ความจริงหรือความคิด
ไพฑูรย์ สุขสิขารมย์
ความจริงหรือความคิด 2 พฤศจิกายน 2556

สายของวันอาทิตย์ เดินปะปนกับคนมากหน้าที่วัด ทุกคนต่างมีความแตกต่างในทุกๆ ด้าน ต่างมีโรคภัยมากพันธุ์คลุกคลีกับชีวิต ชีวิตคนในโลกแคบถาม ไม่เคยเป็นโรคเลยเหรอ บางคำตอบ โรคภัยต้องมี บ้านเรือนอาศัยเพื่อการมีชีวิต และเพิ่มพลเมืองของโรค คือร่างกายมนุษย์ อบอุ่น อุดมสมบูรณ์ด้วยอาหาร วงศ์การแพทย์พูดเสียงดัง คนปกติต้องมีส่วนสูง น้ำหนักและความคิดเป็นมาตรฐาน ส่วนลดผอมไป ส่วนเกินอ้วนน้ำหนักมาก เป็นโรคแล้ว

วันหนึ่ง นั่งดูทีวีเกี่ยวกับศาล ผู้พิพากษาจูดี้ ผมชอบ ปีที่แล้วค่าโฆษณาอย่างเดียว 124 ล้านเหรียญนี่ไม่รวมรายได้ ประจำวัน ที่ออกทีวีเกือบทุกวัน ความสามารถ ลำดับเหตุการณ์ของการฟ้องร้องแตกต่างกับผู้พิพากษาคนอื่น บอกต่อหน้าคนเสมอประสบการณ์นั่งบังลังค์ตัดสินคดีความนาน และสำคัญบอกว่าตัวเป็นคนฉลาด ความฉลาดในหน้าที่ ผสมปนเปกับความอยากรู้อยากเห็น และยึดความยุติธรรม และความถูกต้องไม่เอนเอียง แน่ย่อมเป็นที่พึ่งได้

คดีความคือโรคอันหนึ่งของคน การฟ้องร้องของศาลเล็ก เกี่ยวกับคนส่วนมากจะใกล้ชิด พึ่งพา รักใคร่ นานวันจิตเปลี่ยน ผู้ชายเดินนำหน้า มายืนโต๊ะ ฝ่ายผู้เสียหายคือผู้ฟ้องร้อง ผู้หญิงเดินตามไม่พูดด้วย เดินไปอีกฝาก ยืนที่โต๊ะฝ่ายถูกกล่าวหา ชายฝ่ายฟ้อง ผมอยู่บ้านเช่ากับผู้หญิงคนนั้นหลายปี เธอมีลูกติดสองคน ครับคนไทยในหนังสือพิมพ์เป็นข่าว ที่สนับสนุนให้คน แต่งงานและมีลูกอย่างน้อยสองหรือสาม เคยคิดไหมเมืองไทยเดี๋ยวนี้เด็กถูกทอดทิ้งมาก คนใจบุญทำงานหนัก หาเงินช่วยเหลือ แต่ใจทุกคนจะมีโรคแตกต่าง โรคที่มีเหมือน โรคว้าเหว่ โรคมักง่ายของพ่อแม่ที่ทอดทิ้ง โรคที่ทุกคนเป็นวัยถึงจะโตมีครอบครัว แตกกิ่งก้าน มีลูกหลานโรคมากโรคก็ยังสิงอยู่ เพียงแต่หลบซ่อนใต้จิตสำนึก วันเวลามีทุกข์ จะเผยหน้าออก การร้องไห้ บอกเล่า ตะโกน ช่วยได้แต่เป็นเพียงชั่วคราว และแปลกคนมีปัญหา ยังขาดความรู้เรื่องหมอทางจิตที่เรียกว่าจิตแพทย์

หมอจิตแพทย์ เรียนมาด้านนี้จะมีห้องปลอดคนอยากรู้อยากเห็น บรรยากาศของห้องผ่อนคลาย นั่งดูฮวงจุ้ยพูดเป็นเสียงหนักแน่น ห้องมีกระจก อากาศถ่ายเท มองเห็นต้นไม้ อย่างจำปีต้นสีนวล ใบเขียวอ่อนจาง ออกดอกตลอดปี กลิ่นหอม ดอกใบและลำต้น เป็นสมการต่อกัน ถ้าจะสัมผัสให้บังเกิดผล ยืนพิจารณา ทิ้งทุกสิ่งรับรู้เพียงอย่างเดียว เกี่ยวกับความเป็นมงคลกับชีวิต สิ่งถูกต้อง ดีงามจะกลับมา

