ความจริงหรือความคิด
ไพฑูรย์ สุขสิขารมย์
ไปกรุงเทพฯ ตอนที่ 11

วันนี้มีนัดกินไม่เสียเงิน ครับบ่อยครั้งกินอาหารแม้แต่ไปเที่ยว คนแย่งจ่ายให้ เผอิญผมนิสัยไม่อยากขัด เอ้างวดนี้หยวน คราวหน้าอย่าให้ผมควักกระเป๋าเก้อ เพื่อนรู้ขี้หน้าอ่านข้อบ่นหัวเราะงอ หน้าอย่างเอ็งกินฟรีจะกี่ครั้งไม่เคยปฎิเสธ ถ้าเห็นหน้าผมตอนนี้คงเห็นผมหน้าม้วน ขวยเขิน คงจะจริงอย่างที่เพื่อนว่า ครับเห็นใจผมเถอะคนกินเงินจากรัฐ เรื่องเงินยาก แต่สารพัดบิลล์

ที่นัดพบเชอราตั้น โฮเต็ล สีลมติดริมแม่น้ำเจ้าพระยา ห้องอาหารกระจกบานกว้าง มองทะลุเห็นสารพัดเรือวิ่ง แม้แต่เรือหางเครื่องเจโร่คันยาว ผู้โดยสารนั่ง คนชอบนั่งเวลาวิ่งน้ำกระจาย กระเซ็นถูกตัวบ้างเย็นไม่ถึงกับเปียก เรือยาววิ่งเร็ว ยิ่งเวลาจอดเทียบรับส่งผู้โดยสาร นายท้ายจะโยกคันหางเสือไปซ้ายขวา ถอยหลัง มีเรือโดยสารใหญ่หน่อยเรือกระแชง ทำเป็นเรือท่องเที่ยว แน่นอนอยากนั่งทานอาหารในเรือ ล้อมรอบด้วยบรรยากาศธรรมชาติ เรือวิ่งขึ้นเหนือ แม่น้ำมีสารพัดสิ่งของลอย สิ่งของเหล่านั้นเกิดเองหรือ ไม่หรอกพวกเรานะมีของทิ้งอยู่ในมือ ทำอย่างไรจะให้พ้นบ้าน ไม่รกเกะกะ ที่ดีที่สุดทิ้งลงน้ำ

เห็นเรือพ่วงเป็นเรือกระแชงป้อมใหญ่ ภายในเรือบรรจุสินค้าทางเกษตร แต่ที่สัมผัสจะบรรทุกข้าวเปลือกข้าวสาร เรือผูกติดกันหลายลำ ปล่อยระยะทางห่าง สาเหตุถ้าเรือกระแชงลำไหนเกิดจมน้ำ จะได้ตัดเชือกทันไม่ถูกดึงจมไปด้วย ตอนเป็นเด็กเคยนอนค้างคืนไปกับพ่อแม่ ท้ายเรือเป็นที่นอน มีหลังคา ถ้าจะนอนหน้าเรือก็ทำได้ สายตาสอดส่ายดูธรรมชาติ โดยเฉพาะกลางคืนเดือนมืด ท้องฟ้าไม่รบกวนด้วยแสงไฟจะเห็นดวงดาวมากมาย เคยเห็นดาวตก

คำว่าดาวตกจะเป็นดาวหรือมนุษย์จะมีคุณลักษณะคล้ายตกจากสูงสู่ต่ำ เหมือนคนเราเคยร่ำรวย พอช่วงการค้าเกิดขาดทุนชีวิตเคยใช้จ่ายฟุ่มเฟือยต้องหยุดชะงัก ดูแลระวังตัวมากขึ้น ครับผมชีวิตช่วงตกมากความคิดดีๆ อาจมาสู่ใจได้ อย่างน้อยไม่มีอะไรจีรัง ทำให้รู้จักควบคุมชีวิตทางพอเพียงมากขึ้น

