ความจริงหรือความคิด
ไพฑูรย์ สุขสิขารมย์
ความจริงหรือความคิด 4 ตุลาคม 2568

6:30 AM เช้าถือกาแฟ เพิ่งทำเสร็จใหม่ๆ ทุกเช้าจะดื่มกาแฟหนึ่งแก้วทุกวัน การดื่มกาแฟ ผมไม่เติมครีมและน้ำตาล ชอบรสขมของกาแฟยี่ห้อ เฟร้นสโรส เช้าดื่มกาแฟจะนำครัวซองติดมือมากับกาแฟ บางเช้าอาจเปลี่ยนจากครัวซองเป็นไข่ ลูกสาวแพทย์หญิงสุภัคร สุขกสิกร (MD) บอกว่าพ่ออายุ 86 ปีแล้ว นอกจากออกกำลัง การดูแลเรื่องอาหารจำเป็น โดยเฉพาะช่วงเช้า ไข่ 2 ฟอง จะช่วยเรื่องสุขภาพ

มานั่งโต๊ะอยู่หน้าบ้าน เปิดม่าน มองลอดหน้าต่าง จะเห็นรถวิ่งขึ้นลง มองไกล เช้านี้อากาศสดใส ไร้หมอก ครับปกติจะมีหมอกบ้าง เพราะบริเวณบ้านมีทะเลภายใน เช้านี้อากาศสดใสมองเห็นสะพานโกลเด้นเกจ ทะเลภายในรอบๆ บ้าน เมืองผมจะมีต้นไม้เยอะ เหมือนบ้านผม หลังบ้านมีต้นเรดหวูด สูงใหญ่ อายุมาก 3 ต้น หน้าบ้านมองลอดกระจก ทางซ้ายมือจะมีภูเขาสูงมีต้นไม้

อาจพูดได้ รอบๆ บริเวณบ้านธรรมชาติสวยงาม ทุกวันผมจะออกไปหลังบ้าน มองขึ้นไปข้างหลัง มีภูเขา บ้านเรื่อนเต็ม มองต่ำทางลาดจะมองเห็นทะเลภายในและบ้านเมืองเซ้าท์ซาริโต ทางใต้ สะพานโกลเด้นเกจ สะพานชั้นเดียววิ่งไปกลับทาสีแดง

เช้านี้ไร้ลม ดูจากต้นไม้ กิ่ง ใบ ยืนเฉยๆ ไม่ไหวตัว และกิ่งก้าน ซ้ายมือ มองลอดหน้าต่าง ต้นมะกรูด ต้นสูง ใบและลูกมะกรูด ไม่ไหวตัว ต้นมะกรูดเป็นต้นไม้มีคุณประโยชน์ ต้นใบให้ร่มเงา ใบปรุงอาหารรสดี กลิ่นหอม ลูกมะกรูดผิวผสมกับเครื่องแกง เพิ่มรสและกลิ่น แม้แต่ผู้รู้บอกว่าผลมะกรูดมีคุณค่าทางสุขภาพ หยิบแก้วกาแฟซิบ รสขมของกาแฟ เป็นรสขมที่ชอบพอ กลิ่นกาแฟหอม วางแก้วกาแฟหยิบ “ชีสพัฟ” ขึ้นกัด ครับชีสพัฟ ซื้อมาจากร้าน ชื่อ Fat Apple ไม่ไกลจากบ้าน มีอยู่ 2 ร้าน เป็นที่นิยมของชาวบ้าน ก่อนโน้น ผมกกับแม่บ้านนิยมไปนั่งทาน แต่หลายปีไม่ย่างกลายไป เพียงจะหยุดซื้อ “ชีสพัฟ” ติดมือ

มองลอดหน้าต่าง รถนานๆ จะวิ่งขึ้นลงบนถนน พูดถึงธรรมชาติ ผมคลุกคลีกับธรรมชาติแต่เด็ก จนวันนี้ 86 ปี ก็ยังอยู่กับธรรมชาติ เด็กเกิดอยุธยาติดแม่น้ำป่าสัก เรียนมัธยม มาเรียนกรุงเทพฯ อยู่วัดราชบพิธกับสมเด็จพระสังฆราช หลังกุฏิสังฆราช กุฏิเรียกพระตำหนัก หลังกุฏิมีคลองหลอด น้ำไม่ใสนัก รอบๆ มีต้นขนุน

