ปกติ ชีวิตจะตื่นราวๆ 4:30 ไม่เกิน 5:00 AM เคยโทรคุยกับเพื่อนวัยไล่เลี่ย ชอบคำว่า “ไล่เลี่ย” ถ้าเป็นอายุไม่เสมอกันจะแตกต่างก็คงไม่กี่ปี 1-2 ปี ก็อนุโลมไล่เลี่ย เพื่อนบอกว่าผมตื่นมาเร็วเกินไป ตื่นแล้วไม่มีหน้าที่รับผิดชอบ สู้นอนต่อให้ร่างกายได้พักผ่อน หลายคนบอกว่าน่าจะเป็นความเกียจคร้านมากกว่า ครับความคิดของใครของมัน ความคิดที่แตกต่าง จากหลักจิตวิทยา กล่าวพ้องกัน เกิดจากประสบการณ์ หน้าที่ความรับผิดชอบและอีกมากมาย สำหรับผมชอบตื่นราวๆ 4:30 ไม่เกิน 5:00 AM คงจะเป็นความปกติของชีวิต เพราะราวๆ 8:00 PM ก็เข้าห้องน้ำ แปรงฟัน ขึ้นเตียง ทุกคืนจะ “สวดมนต์” ผมเชื่อเรื่องการสวดมนต์ อย่างน้อยจิตสงบ ไม่คิดเรื่องไร้สาระ ครับวัยของผมหมดเวลาทำงานเพื่อเงิน ทุกสิ่งตื่นเช้าเพื่อสุขภาพ จะออกกำลัง ทำกาแฟร้อนๆ นำติดมือเปิดประตูหลังบ้าน เดินเล่น หลังบ้านมีต้นไม้เยอะ ประเภทกระถาง หรือสวนปลูกลงดิน มีต้นเรดหวูดใหญ่ อายุคงเกินผม มาอยู่บ้าน 50 ปี ต้นใหญ่โตไม่พัฒนาการเติบโตแล้ว
อดพูดถึงสิ่งมีชีวิตทุกประเภท แม้แต่ต้นไม้ อย่างผักสวนครัว ปลูกพอออกดอก ออกผล หมดฤดูกาลก็หยุดลูกและดอก พอเวลาผ่านไป เริ่มฤดูกาลก็ออกดอกออกผลอีก เผลอไม่นาน ดอก-ผล ลดปริมาณ ท่านผู้เชี่ยวชาญบอกว่า “เริ่มวัยชรา”
คงจะเหมือนต้นไทรสูงติดหลังคา ใส่กระถางมังกร หน่อเดียวมี ต้น 7 ต้น เมื่อวานแม่บ้านบอกว่า “มีเวลาก็ตัดแขนงที่ตายออกด้วย เพราะเธอนั่งเขียนหนังสือ อ่านหนังสือ ดื่มกาแฟทุกวัน เมื่อต้นไม่มีกิ่งที่หมดสภาพ ตัดทิ้งจะได้สดชื่น ผมคล้อยตาม ผมชอบโต๊ะเขียนหนังสือ นอกจากต้นไทร บนโต๊ะมีกระถางต้นไม้ 4 กระถาง ต้นไม้เป็นพุ่มเตี้ยๆ มีดอก สวยงาม ความสวย นำความรู้สึกสดชื่นมาให้ ครับสดชื่นจากกระถางดอกไม้ ไม่มีอันตรายเหมือนกับตอนเรียนมหาวิทยาลัย จะที่เมืองไทยหรือมหาวิทยาลัยที่ออริกอน ยังหนุ่มมองเห็นสาว ความรู้สึกชม สวย น่ารักครับ คำพูดกับความคิดอาจจะไม่ครบองค์
