ความจริงหรือความคิด
ไพฑูรย์ สุขสิขารมย์
ความจริงหรือความคิด 9 ธันวาคม 2560

จากตารางรถเมล์ ประมาณ 15 นาทีจะมาคัน เมื่ออาศัยถนนสายเดียวกับรถวิ่ง รถจอด ย่อมมีบ้างเกิดอุบัติเหตุ รถจะช้ากว่าเวลาที่กำหนด มีบ่อยช่วงเช้า ตอนคนไปทำงาน อาศัยฟรีเวย์เมื่อเข้างานพร้อมกัน ถึงจะแตกต่างก็เล็กน้อย เมื่อออกไล่เลียงแน่นอนความล่าช้าเกิดขึ้น ตอนเลิกงานรถก็ติด

บ่อยวันรถที่สามารถใช้ถนนท้องถิ่นได้ เมื่อรถทางด่วนติด มากคันจะออกมาใช้ถนนภายในเมือง พาลทำให้รถติด

สองวันมา คุยกับพ่อหลานเขย เป็นชาวอินเดียไปเที่ยวไทย บอกว่าชอบเมืองไทยมาก กินอาหารแตกต่าง แต่ก็อดพูดตามประสบการณ์ กรุงเทพฯ รถติดมาก และสำคัญรถแท็กซี่เอาเปรียบ นี่ยังไม่รู้ระบบผังเมืองกรุงเทพฯ เวลาว่าจ้างรถแท็กซี่ไม่เพียงโก่งราคา ยังพาออกนอกทางวกวน ค่าโดยสารเพิ่มหลายเท่า วันหนึ่งว่าจ้างแท็กซี่ไปพระราชวัง อีกหลายกิโลกว่าจะถึงรถติด แท็กซี่จอดรถและบอกผู้โดยสารให้ลงทั้งๆ ที่ยังห่างไกล

ครับสังคมไทย คนทำมาหากินประเภทค้าขาย ราคาถูก นักท่องเที่ยวชอบพออาหารริมถนน ถือได้ว่าเป็นจุดขาย พานักท่องเที่ยวมาไทย แต่หลายสิ่งหลายอย่าง อย่างรถแท็กซี่เอาเปรียบ โกง สิ่งเหล่านี้กลายเป็นส่วนหนึ่งทำลายความเชื่อถือในระบบท่องเที่ยว

รถเมล์จอดป้ายย่อตัวรถ บันไดชิด ระนามเดียวกับถนน ผู้โดยสารสะดวกสบาย ปลอดภัยขึ้นรถ และรถจะออกก็ต่อเมื่อผู้โดยสารขึ้นรถ และจ่ายเงินเสร็จรถจึงออก อดคิดคนเดียว เหตุที่รอให้หยอดเงินครบจึงออก กันผู้โดยสารมีแบงค์ใหญ่ หรือไม่มีจะได้แก้ไข ก่อนรถออกจำไว้แม็ชชีนรับเงินไม่มีเงินทอน พูดไม่รู้เรื่อง ถ้าจะบ่นกับคนขับ คงได้เพียงรับฟัง จึงสรุปได้ทุกครั้งอาศัยบริการสาธารณะต้องเตรียมเหรียญ แบงค์ย่อย ถ้าขับรถ และต้องจอดหยอดเหรียญเราต้องเตรียมเหรียญหยอด ยกเว้นรถมีป้ายคนพิการแขวน หรือป้ายทะเบียนบอกว่ารถคันนี้เป็นของคนได้รับอนุญาตจอดฟรี ไม่ต้องหยอดเหรียญ

วันนี้อากาศดี แดดจ้า หันที่นั่งด้านร่มด้วยเงา ครับรถเมล์จะไม่ยืนเบียดเหมือนรถเมล์ไทย

ช่วงเวลานี้จะมีเด็กนักเรียนขึ้นลงตลอดเวลา ราคาโดยสารรถเมล์ของเด็กจะได้ลดเท่ากับคนพิการ คนเกษียณ เด็กส่วนมากใชับัตร Clipper เพียงนำบัตรกดรับเครื่อง เสียงอนุญาตก็บอก เชิญเถอะหนู หาที่นั่งหรือชอบยืน ตามความพอใจ ครับการใช้บัตร Clipper สะดวกแม้แต่ผมก็มีติดตัวเสมอ