ตอนเรียนวิทยาลัยบางแสน ไม่ไกลจากธรรมชาติคือทะเล ทุกวันหยุด เพื่อนๆ ชวนเดินออกกำลัง ไปหาดทรายบางเสน

ตอนเรียนปริญญาโท ปี 1969 ที่ วิทยาลัย Eastern Oregon เป็นวิทยาลัยติดภูเขามีป่า

พอวันนี้เกิน 40 ปี บ้านมองเห็นทะเลภายใน จากบ้านประมาณครึ่งไมล์ บ่อยมาก เมื่อวานผมขับรถเลียบถนนทะเลภายใน หลังจากออกกำลังของเมืองอัลบานี่ พูดถึงการออกกำลัง อาทิตย์ละ 5 วัน ผมจะไป YMCA เมืองอัลบานี่ เข้าคลาสบ้าง ออกกำลังด้วยตัวเองบ้าง ครับที่ออกกำลัง มีอุปกรณ์มากมาย ถ้าไม่เข้าคลาส ผมจะไปถีบแป้นก่อนประมาณ 50-75 ครั้ง เพื่อให้เข่าและขามีแรงเดิน

หลังจากคลาสออกกำลังสิ้นสุด จะไม่รับกลับบ้านจะเดินช็อปปิ้งติดกับที่ออกกำลังกาย มีร้าน “ซาเวชั่นอามี่” ขายเสื้อผ้า มีของใช้ เป็นสินค้า “มือสอง” คำว่ามือสอง คือคนซื้ออย่างเสื้อผ้า รองเท้า แก้วน้ำ คนนำมาบริจาค เลิกคลาสออกกำลังบางวันชอบเดินดูของ ครับหมดเวลาซื้อ วัย 86 การเดินดูของ ทำให้ชีวิตยัง “ตื่นตัว”

คำว่าตื่นตัว คือการปฏิบัติตัว อย่างอ่านหนังสือ กวาดบ้าน จะออกไปหลังบ้าน หลังบ้านผมกว้าง มี 2 ระดับ ระดับติดกับบ้านเป็นคอนกรีต มีเต้นท์สูงถาวร มีเสา 4 ต้น เป็นเสาใหญ่ 4 เหลี่ยม สูง แม่บ้านจะนำกระถางต้นไม้มาประดับ ใส่โต๊ะ เก้าอี้ แม่บ้านชอบมาออกกำลัง เสร็จนั่งโต๊ะอ่านหนังสือ บางขณะหยุดอ่าน สายตามองไกล เห็น อ่าวทะเลภายใน และหลายไมล์มีหมู่บ้านรอบๆ อย่างวิทยาลัยออริกอนที่ผมเรียน ธรรมชาติสวยงาม

หลักจิตวิทยา ผมรับรู้จากอาจารย์จะเป็นที่วิทยาลัยบางแสน หรือวิทยาลัยที่ออริกอน จะอุดมสมบูรณ์ด้วยธรรมชาติ

ที่วิทยาลัยบางแสน เกิน 60 ปี ที่ผมเรียนวิทยาลัย มีต้นมะพร้าวเยอะ วันหยุดกับเพื่อนๆ จะเดินไปหาดทราย บางวันเดินไปตลาดหนองมน ตอนเรียนที่ออริกอน ถ้าปิดภาคเรียนจะนั่งรถเกรฮาวไปรัฐวอชิงตันสเตท ที่ท่าเรือนั่งเรือไปเที่ยว มีเกาะมากมาย มีวันหนึ่งพักบนเกาะซานฮวน มองออกเห็นน้ำทะเล มหาสมุทร มีฝูงปลาวาฬ ว่ายกระโดดภาษาคน คือ เย้าแหย่ต่อกัน หยุดพักมือ และสายตาจากการเขียน หยิบครัวซองขึ้นกัด พอเคี้ยวเริ่มละเอียด หยิบกาแฟขึ้นซิป รับรสกาแฟเย็น ความขมออกรส มองลอดหน้าต่าง ตรงห้องผมเป็น 4 แยก ถนนทางซ้ายมือ ชื่อ Stockton Ave ลงจากภูเขาหลังบ้าน ถนนไม่มีสต๊อบ แต่รถส่วนมากจะสโลว์ อีกถนนติดกัน มีป้ายบอก “หยุด”