ผมหยุดเขียนปิดไฟ มองดูนาฬิกา 5:15 นาที หยิบแก้วกาแฟ กาแฟเริ่มเย็น แปลกกาแฟแก้วเดียวกัน แต่เวลาดื่ม กาแฟกำลังร้อน กับปล่อยให้เย็น ความรู้สึกรสกาแฟแตกต่าง หยุดเขียนชั่วขณะ ซิบกาแฟเย็นๆ แต่รสขม ความรู้สึกผ่อนคลาย เอื้อมมือปิดตะเกียง ปล่อยให้ความมืดของธรรมชาติทำหน้าที่ มองลอดหน้าต่าง ห้องของบ้านที่ผมนั่งทำงานสูง ถนนลาดจากภูเขาสู่ปลายถนน ผมจะมองเห็น “วิว” โดยเฉพาะเวลานี้ ไม่มีรถวิ่งลงจากถนน มองเห็นไฟร้าน 7-11 เขียว แดง ขาว มองไกล เห็นเมืองซานฟรานซิสโก ไฟ สวยงาม ครับแสงไฟ มีแดง เขียว และแสงปกติของหลอดไฟ
ไฟที่เห็นสีแดงจะชัด แสงไฟนอกจากจะเป็นส่วนมองเห็น ช่วงค่ำคืนและเช้ามืด ไฟต่างสีสวยงาม อดขอบคุณ ความสามารถของคนพัฒนาสร้างระบบไฟฟ้า ช่วงเป็นเด็กครับผ่านมาเกิน 80 ปี เติบโตบ้านอยู่อยุธยา ติดแม่น้ำป่าสัก ช่วงเป็นเด็กเรียนหนังสือ ไฟที่ใช้ทำการบ้าน อ่านหนังสือ เป็นตะเกียง ยังไม่มีไฟฟ้า ตะเกียงมีควันไฟ ผู้รู้บอกว่า ควันสะสมเวลาหายใจ เข้าร่างกายได้รับควันมากๆ ปอดจะเป็นมะเร็งได้
ลุกยืนดับไฟตะเกียงของหลอดไฟ เป็นลายครามสวยงาม อดขอบคุณแม่บ้านที่เกิดเติบโต คลุกคลีกับความเป็นไทย แม่บ้านจะซื้อประเภทเครื่องลายครามไว้เยอะ อย่างตะเกียง โถ (กระโถน) ใส่ต้นไม้ บนโต๊ะ 3 ใบ และมีแจกันลายไทยสูงเกิน 2 ฟุตขนาดใหญ่ แม่บ้านนำพระนั่งปางสมาธิเป็นเงินสูงเกินฟุต แขนซ้ายของพุทธองค์ วางบนเข่า นั่งสมาธิ มือขวายก งอข้อศอก แบมือ “ทรงประธานพร” พระพุทธองค์นั่งสงบ หลับตา ให้ศีล-และพร
ช่วงเรียนมัธยม ผมอาศัยวัดราชบพิธ เรียมัธยมอยู่เกิน 6 ปี เป็นศิษย์สมเด็จพระสังฆราช (วาสนะ) ลูกศิษย์มีหลายคน อาทิตย์ คืน 1-2-3 คืน ท่านจะเรียกผมไป “สั่งสอน” ผมเคยเขียนเล่า ช่วงเรียนประถมโรงเรียนวาสนานุกุล อยุธยา สังฆราช (วาสนะ) ท่านไปให้รางวัลเด็กเรียนได้ที่หนึ่งทุกปี อดที่จะคุยไม่ได้ ผมได้ที่หนึ่ง รับรางวัลจากสมเด็จทุกปี ช่วงออกจากวัด จบ ม.6 สอบชิงทุนกรมฝึกหัดครูได้ ก็ออกไปอยู่หอ อยู่ฟรี กิน 3 มื้อฟรี เรียนฟรี ช่วงผมเรียนเป็นนักเรียนทุนปีแรกเพื่อนโหวต “เอ็งเป็นหัวหน้าห้อง” ปีที่ 2 เพื่อนในโรงเรียนพร้อมใจเลือกเป็น “ประธาน”
หยุดเขียนซิบกาแฟเริ่มเย็น มองผ่านกระจกหน้าต่าง รถขึ้นลงช่วงเช้ามืดไม่เห็น ครับบ้านเรือนแทบที่ผมอยู่อาศัยต่างอยู่กันมานาน ส่วนมากคนสูงอายุเยอะ การเป็นผู้สูงอายุ สำหรับผมต้องดูแลตัวเอง เคยเล่า ตื่นจะยกเท้าและแขนข้างละ 20-30 เสร็จแล้ว ถ่างขายกเอามือ จับปลายเท้า ทิ้งไว้แล้วลดเท้านอนตะแคง เหยียดเท้าไปข้างหน้า เอาแขนด้านบน ไขว้ไปทางด้านหลัง แล้วเอียงหัวตาม ครับผมออกกำลังตามครูสอนในชั้นออกกำลังที่ YMCA มีคลาสทุกวัน เช้าจนมืดค่ำ คลาสแตกต่าง ผมนิยมไปออกกำลัง คลาสเรียก “โยคะ” ปกติจะไป 5 วัน