ครับหมอจิตแพทย์จะดึงความทุกข์ ความกังวล ความต่อเนื่องที่ทำให้ชีวิตปราศจากสุข ออกจากกาย แล้วจะปลูกฝังสิ่งถูกต้อง ดีงาม นำชีวิตปกติสุขยัดใส่แทน ข้อแม้ต้องอาศัยเวลา แล้วแต่ระยะการฟักตัวของโรค ถ้าโรคแทะเล็ม มากนานเวลาและลึก อาจต้องใช้เวลา ข้อแม้ โรคจะหดหาย ทุเลา หรือหายขาด คุณต้องทุ่มเทร่วมมือกับหมอ

โรคที่เรารับรู้ มีทั้งทางตรงและทางอ้อม ทางตรงความคิดของผมคือโรคตามพันธุกรรม พ่อแม่ ญาติ ได้รับยีนส์ก็ติดโรคมาด้วย แม้แต่อ้วน ผอม ตลก หยาบโลน พูดน้อย นิสัยโกง ชอบเสพเมถุน มะเร็ง วัณโรค โรคปัจจุบันโรคออทิสซึ่ม โรคพากินสัน และที่มากคนเป็นโดยไม่รู้ โรคแอสเปอร์เกอร์ แม้แต่โรคใหม่ๆ หาสาเหตุยังไม่เจอ วงการแพทย์คล้อยตาม มาจากกรรมพันธุ์ หรือพันธุกรรม โรคโกง ทำร้าย เกียจคร้านเป็นโรคในหัวข้อต่อไป โรคทางอ้อมคือไม่ได้รับจากพันธุกรรม แต่ได้รับการถ่ายทอดโดยการสัมผัสและใกล้ชิด ขาดการป้องกัน อย่างหวัด และมากโรคเกิดจากความมักง่าย เชื่อในอัตตา อย่างโรคเอดส์ ชายแท้ต้องปราศจากถุงป้องกัน หรืออาจเกิดจากความมักง่าย โรคร้ายบางโรคสะสม สัมผัส อย่างดูดบุหรี่ สูดควันสม่ำเสมอ

คุยต่อเรื่องคนฟ้องร้อง ชายเอ่ย เขาคลิกกับหญิงแรกพบ ต่างตัวคนเดียว สามารถเกื้อกูล ช่วยเหลือพึ่งพา น่าจะเป็นชีวิตที่ดีกว่ากลับบ้านพบแต่วัตถุ จะพูดหรือปรึกษา และให้กำลังใจไม่ได้ เธอมีลูกติดสอง ผอขอสารภาพ อยู่ด้วยกันผมมีความสุข จะเรียกว่ารักน่าจะถูกต้อง ตอนแรกเธอตกงาน ค่าเช่าบ้าน น้ำ ไฟ อาหารบนโต๊ะ แม้แต่กิจกรรมนอกบ้าน ผมเต็มใจจ่าย ยอมรับ เมื่อชีวิตอยู่ด้วยกันแบบผัวเมีย ขาดเหลือ ทุกข์ อีกฝ่ายย่อมอ้าแขนรับ และเคยรำพึงคนเดียว ชีวิตคู่ไม่ต้องเร่ร่อนหาความต้องการของความรักนอกบ้าน หลายเดือนเธอได้งานทำ ท่านครับ (ศาล) เมื่อคนรักกันมีรายได้ย่อมต้องเกื้อกูล ช่วยกันจ่ายค่าเช่า น้ำ ไฟ ผมถามเธอ เดือนแรก และหลายเดือนต่อมา เธอเฉย น้ำใจขาดความเกื้อกูล ผมเลยตัดใจอเปหิเธอจากบ้านเช่า แต่ผมยังห่วงลูกเธอ (เด็ก)