เดินไปตักแกงเขียวหวาน เป็นแกงที่แม่ชอบ รสจัดด้วยเครื่องเทศ มองดูเรือพ่วงถูกลาก สายน้ำแรง เรือจะคดเคี้ยวพ่อแม่ทำงานค้าขายสารพัด เปิดร้านกาแฟ ขายของในแพ แม้แต่เจ้ามือหวย สำหรับหวย แม่เคยบอกว่าเป็นอาชีพผิดกฎหมายไม่น่าทำ ถึงเงินจะเข้ามาทุกวัน ทำให้คนยากจนโดยเฉพาะหวยใต้ดิน คนขาดความขยันในงานลงเยอะ สุดท้ายแม่เลิก ทุ่มเทค้าขายอย่างเดียว ตลอดเวลาแม่จะไปซื้อข้าว บดข้าว และขนข้าวลงเรือกระแชง เรือบรรจุหลายสิบเกวียน เกียนละ 100 ถัง พอเต็มแม่จะจ้างเรือชักลาก ล่องแม่น้ำป่าสักไปยังโรงสีมณีพรรณ (ของพ่อแม่รัฐมนตรี มนตรี พงษ์พานิช)

แม่อยู่โรงสีหลายคืน พอสีเสร็จข้าวสารบรรจุในกระสอบ กระสอบละ 6 ถัง โรงสีเอาแกลบ เอารำ ผมจำไม่ได้ปลายข้าวคือข้าวหักใครเป็นคนได้ แกลบคือเปลือกข้าว ตอนยุคทำอิฐแกลบคนจะหาซื้อสำหรับเผาอิฐ รำข้าวเลี้ยงสัตว์ แม่ล่องเรือมากรุงเทพฯ จอดที่คลองเทเวศร์ ขายข้าวสารปลีกและขายส่ง เวลาว่างแม่จะไปวัดต่างๆ รู้จักคุ้นเคยกับพระผู้ใหญ่ ก่อนโน้นพระผู้ใหญ่มาจากอยุธยาเยอะ แม่คลุกคลีกับวัด ไม่มีเครื่องรางของขลัง และการทำนายทายทักไม่มี คุณสมบัติเหล่านี้แม่ถ่ายทอดทางพฤติกรรมคือการกระทำของแม่กับยีนส์ส่งต่อมายังลูก พอถึงวันนี้แม่ยังไม่ตายจากลูกๆ พฤติกรรมนิสัยใจคอ ความขยันหมั่นเพียร ลูกๆ คือส่วนของพ่อและแม่

อิ่มอาหารคาว ของหวานไทยมากมายยอมรับว่าไปกันด้วยดี เคยติงตัวเองของหวานโรคเบาหวานถามหา เพื่อนคนไทยเยอะเป็นเบาหวาน ทุกวันต้องกินยาพอกินยาความรู้สึกกลัวหวานหายไป เหมือนคนเป็นเก๊าส์ เวลาเป็นเจ็บปวดทรมาน หลายรายไปห้องน้ำต้องคิดไปหาหมอ ยาที่ให้กินแก้ตอนเป็นและควบคุมโรค แต่สำคัญต้องงดอาหาร เบียร์ ไวน์ แต่พอถึงเวลาเย็นหิวไวน์ เลยคุยกับตัวจะกินน้อยลงคิดว่ายาน่าจะช่วยได้ พอเวลาผ่าน ถามหลายคนถึงจะมีชีวิตประจำกับสิ่งที่ทำให้เกิดเก๊าส์ แต่ยาก็ช่วยได้ ความกังวลหายคิดจะเลิกอาหารที่เกิดโรคก็พลอยไม่เลิกไปด้วย คงเหมือนเบาหวาน ถ้ากินยาแล้วเติมของหวานบ้าง เข้าข้างตัวเองโรคย่อมไม่เกิด

เดินไปตักขนมประกริมไข่เต่าของดั้งเดิม วันนี้งดรวมมิตร สลิ่ม ตักตะโก้ติดมือ ลูกและเมียบอกเสมอ พ่อชอบกินคุกกี้ และพาย อร่อยปากแต่สารพัดปัญหา แต่มีข้อยกเว้น ถ้าอยู่บ้านตัดได้ควรทำ และอย่าหาซื้อเข้าบ้าน แต่ถ้าไปทานอาหารนอกบ้านจะเติมของหวานบ้างตามถนัด

