ความจริงหรือความคิด
ไพฑูรย์ สุขสิขารมย์
ไปกรุงเทพฯ ตอนที่ 9

มานอนกรุงเทพฯ หลายคืน สำหรับผมนอนที่บ้านในซานฟรานฯ รู้สึกอบอุ่นในแง่จะตื่นจะแต่งตัว ในห้องจะหยิบแก้วไวน์กับแกล้มติดมือ เปิดทีวี เพลินกับสิ่งที่เรียกว่าอบายมุข ครับชีวิตถึงจะเรียนรู้ ท่องจำ และฟังพระท่านเทศน์เรื่องศีล 5 ทุกวัน ชีวิตผมก็ยังบกพร่อง เคยคิดอบสรุปเมื่อทุกอย่างล่วงล้ำศีลบ้างเมื่อใจไม่ได้วางแผน ลงมือกระทำโดยเจตนาถึงจะผิดบ้าง เข้าข้างตัวเองมันจี๊ดเดียว ทุกวันทำความดีก็เกิดความสมดุล เหมือนใช้เงินเมื่อใช้ก็รู้จักหา แน่นอนความบกพร่องเงินในกระเป๋าเพียงเข้าออก แต่เมื่อออกจากกระเป๋าทุกครั้ง เกิดจากเจตนาเรื่องของชีวิต ย่อมเป็นเรื่องที่คิดตื้นๆ ใช้ไม่ได้แต่จริงแล้วมันคือระบบความเป็นอยู่ที่ถูกต้องของชีวิต

มากรุงเทพฯ ทุกครั้ง ย่อมเปิดแอร์ทิ้งไว้ตลอดเวลาที่อยู่ในห้อง นอนเปิดตลอดคืนเพียงปรับแอร์ให้ต่ำลง ปัญหาของแอร์คือค่าใช้จ่าย ปัจจุบันทั่วโลกราคาน้ำมัน ราคาแก๊สต่ำลงอย่างที่เรียกว่านึกไม่ถึง ผมไปมิชิแกน ก่อนมานั่งเขียน แก๊สแกลลอนละ 6.50 ดอลลาร์ อดงกถ้าราคาเหรียญเดียวคงพอใจมาก

เรื่องเปิดแอร์ คนไทยมากบ้านใช้ระบบเปิดตอนเข้าบ้าน ก่อนนอนก็ปิดเหตุผลประหยัด ยิ่งปัจจุบันเราคุยกันเรื่องโลกร้อน การประหยัดได้ย่อมยังประโยชน์ไม่เพียงครอบครัว ยับโอบคลุมไปยังชุมชนและประเทศ

กรุงเทพฯ ในสายตามากสิ่งเจริญเติบโต และอีกมากสิ่งยังคงสภาพเดิม เมื่อยังอยู่แบบเดิมๆ คนติดเกี่ยวกับวัตถุพูดเสียงดัง เมื่อโลกวิวัฒนาการเจริญก้าวไกล ถ้ายังอยู่แบบเดิม อาบน้ำใช้ถังรองแล้วตักอาบ ส้วมยังชอบนั่งยองๆ ขัดกับหลักสุขภาพ หยิบจับอาหารเดินกินตามถนน มือไม่ล้างก่อนโรคทั้งนั้น เศษสิ่งของใช้แล้วไม่โยนลงถังขยะ ทิ้งเรี่ยราดเป็นแหล่งสกปรก เชื้อโรค ค่อนแคะยังไม่เจริญ

กรุงเทพฯ เวลาขึ้นทางด่วน ผมชอบมองดูตึก ตึกสร้างมานานเตี้ย ผนังตึกดำด่าง สูตรทาสีครั้งแรก หลังจากนั้นหมดหน้าที่ ตึกเล็กๆ ถูกตึกสูงใหญ่มากชั้นยืนบัง คนอยู่ตึกเตี้ยๆ เคยคิดไหม เวลา จาม ไอ ควันรถ ไม่ลอยสูง จะคลุมบริเวณบ้าน ครับมากคนบอกว่าคนจนมีทางเลือกด้วยเหรอ ผมเห็นด้วย แต่ความเป็นจริง จน รวย จิตสามารถปรับขยาย เป็นสิ่งถูกต้องได้ เลยอดสรุปครับทุกสิ่งในโลกย่อมดูดี ดูไม่สบายตา สุดท้ายคือความผูกพันเกื้อกูล เพียงแต่คิดถูก ไม่เอาเปรียบสังคมของคน