การศึกษาในอเมริกา ถึงเกรด 12 เป็นการศึกษาภาคบังคับ ทุกอย่างฟรี มีอาหารฟรี โรงเรียนดีๆ ในอเมริกาที่เป็นโรงเรียนของรัฐ เด็กจบเกรด 12 สถิติจะเข้ามหาวิทยาลัยดีๆ ของท้องถิ่นได้ แต่ก็มีโรงเรียนรัฐอยู่ในท้องถิ่น แออัด คนรายได้น้อยพึ่งพารัฐบาล มีลูกหลายคนยิ่งหย่ากลางวันทำงาน รัฐบาลจ่ายค่าดูแลเด็ก และมากครอบครัว รัฐบาลจ่ายเงินค่ายังชีพให้ แม้แต่จ่ายค่าเช่าบ้านให้อีกประมาณ 60 เปอร์เซ็นต์ เจ็บป่วยรักษาฟรี

โรงพยาบาลประมาณ 5-6 ไมล์ จากบ้านผม เป็นอีกเมืองหนึ่ง คนไข้มีโรคหนักรุมเร้าจะแห่กันมารักษา คนไม่มีประกันสุขภาพมารักษาที่นี่ ฟรีครับ ผ่านมา 2 ปี โรงพยาบาลปิดบริการ เหตุผลโรงพยาบาลมีหนี้สินหลายสิบล้าน เพราะต้องจ้างหมอจ้างพยาบาล คนงาน ค่าน้ำไฟ ค่ายา และคนรักษาฟรี เพิ่มตลอดเวลา เดี๋ยวนี้คนเคยพึ่งใบบุญของโรงพยาบาลนี้เจ็บป่วย ต้องเดินทางไปรักษาโรงพยาบาลประเภทเดียวกันเกือบ 30 ไมล์ คนไข้เริ่มบ่น ปิดโรงพยาบาลทำไม สร้างความลำบากให้กับคนป่วย อดพูดถึงคนด้อยโอกาสไม่ได้ ทุกประเทศในโลกจะมีคนมากมายที่รัฐต้องดูแล ช่วยเหลือ ถ้าเป็นคนพิการไม่ว่ากัน แต่สุขภาพดีเพียงเติบโต ไม่สนใจใฝ่เล่าเรียน ไม่พึ่งตัวเอง จะติดพฤติกรรมไม่ขยัน มานะ และอดทนมาจากไหน ผมย่อมไม่เกี่ยวด้วย เพราะผมและครอบครัว ก็ทำงานหนักเบาไม่เคยยั่น

แต่คนไทยด้อยโอกาสเยอะ เปล่าเป็นคนเกียจคร้าน แต่สังคมของคนด้อยโอกาสรอบตัว ไม่มีงาน ทำมาหากินก็ต้องอาศัยธรรมชาติ ยิ่งเกษตรกร ดิน น้ำ ราคาของผลิตผล ถูกการเอาเปรียบ บริการเกี่ยวกับสุขภาพ โรงพยาบาล รักษาโรคเจ็บป่วยได้ในระดับธรรมดา ปวดหัว ปวดท้อง คลอดลูก แขนขาหัก ถ้าผ่าตัดส่วนสำคัญ ต้องเป็นเมืองใหญ่ ผมเคยปวดข้อมือ ไปเข้าเฝือกโรงพยาบาลเอกชนเสียเงิน พอถึงเวลาไปตัดเฝือกก็ต้องเสียเงินอีก เลยอดคิดตามประสบการณ์ที่ได้รับ โรงพยาบาลกลายเป็นธุรกิจที่มองเพียงกำไร โอกาสมีรีบเร่งทำเงิน ถ้าจะพูดถึงความเข้าใจดั้งเดิมของหมอ หมอคือบุคคลที่ดูแลคนเจ็บป่วย จิตมีเมตตา หลายโรงพยาบาลนอกจากค่ารักษาแพง หมอยังได้ “ทิป” จากคนไข้ กลายเป็นพฤติกรรมที่ชอบพอ รักษาหาย ใจหวังทิป ครับคำว่า “ทิป” จะเป็นร้านอาหารให้คนบริการ แต่เมื่อหมอได้ทิป ในกรณีคนไข้เจ็บป่วยสาหัส เมื่อรักษาหายได้เงินจากครอบครัวคนไข้ ตอนแทนที่เต็มใจดูแล ครับเคสอย่างนี้ในสังคมการรักษาดูแล ความแตกต่างที่ได้รับระหว่างคนจนและคนรวยย่อมแตกต่าง

