ความจริงหรือความคิด
ไพฑูรย์ สุขสิขารมย์
ความจริงหรือความคิด 16 พฤศจิกายน 2562

ยังเดินเกะกะอยู่ในงานพิธีวางศิลาฤกษ์พระอุโบสถ วัดมงคลรัตนาราม เมืองเบิร์คเล่ย์ ดูแปลนรูปของโบสถ์สวยงาม เมื่อสร้างเสร็จน่าจะเป็นโบสถ์ที่ประชาชนนิยม แม้แต่ชาวต่างชาติ คุ้นเคยกับวัดมงคล มาทานอาหารวันอาทิตย์เยอะ วัดชาวพุทธคนรู้จักในบรรยากาศของการฝึกสมาธิ ครับจะอยู่ในโบสถ์ ในบ้าน แม้แต่ เช้ามืดอย่างวันที่ผมเขียนบทความนี้ ตื่นแต่เช้ามืด ต้มน้ำทำกาแฟ ระหว่างต้มน้ำ ตัดเค้กแบบปอนด์เค้ก รสมะนาว และฉีกครัวซองใส่รวมในเตาอบ พอกาน้ำร้านส่งเสียง แสดงว่าน้ำร้อนใช้ได้ เอากาแฟ 3 ช้อนชาใส่พูน ใส่ถ้วยทำเติมน้ำ ไม่นานกาแฟส่งกลิ่นหอม สำเร็จ รินลงในแก้วกระดาษปิดฝาชิม ครับเดี๋ยวนี้เมืองทั่วไป งดใช้โฟม สำหรับกาแฟ รวมทั้งถ้วยชามที่เป็นโฟม เหตุผลการหลอมของโฟมเกิดจากส่วนผสมที่ถูกความร้อนแล้วจะผสมปนเปกับกาแฟ เปล่าละลายนะครับ เพียงบางสิ่งละเหย การวิจัยใช้กับความร้อน แล้วอันตรายต่อสุขภาพ

แต่กรุงเทพฯของคุณและผม จะแกงร้อนๆ ควันฉุยคนสั่งเอากลับบ้าน คนขายหยิบถุงพลาสติกเปิดปากถุง ตักแกงควันโพล่งลงถุง เขาวิจารณ์ว่าความร้อนของอาหารที่ใส่ ชะล้าง ดูดซึม พวกสารเคมีในถุง ครับคนไทยมากมายโรคมะเร็ง เกิด เติบโต ใช้ร่างกายอยู่อาศัย โตวันโตคืน เพราะอาหารมากมายกินกลายเป็นปันส่วนระหว่างคนและโรค ไม่เพียงภาชนะ ทุกส่วนประกอบของชีวิตคน เดินบนถนน ดูดควันออกจากการเผาผลาญน้ำมันของรถ ลอยปะปนกับอากาศ เชิญเถอะครับ อาหาร ข้าว ผัก ปลา ถูกบำรุงด้วยสารฉีดกันแมลง แม่น้ำป่าสัก หน้าบ้านผม เคยอาบ เคยจับปลาเป็นอาหาร ยุครัฐบาลขยายอุตสาหกรรม เจริญ เจ้าของอุตสาหกรรม ทั้งๆที่มีที่บำบัดน้ำเสีย แต่ถ้าใส่บ่อบำบัด ต้องลงทุนใส่เคมีให้สิ่งเป็นพิษ เบาบาง และตกตะกอน เหมือนน้ำเสียออกจากบ้าน ไหลรวมในบ่อบำบัด กรรมวิธีให้ตะกอนที่ผสมกับน้ำ นอนหลับกับพื้นน้ำบนลดปริมาณสารพิษ ก็ถูกระบายลงทะเล ประเทศเจริญ น้ำที่ระบายลงทะเลจะทำท่อออกไกลจากฝั่ง น้ำจะได้ไหลออกไกล แต่บ้านผม จะกรุงเทพฯ หรือมากจังหวัดติดกับทะเล และแม่น้ำ จิตสำนึกของน่ารังเกียจ จะน้ำเสีย ถุงพลาสติก ของเสียกินไม่ได้ และคลองที่ถูกลอก พบทีวี แม้แต่ตู้เย็น นอนหลับมานานในคลอง หลายองค์กรถกเถียง เป็นความผิดของใคร ประชาชนหรือตัวผู้บริหารรัฐ ผมไม่สามารถรับรู้ได้ รู้แต่ว่าเมื่อมักง่าย ความเดือดร้อนก็กลับมาหาพวกเราเอง เชิญเถอะขอรับ จะมีชีวิตยืนยาว แต่เจ็บป่วย ร้องครวญคราง ผมมีเพื่อนหลายคน บางคนความจำเสื่อมนึกไม่ออกข้าคือใคร เห็นหน้าเมียดูแล คิดว่าคนใช้ ต่อว่าผลักไส ครับเมื่อความอดทนถึงที่สุด ไม่ว่ากล่าว ไม่ทุบตี แพ็คเสื้อผ้า ค้นเงินสด ติดกระเป๋า เดินออกจากบ้านไม่ร่ำลา ปล่อยให้คนประสาทพิการทั้งๆที่ยังพูดบ่นได้ แต่ประสาทหมดหน้าที่รับรู้ความถูกต้อง จะนอนจะยืนบ่นกับความว่างเปล่า คนที่รับรู้คือตัวเขาเอง หลายคนมากพวก ร่างกายพิการ ลุกเดินนั่งไม่ได้ ทั้งๆที่สภาพของจิตยังรับรู้ แต่เมื่อสื่อสารไม่ได้ ลูกเมียบอกแล้วแต่เวรกรรม คนแก่ปู่ย่าตายาย มองดูลูกหลาน คนนอนลืมตา ปากไม่พูด สมองรับรู้ คงเกิดจากบาปกรรม