ครับขอความเห็นใจ ค่าเช่าบ้านที่ค้าง จ่ายทบ ค่าสูญความรัก ผู้พิพากษาถาม ว่ารับรู้หลายเดือนเธออยู่และไม่จ่าย เธอมีความสุขไหมศาลถามฝ่ายชาย มีความสุขมาก แล้วจะมาฟ้องร้อง ทำร้ายตัวเองทำไม ศาลถามก่อนออกจากบ้านยังมีเพศสัมพันธ์ไหม ชายตอบแน่นอนนั่นคือค่าจ่ายเป็นค่าเช่า ท่านว่าเธอให้เซ็กซ์แลกกับเงินเหรอ เปล่าเธอนั่นแหละต้องการเซ็กซ์แลกกับค่าเช่า ครับการพิจารณาคดีความ เหมือนโรคร้าย ต้องพิจารณา คำว่าโรคสมัยใหม่ อาจรวมถึงความคิดไม่ถูกต้อง แม้แต่การสร้างนิสัยก้าวร้าว หลายคนสรุปความไม่เป็นมงคลทั้งหลายสถานะภาพคือโรค และอาจจะร้ายกว่าเชื้อโรค

โรคเมืองไทย อาจแตกต่างกัน ระหว่างคนในกรุง คนกรุง มีงาน มีการศึกษา ติดวัตถุใหม่ เงินบำรุงวัตถุหมด โทรศัพท์ เสื้อผ้า รองเท้า นาฬิกา แม้แต่อาหาร เมื่อเห่อโรคภัยใหม่ หนี้สินเพิ่ม ปวดหัว โรคเหล่านี้ถึงจะนำชีวิตให้ไม่ปกติสุขจากทำงานไม่พอใช้ ต่างพัฒนาจิตยอมรับ แก้ไขกันต่อไป ใจเริ่มสบายขึ้น มากคนยิ้ม พบหนทางแก้เพียงชั่วขณะ บ่นกับตัวใครๆ ก็เป็นหนี้ทั้งนั้น จะเป็นปัญหามากหรือน้อย ค่อยปรับตัว ยอมรับ กายและจิตใจลื่นไหล พบความสุข หลายคนพูดเหมือนเจ็บปวด ฉีดมอฟีนเข้าไป ระงับชั่วคราว ชีวิตก็ยังพอเห็นแสงสว่าง

ถือขวดน้ำ จำไม่ได้ยี่ห้ออะไร แต่ละยี่ห้อแตกต่างคือแหล่งของน้ำ และคุณภาพ ลูกเมีย บอกเสมอ ไปไหนๆ ควรมีขวดน้ำติดตัว ชีวิตทุกชีวิตเกิดและพัฒนาจากน้ำ คนทุกคนเกิดจากน้ำ คือน้ำกาม น้ำกามขุ่นข้น มีตัวสเปิร์ม เขาบอกว่าแม้แต่สัตว์ ต้นไม้ ก็มาจากน้ำ พัฒนาวงชีวิต หมอสุภัคร ลูกสาวเคยบอกเตือน พ่อเครียดดื่มน้ำ ผิวหนังแห้งช่วยได้ ถ่ายไม่ค่อยสะดวกดื่มน้ำมากหน่อย เวลาแม่บ่นดื่มน้ำไปด้วย ความฉุนเฉียว อยากต่อความคลายตัว เดินผ่านที่เคยขายอาหาร ก่อนโน้นวัดขายอาหาร คนแน่น ตอนนี้หยุดขายเพราะซิตี้บอกว่า ถ้าจะขายต้องทำให้ถูกต้อง ที่ผัดต้องมีห้อง มีเตา มีที่ดูดอากาศ อาหารที่ขายต้องมีมาตรฐาน ของเตรียมเพิ่มต้องมีที่เก็บมิดชิด กันแบคทีเรียขยายพันธุ์ เจ้าพวกนี้เติบโต และขยายพันธุ์เร็ว อากาศเป็นใจมีอาหาร สังวาสกันขยายแบบคณิตศาสตร์จาก 2 เป็น 4 จาก 4 เป็น 8 จาก 8 เป็น 16

ที่ล้างจานต้องมีหลายซิงค์ สายไฟที่เดินไม่ถูก เต็นท์ต้องมีที่เปิดและปิด โอ๊ยคนติกับคนทำมันช่างแตกต่าง เขาจึงบอกว่าคนมีหน้าที่พิจารณา ถ้าเลือกคนด้อยความเมตตา ปัญหาจะนำหน้าความถูกต้องเสมอ ทุกเมืองจึงมีศาลย่อย สามารถลบล้างความไม่ถูกต้องและเปิดโอกาสรวมทั้งประวิงเวลา