ผมมองถนนด้านต้องหยุด อยู่ตรงหน้า ที่หน้าต่างเขียนหนังสือ ตรง 4 แยกบอก “หยุด” ตรงหน้า 4 แยก มีเส้นสีคู่สีเหลือง มีคำว่า “หยุด”

เห็นผู้ชายจูงมือเด็ก เดินบนถนน ถนนเป็นทางลงจากภูเขาสู่ทะเลภายใน การพาลูกเดิน นอกจากเป็นการออกกำลังกาย ยังเป็นการพักผ่อนร่วมกับลูก เดินคุยกัน สั่งสอน แนะนำ เป็นความใกล้ชิด คือความรักและความอบอุ่น

ทางจิตวิทยา บอกและเน้นการสอนช่วงเวลา สัมผัสกับประสบการณ์ตรง จำเป็นมาก คำว่าประสบการณ์ตรง คือระหว่างพาลูกเดิน ก่อนข้ามถนนบอกลูกหยุดก่อน มองซ้ายและขวา ปลอดภัยจากรถค่อยเดินข้าม การเรียนรู้จากการพาลูกเดิน สอนความปลอดภัยเวลาข้ามถนน เป็นวิธีการสอนแบบตรงจุด

หยิบครัวซองกัด สายตามองลอดหน้าต่าง มีผู้หญิงวัยกลางคน 2 คน กำลังจ๊อกกิ้ง พอมาถึง 4 แยกทางซ้ายมือ ยังไม่จ๊อกกิ้งข้ามทีเดียว ยืนแต่ก็ยังจ๊อกกิ้ง มองถนนซ้าย ขวา จนปลอดภัย ไม่มีรถ ก็จ๊อกกิ้งข้ามถนน

ผมหยุดเขียนหนังสือ เอื้อมมือปิดไฟบนโต๊ะ การประหยัดไฟ-น้ำ เป็นความจำเป็นของผู้ใช้บริการทุกคน นอกจากจะไม่เสียเงินจ่ายมาก สิ่งสำคัญคือ “การช่วยกันประหยัดทรัพยากรธรรมชาติ”

ผมหยุดเขียนหยุดคิด ช่วงเรียนมัธยมอาศัยวัดราชบพิธอยู่ เป็นศิษย์ สมเด็จพระสังฆราช ท่านจะสอนผมเสมอ การประหยัด น้ำ-ไฟ เป็นความจำเป็นของทุกคน สมัยเป็นเด็ก พ่อแม่สอนผม ให้ตื่นแต่เช้า อ่านหนังสือโดยใช้แสงจากดวงอาทิตย์ พอโตอยู่กับสังฆราชท่านก็สอน การอนุรักษ์ โดยเฉพาะน้ำ-ไฟฟ้า ต้องเสียเงิน

เกือบ 8:00 AM ฝั่งตรงข้าม มีรถ 2 คัน วิ่งมาจอดฝั่งตรงข้าม ทั้ง 2 คัน ลงจากรถเปิดประตูหลัง อีกด้านฝั่งถนน จูงมือลูกออกจากรถ เด็กเล็กๆ บางคนมีกระเป๋าสะพาย ครับบ้านตรงข้าม เป็นโรงเรียนเลี้ยงเด็ก นอกจากดูแลเด็ก ยังสอนการเรียนให้เด็กด้วย การสอนวัยเด็กคือ “พฤติกรรม” เริ่มเขียนอ่านบ้าง เป็นเรื่องจริงของชีวิต จะยังเด็ก หรือโต แม้แต่ผู้สูงอายุ การเรียนรู้ ยังเป็นคุณค่าของชีวิตตลอดเวลา อย่างผมวัย 86 สอนตัวเองตลอดเวลา

ผมวัย 86 ทุกวันจะขับรถไป YMCA เวลาได้ที่จอดรถ ต้องดูป้าย จอดได้นานเท่าไหร่ ถ้าจอดเกินกำหนด กลับมาอาจมีแผ่นกระดาษเสียบที่ปัดน้ำฝนหน้ารถ ในกระดาษบอกว่าจอดรถเกินเวลา ต้องเสียค่าปรับ คนให้ตั๋วเคยคุยกับผม การจอดรถบนถนน ทุกคนมีสิทธิ์แต่การจอดต้องอยู่ในเวลาที่บอก เหตุผล “เป็นการแชร์ถนนจอดรถ” ผมชอบคำว่า “แชร์” คือการแบ่งปันซึ่งกันและกัน