ครับเผลอไม่มีความกังวล เวลาแต่ละวันผ่านไป โดยไม่มีอะไรต้องคิด จันทร์-ศุกร์ จะไป YMCA อยู่เมืองอัลบานี่ ไม่ไกลจากบ้าน ครับที่ออกกำลังขับรถไม่นาน และที่จอดบริเวณรอบๆ ที่ออกกำลัง ไม่ต้องหยอดเหรียญ เวลาจอดไม่เกิน 90 นาที ถ้าจอดเกิน เจ้าหน้าที่ดูแลเกี่ยวกับการจอดรถ จะวนเวียนไปมาตลอดเวลา จะขีดล้อด้านหน้าทางออกถนน มาเมื่อเวลาก่อน 90 นาทีรถที่มาร์คล้อรถด้วยช็อกสีขาว ยังจะจอดเกิน 90 นาทีแน่นอน เป็นการขัดต่อระบบการจอดรถถนนสาธารณะ ย่อมได้ตั๋ว
การออกกำลังของผม ประมาณชั่วโมงกว่าเล็กน้อย ถ้าเข้าคลาส มีครูสอน คนเล่นมากคน ผมจะเข้าคลาสและบอกกับครูผู้สอน “จะขอออกก่อนคลาสเลิก” บ่อยครั้งจะนิยมออกกำลังด้วยอุปกรณ์มากมาย เลือกเล่นตามอัธยาศัย ถ้าผมไม่เข้าคลาส จะเล่นหลายอย่าง อันแรกจะไปที่ใช้เท้าถีบแป้น ครับดีสำหรับเข่า วัยผม 85 เดือนมิถุนายน นี้ หลังจากนั้นไปดึงสายสำหรับแขน ครับมากสิ่งที่สามารถออกกำลังดูแลตัวเอง
ครับค่าไปเล่นออกกำลัง คนจ่ายบิลล์ลูกชาย อดภูมิใจที่ลูกชาย ลูกสาว ดูแลผมและแม่บ้าน สำหรับลูกสาวเป็นหมอที่มิชิแกน สามีเป็นหมอเหมือนกัน หมอในอเมริกา เรียน 11 ปี หลังจากจบไฮสกูลก็สอบเข้าเรียนประเภทวิทยาศาสตร์ 4 ปี หลังจาก 4 ปี ถ้าเจตนาจะเป็นหมอ ก็สอบเข้าเรียนหมอ ลูกสาวเลือกไปเรียนที่อังกฤษ โรงเรียนแคมบริดจ์ พอลูกสาวสอบโรงเรียนหมอรับ วันนั้นลูกสาวโทรมาหาแม่ คำพูดแม่ลูกสอบเข้าเรียนหมอได้ จะต้องเรียนอีก 4 ปี ที่แคมบริดจ์ แม่มีเงินให้ลูกไหม เฉพาะค่าหอ ค่าหนังสือ ค่าอาหาร ประมาณ 3 พันเหรียญ ค่าเล่าเรียนต่างหาก แม่ส่งเงินให้ลูกได้เล่าเรียนได้ไหม คำตอบของแม่ แม่จะประหยัด มีเงินให้ลูก เรียนเถอะลูก เป็นอาชีพติดตัวลูกตลอดไป หลังจากจบ 4 ปี ลูกสาวต้องเป็นหมอฝึกหัดที่มหาวิทยาลัยมิชิแกนอีก 3 ปี รวมเวลาเรียนหมอ 11 ปี ถ้าต้องการมีความเชี่ยวชาญเฉพาะ ก็ต้องเรียนเพิ่มอีก
ครับชีวิตคนเรื่องเรียน คือความรู้จะอยู่กับเวลาตลอดไป เหมือนผม เกิดอยุธยาจบ ป.4 แม่ส่งไปเรียนกรุงเทพฯ อาศัยวัดราชบพิธ เป็นลูกศิษย์ “สมเด็จพระสังฆราช” จบ ม.6 สอบเข้าครูได้ทุนเรียน จบ กศ.บ. บางแสน ระหว่างเรียน คิดจะมาเรียนอเมริกาตลอดเวลา พอจบสมัครเรียนที่ออริกอน ก่อนสมัครเรียนภาษาอังกฤษ สอบโทรเฟล พอโรงเรียนรับเรียนปริญญาโท 1969 ก็เดินทางมาที่ออริกอน เรียนจบที่นี่ ชีวิตผมมีคุณสมบัติชอบท่องเที่ยว ระหว่างเรียนที่ออริกอน โรงเรียนปิดภาคจะไปท่าเรือ รัฐวอชิงตัน นั่งเรือไปหลายเกาะ วันหนึ่งไปที่เกาะซานฮวน เห็นฝูงปลาวาฬ