เห็นเด็กนักเรียนต่าง Bag pack ไว้ข้างหลังเดินหลังงอครับหนัก วงการสุขภาพพูด มีบ้างเส้น กระดูกเหนื่อยล้า อาจจะเลยไปถึงความขยันมานะลดลง จริงหรือเท็จแล้วแต่พิจารณาก็แล้วกัน

เพิ่งอ่านการซักถามเกี่ยวกับการศึกษาของเด็กในแคลิฟอร์เนีย แนวความคิดเพิ่มและลด ตามพื้นแพของเชื้อชาติ เด็กเติบโตในแคลิฟอร์เนีย เห็นว่าการศึกษาจำเป็นเหลือ 50 เปอร์เซ็นต์ สำหรับพวกลาตินเห็นด้วยว่าการเรียนจำเป็น 2 ใน 3 คนในแคลิฟอร์เนียเห็นว่าการศึกษาจำเป็น 38% เด็กนอกแคลิฟอร์เนียเห็นด้วยกับการศึกษา 75 เปอร์เซ็นต์ เอเชียอเมริกันเห็นด้วย 45 เปอร์เซ็นต์ ว่าความสำเร็จต้องอาศัยการศึกษา สำหรับผมยังมั่นใจโลกจะล้ำหน้า การศึกษายิ่งมีความจำเป็น เป็นพื้นฐานทำให้ชีวิตเจริญ

ถือกาแฟและแฮล์บราว เดินออกนอกร้านข้ามถนนไป ยืนรอป้ายรถเมล์ มากป้ายรถจะมีที่นั่ง เป็นศาลาเล็กมีหลังคา จะมีแผนที่ทางรถวิ่งรับส่งผู้โดยสาร และจะมีคู่มือ รถแต่ละสายที่จอดป้ายนี้บอกเวลาเริ่มวิ่ง สิ้นสุดเวลาระยะเวลารอรถแต่ละสาย ราคาโดยสาร

ส่วนตัวผมซื้อตั๋วล่วงหน้า ราคาอยู่ในบัตรที่เรียกว่า Clipper สำหรับผมผู้สูงอายุ ราคาย่อมถูกกว่าคนทั่วไป ราคาจะได้ลดเหมือนเด็กนักเรียน

การซื้อบัตรต้องไปกรอกข้อความที่ออฟฟิศจะขอดูใบขับขี่ จุดมุ่งหมายดูเดือนปีเกิด อายุ จะได้ไม่ถูกโกงราคา

เดินออกนอกศาลา เอาแก้วกาแฟกระดาษห่อแฮล์บราวทิ้งลงในขยะตรงหน้า อดีตเคยเป็นร้านขายไก่ยี่ห้อ “Church” ปิดมาหลายเดือนก่อนล้อมรั้ว จะมีนักวาดรูปเขียนตามฝาพนังร้าน ที่เรียก “กราฟฟิตี้” มาเขียน มาวาด ฟรีนะขอรับ จะมายามค่ำคืน ลับตาคน ปัจจุบัน ศิลป์ของพวกนี้คนเดือดร้อน สกปรก กว่าจะลบออก เสียเงินเสียเวลา มากที่อันตรายต่อการเขียน แม้แต่สะพานข้ามถนน ตึกร้าง ตู้รถไฟ ป้ายจราจร ครับเมื่อสิ่งที่กระทำสังคมยังไม่ยอมรับ ถึงจะทำงานฟรี ก็ถือเป็นเรื่องผิดกฎหมาย สร้างความเดือดร้อน เจ้าหน้าที่ดูแลกฎหมาย ประกาศอย่าแสดงฝีมือผิดที่ผิดความถูกต้องเลยนะขอรับ