กินเสร็จเดินออกเลี้ยวซ้ายเดินไปไกลถึงท่าเรือ ชีวิตคนไทย การเดินทางด้วยเรือยังนิยม สะดวก ไม่ติดเหมือนรถวิ่งบนถนน ราคาย่อมเยากว่า รัฐเพียงปรับปรุงทำความสะอาดคลอง แม่น้ำ สร้างท่าเรือ จอดส่งและรับให้สะดวกและปลอดภัย ถ้าจะยิ่งอนุโมทนา เทศบาลจัดเกี่ยวกับรถโดยสาร มีแวะรับส่งบ้างบางสายผลสุดท้ายคนก็นิยม

ครับชีวิตชอบเรือ เติบโตกับพายเรือ นั่งเรือจ้าง (แจว) ไปเรียนหนังสือ ทุกปีประมาณ 3-4 เดือน แถวบ้านน้ำจะท่วม 3-4 ฟุต ไปมาเรือทั้งนั้น เป็นเด็กแข่งเรือกันสนุก ครับงวดนี้สุดทางจะไปลงท่าพระจันทร์ ถิ่นที่เคยมีชีวิต มายืนแพท่ามองทางขวามือ บ้านมากหลังสร้างล้ำแม่น้ำเจ้าพระยา คงอยู่กันมานานปี คิดว่าระบบน้ำประปาส้วมคงจะมี ขยะย่อมมีที่ทิ้งบนฝั่ง แต่อดห่วง คนไทยอะไรก็ดูง่ายไปหมด กินเสร็จคงมีบ้างทิ้งลงแม่น้ำ ครับเพียงคิดตื้นๆ สายน้ำย่อมพาสิ่งที่ทิ้งออกปากอ่าวลอยไปไกล ความสกปรกไม่อยู่ที่บ้านเรา จากการบอกกล่าว ที่ท่องเที่ยวชายทะเลของไทยบริเวณใกล้ๆ หาดทราย ปฏิกูลมากสิ่ง กองเต็มบนแผ่นดินใต้ทะเล กระป๋อง แก้ว แม้แต่ยางรถยนต์ ยิ่งพลาสติกเยอะมาก คนไทยปัจจัยชีวิตขาดไม่ได้คือถุงพลาสติก ฝนตกก็ใช้ถุงพลาสติก โอเลี้ยงพลาสติก ก๋วยเตี๋ยวและแกงพลาสติก ครับแต่ถุงอนามัยสำหรับเพศเป็นการป้องกันโรค มีลูกโดยไม่พร้อมถุงพลาสติกประเภทนี้จำเป็น แต่พอใช้แล้วก็ยังมีลอยตามคลองตลอด อดคิดคนเอามาทิ้งจากไหน หรือสมสู่ใต้ต้นมะขาม ขนุน บันไดทางลงน้ำ ใต้สะพาน

เรือขึ้นเหนือนิดเดียว สะพานพุทธ สะพานคู่เมือง รถยังหนาแน่น บนฝั่งข้างทางมีร้านขายของเยอะ มองเห็นวัดเลียบ เจ้าอาวาสวัดพุทธานุสรณ์ พระราชธรรมวิเทศมาจากวัดนี้ เดี๋ยวนี้ทะเบียนก็ยังอยู่ ท่านยังไปมาหาสู่และหน้าที่รับผิดชอบที่วัดเลียบยังมีเต็มมือ ท่านเป็นพระนักพัฒนา ญาติโยมทุกคนบอก ท่านจำชื่อคนเก่งมาก และตลอดเวลาเข้าโบสถ์ท่านจะนั่งพร้อมที่จะให้ศีลให้พรตลอดเวลา

หัวเรือเลยสะพานพุทธ ทางซ้ายมือวัดสุวรรณ เจ้าอาวาสพระราชปริยัติเวที เคยเติบโตใช้คุณธรรมสอนอบรม ประสานงานกับญาติโยมที่วัดพุทธานุสรณ์เหมือนกัน พระคุณท่านความคิดและความสามารถเป็นพระรุ่นใหม่ ครับเมืองไทยโดยเฉพาะพุทธศาสนาต้องการประยุกต์และปรับปรุงให้เข้ากับจริตของยุค สามารถทำให้ศาสนาพุทธแก้ทุกข์ได้จริงๆ ทุกสิ่งถ้ายึดสิ่งเดิมๆ โดยไม่ปรับปรุงแก้ไขให้เป็นไปตามยุคและสมัย เผลอเดี๋ยวอ้าวความไม่ทันกาลคือความเสื่อมบรรจุอยู่ในจิตวิญญาณของคนเสียแล้ว