ไม่ได้โกหก ชีวิตชอบเดินถนนแออัดพลุกพล่าน เดินเบียด ไหล่ชนแตะกันบ้างต่างไม่สน เดินต่อไป โดยเฉพาะถนนที่มีป้ายรถจอด ทางคนเข้าออก ถนนทางเท้า จะกลางวันหรือมืดค่ำจะมีสารพัดของกินเต็ม 2 ฝาก กลางวันจะมีร้านกองกับถนน ขายของใช้ แม้แต่ซ่อมเสื้อผ้า คนทำมีจักรรับเย็บ ปะชุน แม้แต่ทำให้เล็ก ผมไม่แน่ใจขยายให้ใหญ่ขึ้นได้ไหม เพราะชีวิตคนพอถึงวันเวลา อาจอ้วนขึ้น ผอมลง

ร้านริมถนนของกินสารพัด ไม่ต้องเสียเวลา ชอบอะไรสั่ง มากสิ่งต้องผัด ยืนรอไม่นาน ตักใส่ถุงพลาสติก หิ้วกลับบ้านเพียงแต่ตักข้าวสารใส่หม้อ ซาวข้าวมากหน่อย เหตุผลเดี๋ยวนี้อาหารทุกประเภทจะผัก ปลา จะปะปนสารพิษ ใส่น้ำ กดปุ่ม ปล่อยให้ข้าวดูแลตัวเอง เข้าห้อง เปลี่ยนเสื้อผ้า เดินเข้าครัว ข้าวสุก เทแกงหรือผัดใส่ถ้วย ตักข้าว หยิบขวดพริก ขวดน้ำปลา เปิดก๊อกรินน้ำเต็ม ครับหลายคนบอกว่า น้ำประปาไม่สะอาด มีมากสิ่งปะปนเป็นอันตรายต่อสุขภาพ เคยบ่นแล้วชีวิตเงินเดือนไม่มาก ย่อมต้องดูแลปัจจัย ถึงจะรับรู้เรื่องโรค แต่คนบอกว่ากว่าโรคจะขยายตัว ชีวิตเราก็ล่วงไปตามกาลเวลา

อาหารริมถนน สะดวก ราคายุติธรรม เหตุผลร้านไม่ต้องเช่า ไม่มีเงินกินก่อนที่เรียกสมัยใหม่ว่า แป๊ะเจี๊ย ครับเดี๋ยวนี้อะไรต่อมิอะไรก็เรียกเงินก่อน แม้แต่เข้าเรียนโรงเรียนระดับเกรดเอ โรงเรียนเสนอควรจ่ายเงินเพื่ออุปกรณ์ ร้านค้าที่มาตั้งทำมาหากิน ใครเคยตั้งก่อน คนมาใหม่รับรู้ไม่ตั้งร้านที่คนมาตั้งประจำ

มีคนเคยบ่น ทางเท้าควรเป็นทางเดิน คนก็เยอะ ตั้งร้านขายล้ำทางเดินเกะกะ แต่ชีวิตคนไทยไม่ว่ารุ่นพ่อของพ่อ รุ่นลูก รับรู้การทำมาหากินบนทางเท้าไม่เคยรังเกียจ ความสะดวกไม่เคยเกิดกับใจเพราะอาหารที่วางขาย คนที่ไม่มีทุนเปิดร้าน ค้าขายได้เล็กๆ น้อย สามารถดูแลครอบครัว ผมสังเกตอาหารที่ขาย จะเลือกอาหารถูกปากคนซื้อ สารพัดแกง ผัดเผ็ด

ผมเดินได้กลิ่นไก่ย่างมากับลม ความรู้สึกหิว หยุดซื้อ น่องกับขาไก่ใส่ถุง ถือโอกาสเดินแทะ

คืนนี้ ความตั้งใจไปหัวลำโพงอยู่ไม่ไกล เดินข้ามถนน แทะขาไก่ รอรถ พอดี รถฟรีมา บอกว่าบริการจากภาษีประชาชน ครับอดขอบคุณรัฐบาล คนกรุงเทพฯ ประเภทใช้แรงงาน รายได้น้อยมีของฟรีบ้างเท่ากับดูแลคนของชาติ