หลังจากออกกำลังในห้องกับครู และเพื่อนๆ ผมจะมาถีบแป้น ดึงที่ออกกำลัง และถีบจักรยาน การดูแลเพื่อสุขภาพ สูงอายุยังจะช่วยตัวเองได้ ไม่เป็นภาระกับแม่บ้าน ลูกสาวเคยพูดว่าพ่อแม่ถึงเวลาช่วยตัวเองลำบาก อยากให้มาอยู่ด้วย ลูกจะได้มีเวลาดูแล ลูกสาว ลูกเขย เป็นหมอ มีคลินิก 4 แห่งคนทำงานเป็นหมอ พยาบาล และผู้ช่วย เกิน 60 คน
หลาน 3 คน จะไปทำงานตอนเย็นที่คลินิก แม่พ่อจ่ายเงิน ทุกวันอาทิตย์หลานจะไปช่วยวัด “มิชิแกน” ทำงาน ขายอาหาร ช่วยเป็นลูกมือ หยิบ จับ ขน สัมภาระบางอย่าง
หลานชายเด็กรุ่นใหม่ จะชอบเล่นกีฬา เรียน และส่วนมากจะมีจุดหมายปลายทางเรื่องการเรียนและอาชีพ หลานคนกลางอายุ 15 ปี ชอบเรียน วันหยุดนอกจากช่วยวัด ยังไปเล่นเรือใบ แข่งขันเมื่อ 2 เดือนที่แล้ว ชนะที่ 3 ได้ถ้วย
หลานคนที่หนึ่งและสาม ชอบเล่นฟุตบอล ครับการออกกำลังของเด็กๆ ยุคใหม่ที่พ่อแม่เอาใจใส่ นอกจากจะเรื่องการเล่าเรียน พูดถึงการเล่าเรียน ผมกับแม่บ้านมีความคิดว่า การเล่าเรียนเป็นสิ่งสำคัญ ถ้าประหยัด ส่งลูกเรียนเอกชนดีๆ ถ้าทำได้ คิดว่าโอกาสเด็กจะพัฒนาได้ดีกว่า เหมือนผมแม่ส่งมาเรียนกรุงเทพฯ อยู่กับสมเด็จพระสังฆราชท่านดูและเรื่องการศึกษา ผมกับภรรยาคุยกัน อดออม ทำงานหนัก ส่งลูกสาว ลูกชาย เรียนโรงเรียนเอกชนดีๆ ตั้งแต่เด็กลูกๆ จะเรียนรู้ เอาใจใส่ แข่งขันกับเพื่อนหลานชาย 3 คน พ่อแม่ก็เดินรอยตามพ่อแม่ส่งลูกเรียนเอกชนดีๆ
เป็นเพียงเล่า โรงเรียนดีๆ แม้แต่โรงเรียนรัฐบาล เราก็สามารถรับผิดชอบ อาจใช้เวลาขับรถไกลหน่อยๆ ผมมีเพื่อนคนไทยใช้ชื่อบ้านที่เมืองใกล้เข้าโรงเรียนรัฐที่ดีกว่า
ครับคำพูดของสมเด็จพระสังฆราชสอนผม การพัฒนาตัวเองมีค่าที่สุด อยู่วัดทุกวันอาทิตย์ ต้องเข้าโบสถ์ ฟังคำอบรม และท่องสวดมนต์ มีเวลาอ่านหนังสือ ท่านเป็นสังฆราชสมัยใหม่ ควรออกกำลัง การวางแผนชีวิต โรงเรียน วิชาที่จะเลือกเรียน ไม่มีอะไรยาก “เพียงขยันและรับผิดชอบชีวิต”