สำหรับส่วนตัว ชอบให้วัดมีร้านอาหาร นอกจากจะเป็นรายได้ คนยังมาช่วยกัน เป็นผลทางศาสนาโดยตรง เมื่อจิตมีความสามัคคี เมตตา สละแรงงาน เพื่อความเจริญของวัด เป็นทางหนึ่งของการทำบุญที่ “บริสุทธิ์” พุทธศาสนาเน้นความสำเร็จ เกิดจากตัวช่วยตัวเองก่อน

วัดทุกวัด ต้องการเงินสำรอง เพราะต้องขยาย ซ่อม ต่อเติม และแม้แต่กิจกรรม ชีวิตผมคลุกคลีกับวัดมาตลอด ตั้งแต่เด็กจนถึงวันนี้ ช่วงเด็กคนต่างจังหวัด วัดคือที่พึ่งทางจิตใจ วัดคือพื้นฐานวางรากของความดี แม่ผมตักบาตรทุกเช้า วันพระเอาอาหารไปทำบุญที่วัด อยู่ฟังเทศน์ คนรุ่นปู่ย่า การฟังเทศน์ เกี่ยวกับเวียนว่ายตายเกิด ยอมรับว่าจริง เชื่อ เรียนหนังสือจากเตรียมประถม จนมัธยมปลายจากวัด นี่ดีนะถ้าวัดมีมหาวิทยาลัย คงจะไปเรียนด้วย แต่มากคนบาปกลับพยายามเอาชื่อวัดออกจากชื่อของโรงเรียน หลายคนโวยทำไมไม่เอาเวลาคิดสิ่งดีๆ ผมเชื่อว่า วัดอยากช่วยตัวเองด้วย อย่างขายอาหาร คนต่างชาติถึงจะชอบศาสนา แต่ความเข้าใจคุณค่าของความแตกต่างในเนื้อของศาสนา ยังไม่ซึมเข้าภายในใจ เดือนที่แล้ว รายการหมอบอกในทีวี คนนับถือศาสนา ไปวัด ไปโบสถ์จะศาสนาอะไรก็ได้ ชีวิตจะมีความสุข ไม่คิดสร้างความเดือดร้อนคือกรรม (ความทุกข์) สมองจะหลั่งสารความสุข หลายปีนิวส์วีคส์ แม็กกาซีน พูดว่า พุทธศาสนา คนนับถือและเข้าถึงโดยจิตใจ พัฒนาถึงการละ โลภ โกรธ หลง และเป็นผู้ให้ เป็นผู้บรรลุสี่ประเภท โสดาบัน สถิทาคามี อนาคามี และอรหันต์ สมองจะหลั่งสารของความสุขตลอดเวลา ชีวิตที่ปราศจากความอยาก นั่งคือความสุขที่แท้จริง

หลายคนบอกว่า วัดที่อยู่ระหว่างบ้านคน คนสามารถมาใช้บริการทางด้านความคิดได้ตลอดเวลา ไม่จำเป็นต้องเป็นศาสนาไหน และผมอดคิดตรงที่วัด ถ้าปล่อยให้เป็นบ้านคน สองสามหลัง หลายครอบครัว มีลูกมีหลาน โอกาสมีเด็กก้าวร้าวเติบโต ย่อมนำความเดือนร้อน และวัดแตกต่างจากบ้าน ตรงที่วัดเป็นสถานร่มเย็น ลดภาวะของความผิดปกติทางความคิดได้ ภายในวัดสงบพระสงฆ์ที่จำวัดมีแต่คุณธรรม เมตตา

ครับตอนผมเรียนที่ ออริกอน ปี 1968 โบสถ์ใกล้ๆ มหาวิทยาลัย ทุกวันอาทิตย์ จะมีทานอาหารเช้าแพนเค้กเป็นรายได้ของวัด วันธรรมดาผมเคยไปกินโดนัทฟรี เขาได้คุยกับผม ผมบอกมาจากประเทศไทย เขาไม่รู้จักเมืองไทย ไม่เคยไป แต่พอใจที่จะสนทนาด้วย ทั้งๆ ที่ภาษาผมดิบๆ สุกๆ ผมจึงเชื่อว่า วัดจะเจริญได้ต้องอาศัยคนบริจาค และวัดสามารถสร้างรายได้ให้ตัวเอง ความเมตตาของฝรั่งออกจากวัดเยอะ ชีวิตทางความคิด พุทธกาลการบิณฑบาตร คือการสร้างบุญร่วมกัน ลึกๆ เป็นผลงานของวัดที่ทำให้เกิดกิจกรรมเสริมต่อความคิดที่วางแปลนไว้บนกระดาษ