้องเจ็บ มากคนผ่าตัดเปลี่ยนเข่า ญาติสั่งซื้อยาแก้ปวดเข่ามาด้วย เผอิญถึงจังหวะคอสโก้ลดราคา

ผมแพ็คไวน์ 5 ขวดไปด้วย เอาไว้เป็นของฝาก จะยื่นให้หรือเปิดฉลองกับญาติพี่น้องย่อมมีคุณค่า ถ้าจะมีของติดมือฝากเด็กเล็ก ลูกหลานบ้าง น่าจะกระทำ

เรื่องผิดกฎหมาย รู้น่าพวกเราไม่ทำ อย่านำผลไม้ แม้แต่เงินสดเกินหมื่นเหรียญ หลายคนบ่น เงินหมื่นเหรียญ เงินของอั้วหาได้ด้วยน้ำพักน้ำแรง อยากมีติดตัว แจกญาติบ้าง แล้วจะตั้งแง่มันไม่น่าถูกต้อง

ครับกระเป๋าได้คนละ 2 ใบ นี่ดีนะพอถึงเมืองไทย กระเป๋าเบาลงเยอะ แต่เวลากลับมาทุกครั้ง ทำไมสัมภาระน้ำหนักเพิ่ม สำหรับผมรู้สาเหตุ แต่ที่ปิดปากเงียบ น่าจะเป็นเหตุและผลที่ดี