ผมเดินไปที่โต๊ะ วัดจัดต้อนรับผู้จิตเป็นกุศล เดินทางมาร่วมงานวางศิลาฤกษ์ จิตใจพร้อมจะอนุโมทนาบุญ มีของกินไว้บริการ ผมเพียงหยิบขวดน้ำ แล้วหันหลังกลับ เดินตัดแถวของคนยืนรอรับอาหาร วกไปที่เต้นท์พระฉัน เสร็จเรียบร้อย มีแต่ผู้แสวงบุญ บุญคือคุณความดี จะให้เงินช่วย หรือมาตัวเปล่ามีจิตเป็นกุศล เมื่อมีความสุข มองเห็นภาพโบสถ์ สวยงามเป็นที่คนมากมาย ผลัดเปลี่ยนมาศึกษาธรรมะ นั่งสมาธิ วัดอาทิตย์มีงานเทศน์ ครับบุญคือความสุข คนมากมายมาไม่ได้

ก่อนเวลาพระฉัน ผมเดินขึ้นบันได ถอดรองเท้าไว้ข้างๆชั้นสำหรับรองเท้า เมียยังกันที่นั่งไว้ให้ เดินไปนั่งโต๊ะถ้านั่งกับพื้น นั่งขัดสมาธิคงลำบาก ลุกยืน ถ้านั่งนานรู้สึกปวดเมื่อยเวลาลุก หลายคนกุลีกุจออยากช่วย ครับคนอายุมากก็เป็นเสียอย่างนี้ ที่จริงก็ดี “ได้รับความเมตตาจากคนทั่วๆไป และเด็ก หลายคนเรียกคุณตาบ้าง คุณลุงบ้าง มีบ้างเรียกคุณน้า ผมยิ้มเอะเราอายุน้อยกว่าแม่เขาอีกเหรอ

เข้าโบสถ์พระประมาณ 30 รูป ระบบชีวิตผม เคยเป็นหัวหน้าหมวดคณิตศาสตร์ ปกติชอบตัวตรงตัว แต่พอวันนี้ ความรับรู้อาจคลาดเคลื่อน บอกขาดเกินนิดหนึ่งกลายเป็นความรู้ชอบพอ ผมหมายความพอดีเปะของพระว่ามีกี่รูป

ครับเจ้าอาวาสวัดพุทธานุสรณ์ (พระราชธรรมวิเทศ) ได้แนะนำพระ มีพระจบเปรียญ 9 ประโยคหลายรูป ท่านอาจารย์ได้แนะนำเป็นผู้คุมสอบคุณความรู้สูงย่อมเคยผ่านการสอบจนได้เปรียญ 9 ความจำย่อมยอดเยี่ยม ภาษาบาลีกว่าจะจบ ป9 ต้องอ่าน ท่อง เขียน จนเกิดความชำนาญ ชาวบ้านวิจารณ์ท่านย่อมฉลาด ขยันและมานะสาธุ สำหรับผม เชื่อหมดต้นทุน ถ้าภาษาเล่นเก้าเก พอดูไพ่ ย่อมกวาดเงินหน้าตักจนหมดใส่กอง “ผมขอเกหมดหน้าตักครับ ไพ่ดีจริง”