ชอบการออกแบบสถานีหัวลำโพง หลังคาโค้งมีกระจก ถึงเวลาเปลี่ยนแต่สภาพที่เห็นสามารถเรียกความรู้สึกเก่าที่สัมผัสออกมาจากส่วนลึกของชีวิต สถานีหัวลำโพงยามค่ำคืนยังมีคนมาจากเมืองไกลจะรอรถเที่ยวพรุ่งนี้เช้าหรือเดินกลับจากหางาน ยึดสถานี เก้าอี้ยาวเป็นที่หลับนอน สังคมสมัยใหม่กวาดรวมคนมาหลับนอนตามที่สาธารณะว่าคนไม่มีบ้าน ในอเมริกาช่วงข้าวของแพงคนตกงาน ครอบครัวแตกแยก ติดยา เดินออกจากบ้านซึ่งไม่สามารถอยู่ได้ ใช้ชีวิตหลับนอนตามริมถนน พาร์ค แต่คนพวกนี้รัฐบาลดูแล พยายามสร้างบ้านให้อยู่ รัฐบาลจ่ายเงินให้ประทังชีวิต อาจจะต่างกับคนไทย จนแล้วจนเลย ถึงจะมีตัวช่วยจากรัฐบาลแต่จี๊ดเดียว เกษียณ 600 บาท โรงพยาบาลรอทุกครั้งครึ่งวัน พวกติดยาต้องพึ่งตัวเอง จะรอศูนย์บำบัดคงยาก

หลายคนเคยบอก นั่งรถไฟชั้น 3 ฟรี เก้าอี้นั่งเป็นไม้ 2 แถวริมหน้าต่าง ชั้นนี้ผู้โดยสารตีตั๋วยืน อาจนั่งยองๆ ห้องน้ำยังเหมือนเดิม ระบบถ่ายเรี่ยราด เรื่องกระดาษชำระไม่มี ครับแม้แต่ช็อปปิ้งมอลล์เล็กๆ กระดาษชำระก็ต้องจ่ายเงิน

รถไฟถึงเวลาจะผ่านนานหลาย 10 ปี ก็ไม่เคยได้พัฒนา ยังสกปรกสภาพเดิม ทุกอย่างที่เป็นของบริการแม้แต่รถโดยสาร ระบบภายในรถโดยเฉพาะแถวบริเวณคนขับ รถยังใช้ครัชยาว คนขับรถบางคันมีเชือกโยงผูกเบรค ตรงที่เปลี่ยนครัชตู้มนกลมยังอยู่ จะมีกระติกน้ำ

ค่ำคืนจะกรุงเทพฯ หรือในอเมริกาจะมีคนเดินหาของตามถังขยะ อย่างขวดพลาสติกสะสมนำไปขาย มีบ้างหาเศษอาหารจากถังขยะ เคยเห็นบ่อย เดินหยิบก้อนบุหรี่สูบ ครับคนพูดว่าชีวิตต้องเลือกสิ่งดี คงเหมือนหัวกับก้อย

ชีวิตคนช่างแตกต่าง จะอยู่ส่วนไหนของโลกประเทศเจริญ ประเทศกำลังพัฒนาหรือด้อยพัฒนา ประชาชนจะมีชีวิตขาดหลักประกัน ยิ่งเดี๋ยวนี้โลกมากประเทศมีปัญหารุนแรง รบ ฆ่ากันเอง ประชาชนหอบสัมภาระ ลูกหลาน เดินทางไกล ออกนอกประเทศ ความหวังเพื่อชีวิตดีๆ ในประเทศอื่น

ความเป็นจริง ชีวิตดีๆ อยู่ไม่ไกลเพียงรู้จักมานะ ขยัน ยึดหลักในความถูกต้องเป็นพลังนำชีวิต สังคมไทยช่วงที่ผมสัมผัส

ทุ่มเทชีวิตกับตุ๊กตาลูกเทพ ทำขึ้นคนปลุกเสก ความเชื่อมีไว้ครอบครองสิ่งดีๆ บังเกิด คนเชื่อศาสนาพุทธในทางถูกต้องสามารถพูดกับสติได้ตลอดเวลา เราจะทำอะไรคิดในสิ่งที่ถูก มีสติกับกายใจ ความถูกต้องจะเป็นตัวนำให้กับชีวิต ไม่งมงายเท่ากับแนะควรเชื่อในสิ่งมีสาระคือเป็นจริง