ความจริงหรือความคิด
ไพฑูรย์ สุขสิขารมย์
มิถุนายน

งานพิเศษมีเพิ่มหลายอย่างในเดือนนี้ อากาศเริ่มร้อน ฝนหายหน้า แดดจ้าขึ้น ต้นเดือนแม่บ้านเอ่ยปากตอนไปรับที่วายเอ็มซีเอ วันนี้จะเลี้ยงอาหารกลางวัน เลือกได้จะเอาร้านจีนร้านไหน หลายมื้อชีวิตฝากไว้กับร้านจีน เหตุผลสะดวกต่อการไป อาหารพื้นๆ เหมือนไทยคุณภาพกับปริมาณไม่รู้จะเสนอแนะอะไร เพียงรับรู้ราคาไม่แพงมาก รสถูกลิ้นให้เยอะทุกครั้งกินสองคนเหลือกลับบ้าน เป็นอาหารมื้อต่อไปได้ หลายคนเคยติง อาหารกินสองมื้อเหมือนกัน ยิ่งมื้อต่อไปเหลือกลับบ้าน คุณภาพย่อมด้อย ไม่แน่ใจจะเออออด้วยไหม เพียงรู้ว่าชีวิตไม่ติดน่าจะสบาย

ชีวิตไม่เคยคิดลึกซึ้งมากตามที่ถูกกล่าวหา เพียงคิดว่าชีวิตแต่ละวันมีอะไรกินได้ อิ่มมีพลังงาน ชีวิตก็เพียงพอแล้ว เคยมองดูตัวในกระจก การแต่งตัว แม่บ้านบอกกล่าวเสมอ ชีวิตเมื่อวัยมากขึ้น การแต่งตัวและการดูแลสุขภาพต้องใส่ใจมากขึ้น เพราะการดูแลตัวเองคือการพัฒนาสิ่งที่ทรุดให้มีความสดใสขึ้น พูดภาษาคนธรรมดา ให้ชีวิตน่าดูไม่ใช่ถูกมองแล้วถูกตำหนิ

จริงแท้ ทุกวันข่าวโฆษณาในจอทีวีเรื่องเสริมให้สุขภาพดูดี รอยย่นบนหน้าทำได้โดยยาหรือผ่าตัด มากคนเลือกการเสริมส่วนสึกหรอโดยการผ่าตัด เจ็บตัว เสียเงินเยอะ ครับเมื่อแลกกับสิ่งดีๆ ที่เป็นความพอใจ เชิญเถอะหลังจากทำ คำชมเชยผ่านเข้าหูตลอด เมื่อยิ้มออก หัวเราะร่วน ครับคือความสุข มากสิ่งลงทุน “คุ้มค่า” เหตุผลที่แม่บ้านเสนอเลี้ยงอาหารคือวันเกิด ครับวันเกิดก่อนโน้นเคยจัดงานชวนเพื่อนมาดื่มไวน์ กินอาหาร คุยหัวเราะ การจัดงานวันเกิดหดตัวไปนานแล้ว ชีวิตเริ่มปรับให้ความเป็นปกติของชีวิตทำงานเอง เพียงรับรู้ เอออายุมากขึ้นทุกวัน

อดคิดความเป็นมงคลของชีวิต อยู่ที่การกระทำไม่ต้องพึ่งความเชื่อนอกตัว แล้วนั่งรอไม่ลงมือทำ เห็นจะไม่สำเร็จ อาจมีบ้างความสำเร็จมาสู่ตัว ถ้าพิจารณาย่อมเกิดจากสองมือ ความคิด มานะ อดทน เหมือนกับความสวยของคน คนส่วนมากพิจารณาภายนอกสบตาความงามถูกดึงสู่ใจ มากคนความงามภายในมีมาก จะยืนยาวคงทน และนำความสุขมาสู่ผู้ใกล้ชิด

เดี๋ยวนี้ข่าวสารจะโทรศัพท์บอกเล่าหมดเวลา เคยได้รับคำบอกจากคนข้างเคียง ผมหมายถึงเพื่อน ที่จะบอกข่าวสาร เริ่มหดหาย ชีวิตคนส่งผ่านทางข้อเขียน บนจอโทรศัพท์ อย่างผมไม่เคยมีโทรศัพท์ที่จะนั่งส่งข้อความ นั่งอ่านหาความรู้ ไม่เคยมีเป็นสมบัติตัวเองเพียงมีโทรศัพท์รุ่น 4-5 ปีที่แล้ว แบบโทรศัพท์การใช้งานล้าหลัง ครับความเป็นปัจจุบัน อุปกรณ์มากสิ่งพัฒนา รวดเร็ว ทันเหตุการณ์ นอกจากจะเป็นอุปกรณ์ของชีวิตคนรุ่นใหม่ มากสิ่งกลายเป็นอุปกรณ์เสริมคุณค่าของชีวิต เหมือนเสื้อผ้า กระเป๋า รองเท้า รถยนต์ และสิ่งที่นอกเหนือจากวัตถุ คือบุคลิกของตัวเอง คงจะหมายถึงท่าทาง เดิน นั่ง ครับฝึกสิ่งดีๆ ให้เป็นความเคยชิน เรียกว่า ความเป็นปกติ สายตาจากคนอื่นย่อมพอใจด้วย