ดูแล เรียรู้ให้เปล่า คลุกคลีกับมวลชน ผสมปนเปงาน เสียสละ ผมเปล่าโม้ งานประเภทดูแล ช่วยเหลือสังคมผมชอบ ดูได้ผมเคยทำหนังสือพิมพ์ แจกฟรีให้เพื่อนชาวเบย์แอเรีย จิตสำนึกผมอยากกระตุ้นให้คนบ้านผมพัฒนาจิตวิญญาณ ดูแลกันและกัน รวมทั้งพัฒนางานและสังคม ผมคิดว่าถ้าผมชนะเลือกการสมัครรับเลือกตั้ง จิตใต้สำนึก (ผมนึกคิดมานานปี) และจิตสำนึกคือความรับรู้ความเป็นจริง ที่ต้องพัฒนาในปัจจุบัน คือวันนี้ อย่างน้อยให้รู้เล่ห์ของคนมาสมัคร พอได้รับเลือก กลับหายไป ถ้าจะมาก็ต้องมีผลประโยชน์ แต่คนมากมายยังนิยมคนคุ้นเคยรู้จัก ถึงจะตลบตะแลง หลอกบ้างก็ยินดี พอมาถึงบ้านเกิด บ้านพ่อแม่ ญาติ สังคมของคนที่ผมรัก เกือบทุกวันก่อนสมัครและหลังจากสมัครเป็น ส.ส. ผมจะออกเดินคุยกับประชาชน ถามทุกข์สุข และปัจจัยที่ชาวบ้านของผมต้องการ เพื่อความอยู่รอดไม่เพียงราคายางพาราที่ตกต่ำ เกือบเฉือนราคาต้นทุนที่ลงไป เมื่อเทียบกับระยะเวลาผลิตยาง ราคาที่ขายได้ อดคิดเหมือนกับถูกบังคับขาย คุณเคยเล่นหมากรุกไหมครับ ชีวิตชาวบ้านเหมือนตัวเม็ดจะต้องออกหน้า เป็นตัวล่อ (เหยื่อ) ตายก่อนเสมอ ผมรู้ดีว่า สำหรับผมหายหน้าจากความจำนาน ทั้งๆที่การหายหน้า คือการพัฒนาประสบการณ์ที่เจริญ และนำกลับไปใช้ หลายเดือนผมเดินหาเสียง พูดในชุมชน เคยสัญญาระหว่างพูดคุย ความรู้สึกประชาชน รัก ชอบพอ แต่พอถึงวันเลือกตั้ง ผมไม่ติดหลายคนบอกว่าผมสอบตก สำหรับผมคิดว่าชีวิตผมสอบผ่าน เพราะผมไฝ่คลุกคลีกับประสบการณ์ และความต้องการของชาวบ้าน ไม่เพียงเท่าที่เห็น และสัมผัส ผมวางแผนนำสิ่งที่ผมสัมผัส นำมาพัฒนาหมู่บ้านในสิ่งที่เป็นความเจริญและก้าวหน้า คิดว่าทำได้

ผมคิดเสมอ ชาวบ้านจะเลือกความคุ้นเคยเดิม คนหน้าเก่า เพราะอาจคิดว่าคนเคยร่วมทุกข์สุขมานานสมัย ย่อมรู้ใจ ดีกว่าคนหน้าใหม่อย่างผม

เหตุที่ผมบอกว่า ผมสอบผ่าน ถึงไม่ได้รับเลือกตั้ง เพราะประสบการณ์ที่ผมเดิน ไปปรากฏตัว พูดคุยถึงปัญหาชาวบ้าน รวมทั้งความหลังในภายหน้า ผมนึกเสมอประสบการณ์ตรง สีหน้า ความรู้สึกของชาวบ้านที่ผมสัมผัส ถาม คลุกคลี ความอยากได้ ความเสียเปรียบ ผมรับรู้มัน ความรู้สึกการถูกเอาเปรียบ แม้แต่เคยมีราคาน้ำมันปาล์มต่ำกว่าต้นทุน มันกลายเป็นส่วนผสมเห็นใจชาวบ้าน ปัญหาต่างๆ ที่รับโดยตรง จากปากของเพื่อนบ้าน ตกผลึก สักวัน อาจไม่มีวันนั้นที่ได้ทำงานประสาน เพื่อพัฒนาความยั่งยืนในท้องถิ่นที่ผมเติบโต