1973 ผมเดินทางไปยุโรป ซื้อตั๋วรถไฟ เรียก EU Rail Pass 4 เดือน ครับบินจากซานฟรานซิสโก ไปนิวยอร์ก จากนิวยอร์ก ไปโปรตุเกส นั่งรถไฟเที่ยวประเทศยุโรป จากโปรตุเกสไปเมืองมอนาโค ไปนั่งดูแข่งรถ “กรังปรี” ครับท่องเที่ยวไปมาประเทศ อยู่โรงแรมถูกๆ กินถูก สุดท้ายนั่งเรือไปประเทศอังกฤษ และนั่งรถไฟไปกรุงลอนดอน ออกจากรถไฟ หาโรงแรมราคาถูกไม่มี กลับมาสถานีวิคตอเรีย นั่งรถไฟนอนหลับ เช้าตื่นที่สก็อตแลนด์
ครับที่ผมเล่า เพื่อเป็นสิ่งที่หลายคนอยากท่องเที่ยว ก็สามารถท่องเที่ยวอย่างอิสระ ราคาไม่แพง เมื่อเดือนมกราคมปีนี้ ผมออกจากไทยบินไปสิงคโปร์ อยู่อาทิตย์ ออกจากสิงคโปร์ บินไปญี่ปุ่น นั่งเรือปริ้นเซส ท่องเที่ยว 3 อาทิตย์ รอบที่ 4 เกาะญี่ปุ่น
ผมเชื่อเรื่อง “ยีนส์” ที่อยู่ในตัว นอกจากเรียนยังชอบท่องเที่ยว การท่องเที่ยวเป็นยีนส์อยู่ในตัว ลูกผม 2 คน ด็อกเตอร์พหล สุขกสิกร ชอบท่องเที่ยว โดยการเรียนมหาวิทยาลัยของรัฐต่างๆ ปริญญาตรีเรียนที่ซานฟรานซิสโก ปริญญาโทเรียนที่เออไวน์ ปริญญาเอกเรียนมหาวิทยาลัยมานัว ที่ฮาวาย
ลูกสาวปริญญาตรีเรียนยูซี หมอเรียนที่อังกฤษ หมอฝึกที่มิชิแกน
ครับการท่องเที่ยว เป็นชีวิต ผมกับแม่บ้าน ปลายปีนี้จะนั่งครูซที่เมดิเตอร์เรเนียน
ผมบอกเล่า อยากกระตุ้น หลายคนมีความต้องการจะเรียน เดินทางเป็นเรื่อง “ปกติ” ของชีวิตไม่ซับซ้อน ยุ่งยาก เพียงแต่ ตามเจตนาของความอยากเดินทาง
ผมนั่งเขียนหนังสือเวลานี้ 5:15 AM มองลอดหน้าต่าง เช้ามืด ยังเห็นแสงไฟตามตึกต่างๆ ของเมืองซานฟรานซิสโก ครับถ้าสายหน่อย จะมีหมอกมองไม่เห็น
ธรรมชาติรอบตัว คือความงดงามที่กระตุ้นการดำเนินชีวิต ผมซิบกาแฟยี่ห้อ French Roast (Dark) ซื้อจากคอสโก้ ดื่มกาแฟเฉพาะช่วงเช้า กลางวัน เย็น กาแฟหมดเวลา เมื่อ 20 ปีผ่านมา ช่วงเย็นเคยดื่มไวน์ชาโดเนย์ วันละแก้ว หลังจาก 20 ปี ไวน์หมดเวลาเลิกดื่มมา 20 ปีแล้ว
ชีวิตเวลาที่เพิ่มทุกวัน สำหรับผมต้องดูแลตัวเอง ยังโชคดี ยังขับรถได้ ไปซื้อของ ไปออกกำลัง ทุกวันจะไปหลังบ้าน นอกจากกวาด ยังมีที่เป็นศาลาทรงไทย เป็นที่อาบน้ำ นานแล้วปิดที่อาบน้ำกลายเป็นที่ตกแต่ง มีภาพรอบๆมากมาย ทุกเย็นแม่บ้านจะมานั่งโต๊ะบนศาลาใต้ต้นเรดหวูด มองเมืองเซ้าท์ซาริโต้ และเมืองซานฟรานซิสโก
ธรรมชาติจะพัฒนาตัวเอง สร้างระบบความสงบให้กับชีวิต ภาพ (วิวรอบๆ) ที่มองสัมผัส คือส่วนพัฒนาชีวิต