แม่บ้านบอกว่า วันที่ 9 มิถุนายน ที่วัดพุทธานุสรณ์ เวลาทุ่มตรง จะมีการสวดถวายพระพรพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว ที่ครองราชย์มา 70 ปี เป็นพระมหากษัตริย์ที่ครองราชย์ยาวนานที่สุด และพระองค์ท่านทรงงานเพื่อคนไทย ประเทศชาติมาตลอดเวลา ครับเชิญมาร่วมพิธีสวดถวายความเป็นมงคลแก่พระองค์ท่าน

แม่บ้านบอกว่าต้องใส่เสื้อเหลืองเป็นความทรงจำ ไม่เคยมีเสื้อเหลืองเป็นสมบัติของตัวเอง เคยร่วมงานถวายพระพรแสดงความจงรักภักดีต่อพระองค์ท่าน หลายครั้งเพียงแต่งตัวสุภาพ สะอาด ความเข้าใจของผมก็สมบูรณ์แล้ว

แต่งวดนี้เกิดกับใจ อยากแต่งตัวเหมือนฝูงชนที่ไปนั่งในโบสถ์ มีจิตหนึ่งเดียงดูทุกอย่างคือสิ่งดีงามเป็นอย่างเดียว ผมเริ่มหาซื้อเสื้อสีเหลือง ไปร้าน Ross แม้แต่ร้านเมซี่ สุดท้ายแวะไปร้านมือสอง ครับเหลือเชื่อ พบกับเสื้อที่ต้องการ ขนาดที่ผมสวม และที่หน้าอกเสื้อมีตรา ราคาไม่ถึง 10 เหรียญ ถูกแพง พอกับก๋วยเตี๋ยวราดหน้า ผัดไท มื้อกลางวัน สำหรับอาหารกินแล้วอิ่ม อีกสองสามชั่วโมงก็หิวอีก แต่เสื้อที่ผมซื้อเป็นสมบัติจะอยู่กับผมนานเท่านาน ความรู้สึกดีๆ บังเกิดทุกครั้งที่ผมสวมใส่ ประเทศชาติเจริญ ความยากไร้ของคนด้อยโอกาส ได้รับการดูแลจากพระองค์ท่าน พุทธศาสนาอยู่คู่กับชีวิตคนไทย พระองค์ท่าน สนับสนุน ส่งเสริม และทรงถือศีลฉันท์อาหารสองมื้อ จะนั่งเดินสงบ เป็นแบบอย่าง

จากบ้านขับไปวัดพุทธานุสรณ์ ประมาณชั่วโมง ครับระยะทางเกิน 40 ไมล์ อย่างน้อยอาทิตย์ละครั้งจะไปวัด เชื่อโดยเหตุผลวัดเป็นสถาบันศักดิ์สิทธิ์ วัดเจริญก้าวหน้าทางธรรมเกิดจากพระสงฆ์ วัตถุที่เป็นวัดโบสถ์ กุฏิ ศาสนา บริเวณที่สงบ อาหารมื้อกลางวัน คนยืนเรียงตักอาหารทุกวันอาทิตย์ เพื่อบริการญาติโยม มีมากคน ยืนบริการ คนเข้าแถวยาว ครับผมรู้สึกดีเสมอ ตอนเข้าแถวทานอาหารกลางวัน ถึงแถวอาจยาว แต่ได้คุยและสัมผัสกับผู้มีจิตเมตตา ทำอาหารมาถวายพระสงฆ์ และทำเพิ่มขึ้น เผื่อญาติโยม สายตาและความรู้สึกรับรู้ ชีวิตคนมาวัด คือการมาทำสิ่งดีงาม เพราะความเมตตาพัฒนาความเสียสละ จริงแท้อาหารทำแล้วกินภายในครอบครัว แล้วทำเผื่อคนอื่นด้วยเชื่อหมดใจว่า ส่วนสัมผัสของคนไม่ว่าจะวัตถุ ความรู้สึกดีๆ ภายในวัดเกิดจากคน เป็นความจริงชีวิตถ้ารู้จักให้ เสียสละ จะเป็นส่วนสร้างสังคมให้เจริญก้าวหน้า ถ้าคุณธรรมเข้าสู่จิตใจในคนจำนวนมากสังคมที่อยู่จะสงบร่มเย็น

หลายคนมาวัดยังใช้วัดไม่ถูกครบถ้วน วัดไม่ใช่เป็นสถานที่ควรบูชา กราบไหว้ และทำบุญเท่านั้น หลักใหญ่ของพุทธศาสนา คือสอนให้คนเข้าถึงการใช้ “ปัญญา” ให้เข้าถึงศาสนา คือ รู้จักคิด รู้จักทบทวน ท่อง ภาวนา จริงนะ คุณทุกข์ใจ มาวัดช่วยได้เสมอ รู้จักถ่ายเทความทุกข์บอกเล่า คนรู้จักพระ สร้างมิตรใหม่ กล้าประกันได้ว่า ถ้ารู้ความจริงของหลักพุทธศาสนา ชีวิตย่อมสงบ ชีวิตวัดคือการพัฒนาสิ่งถูกต้อง ความเป็นจริงของ อย่างทำบุญจะทำด้วยแรงกาย เงินจะนิดหน่อย หรือเงินหลายใบ ความสุขกาย สบายใจ ย่อมเท่ากัน ธรรมชาติคือความเป็นจริงของสรรพสิ่ง ความจริงที่ว่ามีน้อยให้น้อย ให้เท่ากับความสามารถให้แล้วไม่เดือดร้อนหรือเพียงเป็นส่วนของหมู่ชน ให้เพียงความรู้สึกดีๆ กับวัด ครับบุญก็ครบองค์แล้ว

ผมไปถึงวัดแต่วัน คือมีเวลาเกินชั่วโมงครึ่ง มีคนยืนข้างโต๊ะ มีเสื้อสีเหลือง คำพูดเชิญครับ จะหยิบเสื้อติดมือฝากคนที่บ้าน เพื่อน เชิญเถอะขอรับ เพียงแต่ดูขนาด เพราะของไทยจากคำบอกกล่าว ตัวเสื้อเล็กโตต่างกับที่นี่ เรื่องเงินจะให้มากหรือน้อยตามจิตศรัทธา คำว่าศรัทธาคือการให้ตามจิตนิยม จะมากหรือน้อยเชิญเถอะครับ เงินทุกจำนวน ถวายวัด เป็นกองกลาง พัฒนาวัด หลายคนเคยถามว่าไม่มีเงิน แต่อยากมีเสื้อ เอาไว้ใส่แสดงความรู้สึกเคารพ บูชา และเทิดทูลคุณความดีได้ไหม อาจจะเกินความสามารถในความเช้าใจเจตนาของคนเอาเสื้อมาวาง แต่ถ้าเป็นของวัดท่านคงไม่สนใจ จะถวายมากหรือน้อย หรือหยิบไปใช้ในประโยชน์ วัดคงมีใจไม่คิดมาก เชิญเถอะครับ คำว่าศรัทธาคือความพอใจ จะหยิบแบงค์สิบ แบงค์ห้า หรือไม่มีเลย มันเป็นความถูกต้องทั้งนั้น เป็นสายประสาน คือประชาธิปไตย ผมรี่ไปโต๊ะกาแฟ ครับที่วัดพุทธานุสรณ์จะมีบริการ ชา กาแฟ น้ำ คุกกี้ ไว้บริการ ทุกวันอาทิตย์ และวันที่มีงาน บ่อยครั้งหลวงพี่นิกรณ์จะหยิบ กล่องคุกกี้มาวางไว้ ครับคุกกี้โยมถือมาถวาย พระฉันหรือเหลือกินนำมาให้ญาติโยมได้ทาน คนซื้อถวายย่อมครบองค์บุญ คือถวายพระ และทำทานด้วย

เคยมีบ้างคนนำมาถวาย ยังยึดติดแต่พระยังหวง วัตถุอาหารที่คนอื่นกิน ครับทุกคนความดีที่เรียกว่าบุญ ย่อมไม่ครบองค์ การให้คือการละ คือการวางใจให้ถูกทาง

ก่อน 7.00 PM คนมาเยอะ หญิง ชาย ต่างสวมเสื้อเหลือง วัดวางแถวเก้าอี้ ทุกคนมีจิตต์หนึ่งเดียว เข้าโบสถ์ จิตสงบ พระสงฆ์นั่งสงบ เป็นตัวแทนของศาสนา พยายามละกิเลส จะมากหรือน้อยต่างองค์ได้ สิ่งสัมผัสคือการวางตัว สงบ ใฝ่รู้ เป็นแบบอย่าง

พิธีเริ่ม ทุกคนมีกระดาษสวดมนต์ในมือเป็นภาษาบาลี เนื้อหาจากคำบรรยายของเจ้าอาวาสพระราชธรรมวิเทศ ต่างส่งจิตใจสงบ คุณความดีปรารถนาให้สุขภาพ พลานามัยของพระองค์ท่านเป็นความสุข สงบ ปราศจากโรคภัย

ผมเชื่อจิตเมื่อสงบ มีความปรารถนาดี คือความเป็นมงคลหนึ่งเดียว ย่อมถ่ายทอดเป็นพละกำลัง ถึงผู้เราปรารถนาเห็นสิ่งที่เป็นมงคลบังเกิดขึ้น เชื่อหมดใจ สิ่งดีย่อมสัมผัสและเสริมต่อคุณความดีที่มีอยู่แล้ว ให้เพิ่มพูนจบการสวดถวายพระพร ทุกคนต่างยิ้มแย้ม ร่าเริง ครับผมวันดีๆ ของชีวิตได้เสมอ โดยเฉพาะคืนวันที่ 9 มิถุนายน 2016